Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2175 ความชั่วร้ายในใจคน น่ากลัวยิ่งกว่าภูผาธารา

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2175 ความชั่วร้ายในใจคน น่ากลัวยิ่งกว่าภูผาธารา

ตอนที่ 2175 ความชั่วร้ายในใจคน น่ากลัวยิ่งกว่าภูผาธารา

“เขา!”

“ที่แท้ก็เป็นเศษเดนคีรีดวงกมลนั่น!”

“เป็นไปได้อย่างไร”

บนกำแพงเมืองหมื่นมรรค เสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นระลอกหนึ่ง

ไม่มีเงาร่างที่ยิ่งใหญ่ไร้ใดเปรียบของสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหล่านั้นบดบัง ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าที่พลังปราณสูงส่งเหล่านี้ ‘เห็น’ รูปลักษณ์ของหลินสวินชัดจากระยะไกลโพ้น

ชั่วขณะเดียวทุกคนต่างเผยสีหน้ายากจะเชื่อ

การตอบสนองแรกของพวกเขาก็คือ เจ้าเศษเดนคีรีดวงกมลที่ถูกทั่วหล้าตามจับ กลับกล้ามาเยือนแดนปรินิพพานอย่างนั้นหรือ

จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกเหลือเชื่อ เพราะบนกำแพงเมืองหมื่นมรรคแห่งนี้ คือเส้นทางนิพพานของระดับจักรพรรดิ

แต่ตอนนี้เศษเดนคีรีดวงกมลที่มีพลังปราณเพียงระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิ กลับปรากฏตัวที่นี่!

หลังจากนั้นความตะลึงที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ต่างผุดขึ้นในใจ

การต่อสู้ที่อันตรายอย่างที่สุดเมื่อครู่นี้อยู่ในสายตาของพวกเขาทั้งหมด สัตว์ประหลาดฟ้าดาราสิบกว่าตัวออกโจมตีพร้อมกัน สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิอย่างพวกเขายังรู้สึกสิ้นหวัง

เดิมทีพวกเขายังสงสัยว่าคนที่ปกป้องป้อมปราการนั่น อย่างน้อยต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นห้าขึ้นไป

แต่ตอนนี้ความจริงกลับบอกพวกเขาว่า นั่นกลับเป็นกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง!

ใครกล้าเชื่อ

ชั่วขณะนี้ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นรู้สึกเพียงว่าความมึนงง สิ่งที่เคยรับรู้ถูกล้มล้าง

พวกเขาต่างรู้ดี ว่าบนกำแพงเมืองหมื่นมรรคแห่งนี้ไม่สามารถใช้วัตถุภายนอกและพลังภายนอกได้

นี่ก็หมายความว่าในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ระดับกึ่งจักรพรรดิอย่างหลินสวินเพียงใช้พลังต่อสู้แห่งตน ก็ฆ่าสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่เทียบเคียงระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งตายได้

อีกทั้งทั้งหมดยังใช้เวลาเพียงหนึ่งเค่อ!

นี่น่าสะพรึงสะท้านโลกอย่างไม่ต้องสงสัย หากเผยแพร่ออกไปถึงขั้นสามารถทำให้ทั่วหล้าสั่นสะท้านได้

เพราะตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ยังไม่มีกึ่งจักรพรรดิคนใดสามารถก้าวข้ามปราการสวรรค์ ข้ามระดับไปสังหารศัตรูได้!

“เจ้าเศษเดนสมควรตายนี่ เหตุใดจึงเย้ยฟ้าขนาดนี้”

สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิมากมายสีหน้าไม่น่าดู ส่วนใหญ่ล้วนมาจากขุมมอำนาจที่มองหลินสวินเป็นศัตรู อย่างเช่นพวกเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ ยุทธจักร จักรวาล เหล่ามาร

หรืออย่างเผ่านักรบใหญ่และพวกเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์บางส่วน รวมถึงพวกสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์

