ตอนที่ 2174 ศึกนองเลือดที่เหนือความคาดหมาย
พลังระเบียบพลิกม้วน แผ่ออกราวกับคลื่นน้ำ แม้พุ่งชนทัพสัตว์ประหลาดฟ้าดาราแตกสลายไป แต่ยังคงมีสัตว์ประหลาดฟ้าดาราบุกมา
ตอนนี้หลินสวินมั่นใจแล้วว่า เดรัจฉานเหล่านี้พุ่งเข้าหาตน!
เขาไม่อาจคิดมากความ เตรียมพร้อมลงมือ พลังรอบตัวทะยานถึงขีดสุดทันที เปลี่ยนเป็นผงาดกร้าวและแข็งแกร่ง
โฮก!
ตัวแรกที่พุ่งมาคือสัตว์ประหลาดที่รูปร่างคล้ายนกปีศาจ ปีกดำสนิทราวกับเมฆที่ร่วงจากท้องฟ้า กรงเล็บคมใหญ่ยิ่งกว่าบ้าน
พร้อมๆ กับที่มันคำราม แสงเลือดน่าสะพรึงพุ่งออกมา กลายเป็นแหใหญ่ที่บดบังท้องฟ้าปกคลุมไปทางหลินสวิน
ระดับจักรพรรดิขั้นสาม!
แววตาของหลินสวินไม่ทุกข์ไม่สุข ตัดสินพลังต่อสู้ของอีกฝ่ายได้ทันที จากนั้นสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง
ตูม!
ปราณกระบี่ราวกับมหาสมุทรที่เอาใจ พุ่งขึ้นฟ้า
เสียงพุ่งชนที่สะเทือนหูดังขึ้น แสงธรรมและแสงประกายศักดิ์สิทธิ์สลับทับซ้อน แผ่ในอากาศป้อมปราการในระยะไกล
สัตว์ประหลาดที่รูปร่างคล้ายนกปีศาจพลันถูกปราณกระบี่ฟันจนสั่นไหวแทบจะร่วงหล่น ปีกสองข้างบาดเจ็บ เลือดสดสาดกระเซ็นราวกับน้ำตก
เจ็บจนมันแหงนหน้าขึ้นคำราม สะเทือนฟ้าดารา
ไม่รอมันหลบหนี กระบี่กระดูกชุดนั้นก็พุ่งมา รวมทั้งหมดสิบแปดสาย กลายเป็นค่ายกลกระบี่ฟันสังหารรุนแรง
ไม่ทันไรสัตว์ประหลาดนกปีศาจถูกสังหาร บนกระบี่กระดูกงดงามเปื้อนคราบเลือด
“ร้ายกาจขนาดนี้เชียว” ไกลออกไปจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงที่หัวใจแขวนลอยขึ้นสูงเบิกตาโพลง แทบไม่กล้าเชื่อ
สามวันก่อนเขาเคยเห็นหลินสวินสังหารสัตว์ประหลาดระดับจักรพรรดิขั้นสองตัวหนึ่งอย่างง่ายดาย
และตอนนี้ นกปีศาจที่เทียบเท่าระดับจักรพรรดิขั้นสามถูกกำจัดในชั่วพริบตา!
พลังต่อสู้ที่พลิกฟ้าเช่นนี้เหลือเชื่อจริงๆ
อันที่จริงสามารถทำได้ถึงขั้นนี้ก็มีสาเหตุ สัตว์ประหลาดฟ้าดารานั่นแม้จะแข็งแกร่ง แต่ต่อหน้ากำแพงเมืองหมื่นมรรคกลับพบเจอการสกัดขวาง ทำให้พลังต่อสู้อ่อนแอลงโดยไร้รูป
นอกจากนี้สัตว์ประหลาดฟ้าดารามีเพียงสัญชาตญาณการเข่นฆ่าเท่านั้น ไม่มีสติปัญญา พลังจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่ใช่จะเทียบกับผู้ฝึกปราณระดับจักรพรรดิขั้นสามที่แท้จริงได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ หลินสวินที่มีพลังกำราบระดับจักรพรรดิขั้นสามอยู่แล้ว การสังหารคู่ต่อสู้ระดับนี้จึงเป็นเรื่องง่ายดายมาก
เพียงแต่ตอนนี้สีหน้าของหลินสวินกลับเคร่งขรึมเล็กน้อย
นี่เป็นเพียงแค่สัตว์ประหลาดฟ้าดาราตัวแรกเท่านั้น ห่างออกไปไกลยังมีสัตว์ประหลาดฟ้าดาราสิบกว่าตัวพุ่งมา ทุกตัวล้วนรูปร่างแปลกประหลาด กลิ่นอายท่วมฟ้า เหี้ยมโหด ดุดัน และกระหายเลือด
ตัวที่ศักยภาพอ่อนแอที่สุดยังมีพลังของระดับจักรพรรดิขั้นสอง ที่แข็งแกร่งที่สุดถึงขั้นทำให้หลินสวินเองยังใจสั่นไประลอกหนึ่ง ไม่สามารถดูตื้นลึกหนาบางออกได้
และในตำแหน่งที่ไกลยิ่งกว่าซึ่งมีพลังระเบียบขวางกั้น ยังมีสัตว์ประหลาดฟ้าดารามากมายกระจายอยู่ตรงนั้น มีความเป็นไปได้ว่าจะพุ่งเข้ามาตลอดเวลา!
ทั้งหมดนี้เพ่งเล็งมาที่เขาคนเดียว แค่คิดก็รู้ว่าน่ากลัวเพียงใด สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิยังสิ้นหวังได้
อันที่จริงยามนี้ในป้อมปราการบริเวณอื่นของกำแพงเมืองหมื่นมรรค ล้วนจับตามองการต่อสู้ครั้งนี้อย่างไม่คลาดสายตา
ขนาดของทัพสัตว์ครั้งนี้เรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อน แต่ที่น่าแปลกใจคือ ทัพสัตว์เช่นนี้กลับพุ่งเป้าไปที่คนผู้เดียว!
ทว่านี่กลับทำให้ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ที่เฝ้าอยู่บนกำแพงเมืองหมื่นมรรคหลบเลี่ยงหายนะครั้งใหญ่ได้ครั้งหนึ่ง
และในสถานการณ์เช่นนี้จึงทำให้ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นมีโอกาสจับตามมองศึกครั้งนี้
ที่น่าเสียดายคือกำแพงเมืองหมื่นมรรคทอดยาวหาใดเปรียบ ระยะห่างระหว่างแต่ละป้อมปราการก็ไกลมาก
สัตว์ประหลาดเฒ่าที่มาจากทั่วหล้าฟ้าดาราเหล่านั้น ‘มองเห็น’ เพียงแค่ทิศทางที่ทัพสัตว์โจมตี แต่ไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าใครกันแน่ที่ประสบเคราะห์สังหารอันน่ากลัวนี้
มีเพียงจักรพรรดิสงครามหลิงเฟิงซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด และสามารถมองเห็นแต่ละภาพที่เกิดขึ้นได้ แต่เขากลับไม่ได้เปิดเผยฐานะของหลินสวิน
ตูม!
ในฟ้าดาราตรงหน้าป้อมปราการของหลินสวินปั่นป่วนไปทั้งแถบ เงาร่างใหญ่โตของสัตว์ประหลาดฟ้าดาราแต่ละตัวเบียดเต็มฟ้าห้วงอากาศแถบนั้น โจมตีเข้ามา
พลังระเบียบของกำแพงเมืองหมื่นมรรคก็ไม่สามารถกำราบการพุ่งโจมตีของพวกมันได้
ยามนี้หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง ไฟต่อสู้ลุกโชนในดวงตาดำ
นี่คือเส้นทางนิพพานของระดับจักรพรรดิ แต่ในขณะเดียวกัน ยังเป็นเส้นทางนิพพานบรรลุจักรพรรดิของหลินสวิน!
ฮูม…
แสงมรรคระลอกพลิกม้วน ร่างแยกทั้งห้าอย่างไม้เขียว ดินเหลือง เพลิงแดง วารีดำ ทองขาวล้วนปรากฏกลางอากาศ
หลินสวินพูดในใจ ‘การต่อสู้วันนี้แม้มีมหัตภัยซ่อนอยู่ แต่ขอเพียงสามารถคลี่คลายได้ การบรรลุมกุฎจักรพรรดิก็อีกไม่นานแล้ว!’