หากเป็นไปได้ พวกเขาอยากจะไปฆ่าหลินสวินเสียเดี๋ยวนี้

“ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลแต่ละคนเย้ยฟ้ากว่าอีกคนจริงๆ ตอนที่หลินสวินนี่ถูกจักรพรรดิสวรรค์ดำรงออกคำสั่งตามฆ่า ยังมีคนรู้สึกว่าเป็นการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปหน่อย แต่ตอนนี้ดูท่าที่จักรพรรดิสวรรค์ดำรงทำเช่นนี้ก็มีเหตุผลอยู่”

ระดับจักรพรรดิที่ไม่มีความแค้นกับหลินสวินก็อดถอนหายใจไม่ได้

คีรีดวงกมล!

สำนักเดียวกลับปรากฏบุคคลระดับตำนานที่สามารถทำให้โลกตะลึงมากมายขนาดนี้ นี่ทำให้คนไม่อาจอิจฉาได้ด้วยซ้ำ เพราะห่างชั้นกันมากเกินไป

ขอทานจะไม่อิจฉาเศรษฐี แต่จะอิจฉาขอทานที่ขอได้มากกว่าเขา นี่คือธรรมชาติของมนุษย์

“เจ้าหมอนี่เพิ่งผ่านการต่อสู้โหดร้ายมา แม้จะเย้ยฟ้าเพียงใดก็ผลาญพลังกายไปมาก และในส่วนลึกของฟ้าดารายังมีสัตว์ประหลาดฟ้าดารานับร้อยจับจ้องเขาอยู่ นี่… เป็นทางตันชัดๆ”

“พูดเช่นนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่เจ้าหมอนี่จะร่วงหล่นที่นี่หรือ”

“ไม่ใช่มีความเป็นไปได้สูง แต่จะต้องร่วงหล่นอย่างแน่นอน อย่าว่าแต่เขา เปลี่ยนเป็นระดับจักรพรรดิคนใด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ใครจะรอดชีวิตได้”

และมีสัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายดูออก ว่าสถานการณ์ของหลินสวินยังคงอันตรายอย่างมาก มีความเป็นไปได้ที่จะร่วงหล่นตลอดเวลา!

ส่วนลึกของฟ้าดาราไกลออกไปนั่น ภายใต้พลังระเบียบที่พุ่งโจมตี สัตว์ประหลาดฟ้าดารานับร้อยกระจายอยู่ในบริเวณต่างๆ

แต่พวกมันกลับดูยืดมั่นอย่างที่สุด ทันทีที่ทรงตัวได้ก็พุ่งโจมตีไปยังป้อมปราการที่หลินสวินอยู่อย่างบ้าคลั่ง

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีใครคิดว่าหลินสวินจะรอดชีวิตได้!

นี่ทำให้เหล่าระดับจักรพรรดิที่เห็นหลินสวินเป็นศัตรูอดรู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นไม่ได้ ขอเพียงแค่หลินสวินประสบเคราะห์ พวกเขาก็สะใจมากแล้ว คร้านจะสนใจว่าเขาถูกใครฆ่าตาย

“เจ้าเฒ่าสารเลวพวกนั้นช่างไร้ยางอาย!”

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงโกรธยิ่งยวด ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นแล้วไม่ชอบใจอย่างมาก

ทั่วหล้าฟ้าดารานี้ กลับไม่มีที่ยืนให้หลินสวินอย่างนั้นหรือ

‘สหายน้อย เจ้ายืนหยัดไหวหรือไม่’ เขาอดสื่อจิตไม่ได้

‘ไม่ตายหรอก’

หลินสวินเอ่ยเรียบๆ เขากลืนลูกกลอนกำเนิดโลหิตที่เพิ่งหลอมไปแล้ว กำลังเร่งฟื้นฟูพลังกาย

พลังของลูกกลอนกำเนิดโลหิตเหล่านี้พลุ่งพล่านอย่างที่สุด เดิมก็หลอมจากเลือดของสัตว์ประหลาดฟ้าดารา จึงมีพลังฟื้นตัวน่าตกใจ

“เจ้าจะตายไม่ได้เด็ดขาด!”