‘ทุกคนไปพร้อมกับข้า สู้!’
ร่างต้นของหลินสวินออกโจมตีเป็นคนแรก เงาร่างพร่างพราย แสงมรรคตัดสลับ ราวกับมีโลกแรกกำเนิดปรากฏขึ้นรางๆ เหมือนเตาหลอมแต่ไม่ใช่เตาหลอม เหมือนหุบเหวแต่ไม่ใช่หุบเหว
ตูม!
สัตว์ประหลาดที่ราวกับอสรพิษยักษ์ตัวหนึ่งพุ่งมา ปากใหญ่อ้าออก สามารถกลืนกินสุริยันจันทราดาราได้ เกิดพลังกลืนกินไร้เทียมทาน
หลินสวินไม่หลีกไม่หนี ซัดหมัดกระแทกออกไป
พลังหมัดราวกับเตาหลอม มีอานุภาพกำราบอดีตปัจจุบันรางๆ ฉีกกระชากห้วงอากาศเป็นชิ้นๆ และทำลายพลังป้องกันของสัตว์ประหลาดอสรพิษยักษ์
ในการปะทะที่น่าตกตะลึง ภายใต้การโจมตีจากพลังหมัดของหลินสวิน หัวของสัตว์ประหลาดอสรพิษยักษ์ถูกพลังหมัดซัดจนกลายเป็นโพรงเลือดขนาดใหญ่โดยตรง
มันส่งเสียงคำรามออกมา ร่างกายดิ้นพล่านรุนแรง หางงูที่หนาใหญ่ราวกับภูเขากวาดไปตามแนวขวาง เกิดพลังอันรุนแรงไร้เทียมทาน
ตูม!
ลำแสงเปลวเพลิงที่บาดตายิ่งกว่าสุริยันดวงโตพุ่งเข้ามา ก็เห็นหางอสรพิษยักษ์นั่นถูกเผากะทันหัน กลายเป็นขี้เถ้า
กายมรรคเพลิงแดงลงมือแล้ว ใช้เนตรผลาญเผา!
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
…ในเวลาเดียวกันร่างแยกทั้งสี่อย่างกายมรรคไม้เขียว กายมรรคดินเหลืองก็ลงมือพร้อมกัน แต่ละคนสำแดงฝีมือแข็งแกร่งยิ่งยวดง เผยอานุภาพที่แตกต่างกัน
ฟ้าดาราแถบนี้ปั่นป่วน ราวกับศึกตะลุมบอนแห่งยุคปะทุขึ้น โจมตีจนดวงดาวสั่นไหว สุริยันจันทราอับแสง แสงมรรคที่พุ่งทะยานและประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ม้วนตัว ราวกับมหาสมุทรที่โหมกระหน่ำ แผ่กระจายทั่วทิศ
นี่น่ากลัวเกินไป
สัตว์ประหลาดฟ้าดาราสิบกว่าตัวโจมตีพร้อมกัน พลังทำลายล้างที่เกิดขึ้น สามารถโจมตีโลกเล็กแห่งหนึ่งให้ทลายได้อย่างง่ายดายแล้ว
แต่ตอนนี้หน้าป้อมปราการ หลินสวินมีเพียงตัวเองกับร่างแยกทั้งห้า!
ตูม โครม!
สถานการณ์การต่อสู้ดุเดือด สามารถเห็นน้ำเลือดแดงสดสาดกระจายได้ทุกที่ เสียงคำรามสะเทือนฟ้าราวกับฟ้าร้องดังก้อง ซัดจนฟ้าดาราวุ่นวายอลหม่าน
มองจากไกลๆ ราวกับศึกแห่งเทพมารดึกดำบรรพ์ปะทุขึ้น ฟ้าดินมืดสลัว ชักนำคาวเลือดและความโกลาหลไร้ขอบเขต
หลินสวินและร่างแยกปกป้องอยู่บนป้อมปราการ เข่นฆ่าเต็มกำลัง ไม่กล้าออมมือแม้แต่น้อย
ร่างของเขากำยำ ลงมือเผด็จการ พริบไหวอยู่หน้าป้อมปราการ คัมภีร์มรรคและวิชาต่อสู้ชั้นยอดมากมายถูกเขาใช้อย่างคล่องมือ
ทุกการกระทำล้วนเผยความองอาจโดดเด่นปานไร้ศัตรู
ส่วนร่างแยกทั้งห้าของเขาก็ไม่ด้อยกว่าสักนิด แต่ละร่างพาดขวางอหังการ ร่วมมือกันช่วยหลินสวินโจมตีสังหารอย่างเด็ดขาด
ตูม โครมๆ…
พื้นที่แถบนี้โกลาหลกว่าเดิม กำแพงเมืองหมื่นมรรคมีพลังระเบียบป้องกัน ย่อมไม่มีทางถูกสะเทือน แต่นี่ไม่สามารถปกป้องหลินสวินได้มากนัก
สถานการณ์เช่นนี้เขาทำได้เพียงพึ่งตัวเอง!