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงกัดฟันพูด “บนกำแพงเมืองหมื่นมรรคมีคนไม่รู้เท่าไหร่รอหัวเราะเยาะเจ้า รอเจ้าตายอยู่!”

ประโยคเดียวทำให้นัยน์ตาหลินสวินหดรัด จากนั้นยิ้มพูด “เดาออกแต่แรกแล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ สหายยุทธ์วางใจเถอะ ข้าจะไม่ให้พวกเขาสมปรารถนาหรอก”

ยามพูดเขาได้กลืนลูกกลอนกำเนิดโลหิตไปสิบเจ็ดเม็ดแล้ว ในที่สุดพลังกายที่เสียไปก่อนหน้าก็ฟื้นคืนมากว่าครึ่ง ขาดเพียงนิดเดียวก็สามารถฟื้นคืนสภาพสูงสุดแล้ว

จักรพรรดิสงครามหลิงเฟิงยังเหมือนไม่วางใจ พูดเสียงดังว่า “เจ้าอย่าได้คุยโวเชียว ขอเพียงแค่เจ้ามีชีวิตรอด ต่อไปเจ้าเรียกข้าว่าสหายยุทธ์ได้ตามสะดวกเลย ข้าจะไม่ถือสาเจ้าเด็ดขาด”

หลินสวินอบอุ่นในใจขึ้นมา เจ้าเฒ่านี่… ไม่เลวเลยจริงๆ…

ตูมโครม!

ทันใดนั้นฟ้าดาราไกลออกไปสั่นไหว สัตว์ประหลาดฟ้าดาราเกือบยี่สิบตัวหลบการโจมตีของพลังระเบียบ พุ่งไปยังป้อมปราการที่หลินสวินอยู่ในชั่วขณะนี้

ในนั้นมีกลิ่นอายของสัตว์ประหลาดหลายตัวที่เทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นสี่ ถึงขั้นมีตัวหนึ่งที่เทียบกับระดับจักรพรรดิขั้นห้าได้

สีหน้าของจักรพรรดิสงครามหลิงเฟิงขาวซีดลงทันที ไร้ซึ่งสีเลือด มือเท้าเย็นเยียบ นี่… ยังจะสู้อย่างไรได้

หลินสวินก็สังเกตเห็นอันตรายเช่นกัน ถึงขั้นรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างที่สุด

ระดับจักรพรรดิขั้นสี่ เขายังสามารถสู้ได้ แต่ถ้าเป็นระดับจักรพรรดิขั้นห้า… นั่นก็จะรุนแรงแล้ว!

ทว่าถึงอย่างไรนี่ก็เป็นกำแพงเมืองหมื่นมรรค พลังระเบียบที่มีอยู่ทุกแห่งหนนั่นเกิดพลังกำราบตามธรรมชาติกับสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหล่านั้น ทำให้พลังต่อสู้ของพวกมันอ่อนแอลงอย่างมาก

อีกทั้งสัตว์ประหลาดเหล่านี้ไม่มีสติปัญญา มีเพียงการรับรู้ตามสัญชาตญาณของการเข่นฆ่าและความกระหายเลือด

สำหรับหลินสวิน การต่อสู้ครั้งนี้เขายังมีความมั่นใจในระดับหนึ่ง

ตูมโครม!

อากาศสั่นไหว เสียงคำรามสะเทือนฟ้าดิน สัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหล่านั้นบุกเข้ามา แต่ละตัวน่ากลัวไร้ขอบเขต โหดเหี้ยมดุดัน

เงาร่างของหลินสวินพริบไหว ร่างแยกทั้งห้าพุ่งทะยานออกมา ทันทีที่เปิดฉากโจมตีก็ใช้พลังถึงขีดสุด ไม่กล้าประมาทใดๆ

กระบวนค่ายกลกระบี่แปดทิศ

สามชุ่นสงัดนิรันดร์

หนึ่งเตาแปรหมื่นวิชา…

วิชาร้ายกาจมากมายถูกเขาสำแดงออกมาเต็มกำลัง

ชั่วขณะเดียวการต่อสู้ปะทุขึ้นอีกครั้ง เสียงมรรคสะเทือน แสงมรรคม้วนตลบ กึกก้องทั่วทิศ

เพียงแต่นับจากตอนนี้เป็นต้นไป ระดับจักรพรรดิที่กระจายตัวอยู่ในบริเวณต่างๆ ของกำแพงเมืองหมื่นมรรค สภาพจิตใจล้วนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

อย่างที่จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงพูด พวกคนที่เห็นหลินสวินเป็นศัตรู อยากให้เขาตายเสียเดี๋ยวนี้!