“ฆ่า!”
ดวงตาดำขลับของเขาราวกับหุบเหวเดือดพล่าน จิตต่อสู้รอบตัวถูกกระตุ้น สำแดงความยอดเยี่ยมในการต่อสู้ ทุกการโจมตีล้วนประหนึ่งหักทำลายไม้ผุ อานุภาพดุกร้าวเด็ดขาด แข็งแกร่งอหังการ
ของเพียงถูกเขาโจมตีบาดเจ็บ ไม่จำเป็นต้องตามพัวพันอีก ก็จะถูกร่างแยกมหามรรคอื่นๆ ฉวยโอกาสกำจัด ร่วมมือกันได้อย่างไร้ที่ติ
เพียงครู่เดียวก็มีสัตว์ประหลาดฟ้าดาราหกตัวถูกเขาโจมตีสังหาร เลือดสาดฟ้าดารา
“เจ้าหมอนี่…”
จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงที่เห็นทุกเหตุการณ์อึ้งงัน พบเจอการบุกโจมตีที่น่าสะพรึงเช่นนี้ หากเป็นเขายังไม่มีความมั่นใจว่าจะต้านทานได้เลย
แต่มกุฎกึ่งจักรพรรดิอย่างหลินสวิน กลับสังหารราวกับเทพในการต่อสู้ที่ดุเดือด อานุภาพราวกับแข็งแกร่งไม่อาจทำลาย ทั้งยังฉวยโอกาสสังหารสัตว์ประหลาดฟ้าดาราหลายตัว!
นี่ทำให้จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงถูกสะท้านสะเทือน ยากจะเชื่อ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ใครเคยเห็นคนรุ่นเยาว์ที่พลิกฟ้าขนาดนี้
ไม่มีเลย!
จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงยังอดสงสัยไม่ได้ หากตนกับหลินสวินประชันกัน มีโอกาสชนะเท่าไหร่
ยิ่งคิด เขายิ่งตกใจ
แต่จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงเองก็สังเกตเห็นว่า ตอนนี้แม้หลินสวินจะเข่นฆ่าอย่างแข็งกร้าว แต่คู่ต่อสู้ของเขามากเกินไป และยังมีจำนวนมากที่ตอนนี้ถูกขวางอยู่ไกลออกไปซึ่งอาจจะสังหารเข้ามาได้ตลอดเวลา
พูดสั้นๆ ก็คือสถานการณ์ของหลินสวินอันตรายอย่างที่สุด!
ชั่วขณะนี้ จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงทั้งตะลึงทั้งกังวล มือทั้งคู่กำแน่นโดยไม่รู้ตัว
“เฟิงหลิง สหายยุทธ์คนใดกันที่ประสบมหาเคราะห์เช่นนี้”
“ดุร้าย! ดุร้ายเกินไปแล้ว! สหายยุทธ์คนนี้เป็นเทพจากไหนกัน มีพลังต่อสู้ระดับนี้ อย่างน้อยก็ต้องมีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นห้าขึ้นมากระมั้ง?”
“เฟิงหลิง…”
เจตจำนงของระดับจักรพรรดิมากมายแผ่ออกมา ดำเนินการถามไถ่ ต่างรู้สึกตะลึงอย่างที่สุด
จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงไม่ได้สนใจ เม้มปากไม่พูดจา
หลินสวินเป็นผู้สืบทอดคีรีดวงกมล ถูกจักรพรรดิดำรงสวรรค์ประกาศจับ ถูกแต่ละขุมอำนาจใหญ่ของฟ้าดาราทั่วหล้ามองเป็นเป้าหมายโจมตีสังหาร
หากฐานะถูกเปิดโปง จะต้องดึงดูดสายตาศัตรูนับไม่ถ้วนแน่!
แน่นอนว่า บนกำแพงเมืองหมื่นมรรค ไม่มีใครสามารถไปจากป้อมปราการที่ตนเฝ้าได้
นี่ก็หมายความว่า แม้ฐานะของหลินสวินถูกเปิดเผย ขอเพียงแค่เส้นทางนิพพานครั้งนี้ไม่สิ้นสุดลง ก็จะไม่ประสบการสังหารของระดับจักรพรรดิคนอื่นๆ
แต่อย่างน้อยในจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิง เขาจะไม่เปิดโปงฐานะของหลินสวิน!
ไกลออกไป การต่อสู้ยิ่งดุเดือดอย่างเดิม
สัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่พุ่งสังหารเข้ามา แต่ละคนเงาร่างยิ่งใหญ่ เบียดฟ้าดาราผืนนั้นจนเต็ม และบดบังสายตาไม่รู้เท่าไหร่ไว้
มองเห็นได้เพียงรางๆ ว่า เงาร่างของหลินสวินกะพริบอยู่หน้าป้อมปราการ สังหารอย่างเต็มกำลัง ประกายศักดิ์สิทธิ์และแสงมรรคที่ปลดปล่อยออกมา ราวกับสุริยันดวงโตมากมายระเบิดออกตรงนั้น แสบตาอย่างที่สุด
หนึ่งเค่อหลังจากนั้น
พร้อมกับเสียงอุทานด้วยความตกใจนับไม่ถ้วน ก็เห็นสัตว์ประหลาดฟ้าดาราตัวสุดท้ายที่พุ่งไปถึงหน้าป้อมปราการของหลินสวิน ถูกฆ่าตายคาที่!
ฟ้าดินผืนนั้นถูกเลือดอันเข้มข้นย้อมเป็นสีแดง พิรุณเลือดโปรยปราย
“หนึ่งเค่อ สังหารสัตว์ประหลาดฟ้าดาราสามสิบตัว!”
จักรพรรดิสงครามหลิงเฟิงงุนงงโดยสิ้นเชิง กายใจถูกสะเทือนสยบโดยสมบูรณ์ เดือดพล่านไม่หยุด
เจ็ดปีมานี้ เขาสังหารสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเพียงสองตัว แต่ที่หลินสวินสังหารในการต่อสู้ครั้งนี้ เป็นหลายเท่าของเขาแล้ว!
ที่เหลือเชื่อที่สุดคือ เผชิญกับการเข่นฆ่าที่มืดฟ้ามัวดินเช่นนี้ มกุฎกึ่งจักรพรรดิอย่างเขาไม่เพียงยืนหยัดไว้ได้ ยังได้รับชัยชนะชั่วคราว!
“ผู้สืบทอดคีรีดวงกมล…คนหนึ่งวิปริตกว่าคนหนึ่งจริง…”
สายตาของจักรพรรดิสงครามหลิงเฟิงเลื่อนลอยขึ้นมา นึกถึงการวางหมากปรกสวรรค์ครั้งนั้น ฝีมือที่ตะลึงโลกของผู้สืบทอดคีรีดวงกมลเหล่านั้น ในใจยิ่งสั่นสะท้าน
และตอนนี้ หลินสวินยืนตระหง่านอยู่หน้าป้อมปราการ หายใจหอบเล็กน้อย สีหน้าก็ขาวซีดเล็กน้อย
มรรควิถีและพลังกายทั้งตัวเขา ในการเข่นฆ่าขั้นสุดเพียงหนึ่งเค่อสั้นๆ เมื่อครู่นี้ ก็สูญเสียไปกว่าครึ่ง!
แม้สังหารสัตว์ประหลาดฝูงนั้นไป แต่สภาวะจิตของหลินสวินกลับหนักหน่วงขึ้นมา
เพราะในระยะที่ไกลกว่า ยังมีสัตว์ประหลาดฟ้าดาราอีกนับร้อย…
นี่เป็นจำนวนที่ทำให้สิ้นหวัง!
——