แม้แต่พวกที่ไม่มีความแค้นกับหลินสวินก็มองอยู่เงียบๆ ถอนหายใจบ้าง สงสารบ้าง เห็นใจบ้างเป็นครั้งคราว

แต่จะไม่มีใครเป็นห่วงเขา!

เพราะเขาคือเศษเดนคีรีดวงกมล เป็นเป้าหมายที่จักรพรรดิสวรรค์ดำรงต้องการ เป็นคนที่เคยทำให้ขุมอำนาจใหญ่เหล่านั้นเสียหน้า ขายหน้าไม่มีเหลือ

นี่ก็คือท่าทีที่ทั่วหล้าฟ้าดาราปฏิบัติต่อหลินสวินตอนนี้

บางทีอาจจะมีแค่จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงที่แตกต่างกับพวกเขา

“ฆ่า!”

หลินสวินแทบจะอาบเลือดต่อสู้

ในการต่อสู้ครั้งนี้ แม้เขาฆ่าสัตว์ประหลาดฟ้าดาราไปได้หลายตัว แต่ก็ทำให้เขาบาดเจ็บเช่นกัน ร่างแยกทั้งห้าก็โดนลูกหลงไปด้วย

สาเหตุเพราะในบรรดาสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่บุกเข้ามาครั้งนี้ มีตัวที่เทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นสี่ ยิ่งมีสัตว์ประหลาดที่คาดว่าเทียบเท่าระดับจักรพรรดิขั้นห้าอยู่ด้วยหนึ่งตัว!

ทว่าสำหรับหลินสวินบาดแผลแค่นี้ไม่ควรค่าให้พูดถึง ในอดีตที่ผ่านมาบาดแผลที่เขาเคยได้รับรุนแรงกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า!

ตูมโครม!

ฟ้าดาราแห่งนั้นสั่นไหว เดือดพล่านรุนแรง สุริยันจันทราไร้แสง สีเลือดแดงก่ำปะปนกับเสียงคำรามโหยหวน สั่นไหวอยู่ในห้วงอากาศ

หลินสวินบาดเจ็บต่อเนื่อง

แต่จำนวนสัตว์ประหลาดที่ล้อมโจมตีเขาก็ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงเห็นแล้วตาเบิกโพลง ทั้งตะลึงในพลังต่อสู้เย้ยฟ้าที่หลินสวินเผยออกมา ทั้งอดปาดเหงื่อแทนเขาไม่ได้

รุนแรงเกินไปแล้ว!

หากเขาเป็นหลินสวิน ไม่ใช่แค่อาจจะ แต่คงยืนหยัดไม่ถึงตอนนี้แน่!

เขาไม่กล้าจินตนาการแล้วว่าพลังและรากฐานของหลินสวินมาจากไหนกันแน่ เหตุใดถึงสามารถต้านทานการเข่นฆ่ามาจนถึงตอนนี้ด้วยพลังปราณระดับกึ่งจักรพรรดิเท่านั้น

ระดับจักรพรรดิคนอื่นๆ ไม่สามารถมองเห็นหลินสวินได้อย่างชัดเจน แต่กลับสามารถมองเห็นว่าสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่ล้อมโจมตีลดจำนวนลง

นี่ทำให้พวกเขาสีหน้าเปลี่ยนไป ถึงขั้นเกือบจะสงสัยว่าฝันอยู่ สามารถก้าวข้ามปราการสวรรค์ระดับจักรพรรดิก็เรียกได้ว่าเย้ยฟ้าแล้ว

ตอนนี้กลับดียิ่ง เจ้าเศษเดนคีรีดวงกมลยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเขา พลังต่อสู้ร้ายกาจจนสามารถสังหารสัตว์ประหลาดฟ้าดาราได้!

สัตว์ประหลาดที่เทียบเคียงระดับจักรพรรดิขั้นสี่ กลับทำอะไรเขาไม่ได้…

“หากเจ้าหมอนี่ไม่ตาย ต่อไปบนทางเดินโบราณฟ้าดาราเกรงว่าคงจะปรากฏจักรพรรดิยุทธ์อีกคน!” มีสัตว์ประหลาดเฒ่าพูดด้วยสีหน้าคล้ำเขียว

ได้ยินคำพูดนี้ ระดับจักรพรรดิไม่รู้เท่าไหร่ใจสั่น

จักรพรรดิยุทธ์!

นั่นเป็นคนคลั่งไร้เทียมทานที่เอาชนะจอมจักรพรรดิไร้นามคนก่อน ตำนานที่ยโสโอหัง ไม่เคยพ่ายแพ้!

หลินสวินในอนาคตหากมีอานุภาพระดับจักรพรรดิยุทธ์ ขุมอำนาจที่เคยมองเขาเป็นศัตรู… จะต้องประสบเคราะห์แน่…

“ทุกท่านวางใจ เจ้าหมอนี่ตายแน่ สัตว์ประหลาดฟ้าดาราเป็นร้อยตัว ยังจะฆ่ากึ่งจักรพรรดิตัวเล็กๆ อย่างเขาไม่ตายเชียวหรือ”

มีคนส่งเสียงเหี้ยมโหด แฝงความรู้สึกปานสาปแช่ง

หลายคนก็วางใจ สัตว์ประหลาดฟ้าดารานับร้อย สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิทุกคนทรุดทลายได้แล้ว นับประสาอะไรกับ… กึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง

ตูมโครม!

การต่อสู้ยังคงปะทุ หลินสวินอาบเลือดไปทั้งตัวนานแล้ว เต็มไปด้วยบาดแผล บนร่างงามสง่ามีสัญญาณแตกหัก

ร่างแยกทั้งห้าก็ล้วนเป็นเช่นนี้

ตอนนี้ห่างจากตอนที่การต่อสู้ครั้งนี้เริ่มขึ้นเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชาแล้ว สัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่ถูกหลินสวินฆ่าตายกลับมีถึงสิบสี่ตัว

ในที่นั้นเหลือเพียงสี่ตัว!

ทว่าสัตว์ประหลาดฟ้าดาราสี่ตัวนี้ มีสามตัวที่เทียบเท่าระดับจักรพรรดิขั้นสี่ อีกหนึ่งตัวมีอานุภาพเทียบเคียงระดับจักรพรรดิขั้นห้า

บาดแผลบนร่างหลินสวินเกิดจากสัตว์ประหลาดฟ้าดาราสี่ตัวนี้แทบทั้งหมด!

และตอนนี้ใครก็ดูออกว่าหลินสวินใกล้จะยืนหยัดไม่ไหวแล้ว นี่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าจำนวนไม่น้อยที่มองหลินสวินเป็นศัตรูตื่นเต้น อยากเห็นภาพที่เขาร่วงหล่นใจจะขาด

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงสีหน้าทุกข์ตรม พลังของคนมีจำกัด พลังเย้ยฟ้าของเจ้าหมอนี่ จะร่วงหล่นอยู่ที่นี่ ถูกเดรัจฉานเหล่านี้ฆ่าตายจริงๆ หรือ

แต่ตอนนี้หลินสวินกลับยังคงใจเย็น สูดหายใจลึกคราหนึ่ง เขาอดทนต่อแรงกระตุ้นที่จะใช้อภินิหารหยุดเวลา พลันสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง

กระบวนสังหารไร้ชีพที่ถูกเขาวางไว้รอบๆ ป้อมปราการโคจรหมุนเวียน!

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท