Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2242 เล่นละครเก่ง เจอพวกแสดงเก่งอีกครั้ง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2242 เล่นละครเก่ง เจอพวกแสดงเก่งอีกครั้ง

ตอนที่ 2242 เล่นละครเก่ง เจอพวกแสดงเก่งอีกครั้ง

ยอดเขางามวิจิตร

ภูเขาลูกหนึ่งที่อยู่ห่างจากวังมหามรรคหมื่นมังกรไม่ไกล งดงามอัศจรรย์เกินธรรมดา

ก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว ที่นี่ก็คือที่พักของอ๋าวซิงถัง น้องสาวของหัวหน้าเผ่าคนปัจจุบันอ๋าวฮ่วนไห่

หลายสิบปีก่อนหลังจากจ้าวจิ่งเซวียนมาถึงแดนวังมังกรก็ถูกจัดเตรียมให้พักอยู่ที่นี่ ด้วยอ๋าวซิงถังก็คือชื่อของมารดานาง นามของจักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิจื่อเย่า

หลินสวินปรากฏตัวหน้ายอดเขางามวิจิตร เงยหน้าขึ้นมองยอดเขาที่อบอวลด้วยแสงประกายสลัวราง สูดหายใจลึกแล้วเดินขึ้นไปบนภูเขา

ฮูม… คลื่นผนึกระลอกหนึ่งม้วนซัด ปกคลุมยอดเขางามวิจิตรไว้ภายใน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินสวินกลับเหมือนไร้ตัวตน ไม่มีภัยคุกคามแม้แต่น้อย ถูกเขาหลีกหลบได้อย่างง่ายดาย

เส้นทางบนเขาคดเคี้ยวเงียบเชียบ ต้นไม้ใบหญ้าเขียวมรกต หมอกควันอบอวล มีนกวิญญาณอาศัยอยู่ทุกหนแห่ง สัตว์มงคลก้าวเดินอย่างเงียบสงบ

ตรงไหล่เขามีสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่เรียงรายเป็นระเบียบ ทั้งศาลาและตึกหอ ไผ่เขียวเริงระบำ

ข้ารับใช้และบ่าวบางคนกำลังกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นในภูเขา แต่ละคนล้วนดูเกียจคร้าน

หลินสวินเห็นภาพนี้แต่ไกล อดคิดไม่ได้ว่าหลายสิบปีมานี้จิ่งเซวียนใช้ชีวิตอยู่ที่นี่หรือ

จิตรับรู้ของเขาแผ่ขยายออกไป เพียงพริบตาก็ปกคลุมสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่แถบนั้น แต่ไม่ทันไรหัวคิ้วเขาก็ขมวดขึ้น ในสิ่งปลูกสร้างพวกนั้นไม่มีเงาร่างของจ้าวจิ่งเซวียน

เขาเดินเข้าไปในเรือนที่มีกลิ่นอายโบราณหลังหนึ่งในนั้นอย่างไร้ร่องรอย ภายในห้องประดับตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับ เรียบง่ายหมดจด ในอากาศยังมีกลิ่นหอมเย็นที่คล้ายมีคล้ายไม่มีเจือจางรางๆ

หลินสวินแยกแยะได้ในพริบตา นั่นเป็นกลิ่นอายของจ้าวจิ่งเซวียน!

ไม่นานสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นห้องด้านข้างที่น่าจะเป็นห้องส่วนตัวของจ้าวจิ่งเซวียน ตกแต่งด้วยเตียงฟูก เก้าอี้ยาว โต๊ะเครื่องแป้ง…

หืม?

เมื่อเห็นของชิ้นหนึ่งที่อยู่ข้างเก้าอี้ยาวนั้น หลินสวินอึ้งงันทันที

นั่นคือม้าไม้ไผ่เด็กเล่นขนาดเล็ก ทำจากไผ่หยกเขียวอ่อนเกลี้ยงเกลา ข้างม้าไม้ไผ่ยังมีเปลน้อยปากหนึ่ง กระบี่ไม้ไผ่เล่มหนึ่ง กลองไม้เขย่าอันหนึ่ง…

หลินสวินใจสะท้านขึ้นมา ของพวกนี้… ล้วนเป็นสิ่งที่จิ่งเซวียนเตรียมไว้ให้ลูกของตนกระมัง…

แต่นางล่ะ

เนิ่นนานกว่าหลินสวินจะสูดหายใจลึก สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง เก็บของเล่นชิ้นเล็กทั้งหมดอย่างม้าไม้ไผ่ เปลไกว กลองไม้เขย่าพวกนั้นลงไป จากนั้นจึงหันหลังเดินออกไปจากห้อง

ตึงๆๆ!

เมื่อจิตรับรู้ของหลินสวินเคลื่อนกวาดไปนอกเรือน ข้าบ่าวและสาวใช้ที่กระจายอยู่ต่างพื้นที่พวกนั้นล้วนหมดสติลงกับพื้นโดยไร้สุ้มเสียง

เขาคิดจะค้นวิญญาณของข้ารับใช้พวกนี้ ดูว่ามีเบาะแสบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับจ้าวจิ่งเซวียนหรือไม่

แต่ไม่รอให้หลินสวินได้ลงมือ คลื่นเสียงอลหม่านระลอกหนึ่งพลันดังขึ้นแต่ไกล

“เร็วเข้า มีโจรต่างถิ่นบุกรุก ทุกคนลงมือได้!”

“ผู้อาวุโสใหญ่มีคำสั่ง เมื่อพบคนน่าสงสัย สังหารไม่ละเว้น!”

“ไป!”

…คลื่นเสียงที่เต็มไปด้วยไอสังหารสะท้อนก้องท้องนภา

ขณะเดียวกันเงาร่างมากมายพุ่งตรงมายังเขางามวิจิตร ผู้นำคือบุคคลระดับจักรพรรดิแห่งเผ่าเจินหลงคนหนึ่ง นามว่าอ๋าวชวีทง มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นสาม

“ปิดผนึกที่แห่งนี้! จากนั้นให้ค้นอย่างละเอียด!” ยังไม่ถึงจุดหมาย อ๋าวชวีทงพลันออกคำสั่งด้วยสีหน้าอำมหิตแล้ว

“ขอรับ!”

ข้างกายอ๋าวชวีทง ผู้ติดตามอาวุโสหลายคนที่มีพลังปราณระดับจักรพรรดิลงมือทันที ต่างคนต่างนำผู้ติดตามที่แข็งแกร่งมากมาย เริ่มปิดผนึกอาณาเขตทั้งหมดของยอดเขางามวิจิตรราวกับกระแสน้ำที่ปกคลุมฟ้าดิน

เมื่อเห็นภาพนี้หลินสวินอดขมวดคิ้วไม่ได้

ขณะที่เขากำลังคิดจากไปเงียบๆ พลันมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น

วู้ม!

ก็เห็นว่ากลางอากาศที่ห่างไกล อ๋าวชวีทงพลิกฝ่ามือนำไข่มุกขนาดเท่ากำปั้นที่สาดแสงสว่างไสวออกมา หันไปทางยอดเขางามวิจิตร

ละอองแสงสีทองพร่างฟ้าพลันแผ่กระจาย ย้อมเขางามวิจิตรลูกนั้นเป็นสีทองอร่าม

มุกจับวิญญาณ!

สมบัติอัศจรรย์อย่างหนึ่ง สามารถทำลายการอำพราง ตรวจจับกลิ่นอายของผู้ฝึกปราณที่ซ่อนตัว แม้แต่บุคคลระดับจักรพรรดิก็ไม่อาจหลบหนี

ก็เห็นว่าภายใต้ประกายสีทองพร่างฟ้า เงาร่างของหลินสวินเผยตัวในละอองแสงสีทองนั้นเช่นกัน

“หืม?”

อ๋าวชวีทงชะงักไปก่อน คล้ายคิดไม่ถึงว่าตนจะจับพลัดจับผลูตีถูก จากนั้นก็เผยสีหน้าอำมหิตและตื่นเต้น ตะโกนออกมา

“เจ้าโจรถ่อยอยู่ตรงนั้น รีบไปฆ่ามันซะ!”

เสียงสะเทือนเก้าชั้นฟ้า

ขณะเดียวกันหลินสวินก็ผิดคาดไปชั่วขณะ จากนั้นสีหน้าก็กลับมาราบเรียบ สำหรับเรื่องนี้เขาเตรียมใจมาแต่แรก

“ฆ่า!”

ห่างออกไปผู้ติดตามอาวุโสมากมายพาผู้ติดตามทั้งหมดพุ่งเข้ามา ร่างกายแต่ละคนเปล่งประกาย อานุภาพร้ายกาจทะลุเมฆ บีบกดจนห้วงอากาศของฟ้าดินแถบนี้ทรุดทลาย สภาพการณ์น่ากลัวนัก

ผู้ติดตามอาวุโสพวกนั้นล้วนเป็นบุคคลระดับจักรพรรดิที่มาจากเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ มีมากถึงหกคน แค่กระบวนรบเช่นนี้ก็พอจะทำให้บุคคลระดับจักรพรรดิพวกนั้นรู้สึกสิ้นหวังแล้ว

เพียงชั่วขณะก็เห็นแสงสมบัติพวยพุ่ง โผทะยานดุจสายฝน วิชามรรคเข้าปกคลุมฟ้าดินแถบนี้ราวกระแสน้ำ แผ่กลิ่นอายที่เหมือนทลายฟ้ามลายดิน

เผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้ หลินสวินไม่หลบหลีก ร่างกายพุ่งไปข้างหน้า ปราณกระบี่ไท่เสวียนแน่นขนัดม้วนซัดออกไปดุจเขาถล่มสมุทรคำราม

ตูม!

เสียงกัมปนาทสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ปราณกระบี่ตัดสลับไขว้ขนาน ฟาดฟันการโจมตีทั้งมวล เปล่งประกายเจิดจรัส เผด็จการและดุดัน

ผู้ติดตามอาวุโสคนหนึ่งที่พุ่งมาหน้าสุดยังไม่ทันตอบสนอง กระบี่บินที่เขาเรียกออกมาก็ถูกฟาดแหลก ท่ามกลางละอองแสงที่ระเบิดออก ปราณกระบี่ไท่เสวียนหลายสิบสายครอบคลุมเข้ามา!

แย่แล้ว!

ผู้ติดตามอาวุโสคนนี้หน้าเปลี่ยนสี วิญญาณเกือบหลุดออกมา ไม่เคยคิดว่าพลังปราณของตนในปัจจุบันถึงกับไม่เอาไหนเช่นนี้

เมื่อคิดจะต้านทานและหลบหลีกก็ไม่ทันแล้ว

ฉัวะๆๆ… ผู้ติดตามอาวุโสคนนี้ถูกฟันเป็นรอยกระบี่นับไม่ถ้วนทั้งตัว เลือดสีสดสาดกระเซ็น เดิมทีเขาคิดว่าตนต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา ใครจะคิดว่าบาดแผลพวกนี้ดูเหมือนสาหัสหาใดเปรียบ ความจริงกลับเป็นแค่บาดแผลภายนอกเท่านั้น

เกือบจะเวลาเดียวกัน เสียงของหลินสวินดังขึ้นข้างหูของเขา ‘ถ้าไม่อยากตายก็แกล้งตายให้ข้าคนแซ่หลินซะ!’

ผู้ติดตามอาวุโสที่มาจากเผ่าจักรพรรดิหยาจื้อคนนี้ชะงักไปก่อน จากนั้นก็เข้าใจกระจ่าง เจ้าหมอนี่… คือหลินเต้ายวน!

ตูม!

ปราณกระบี่ไท่เสวียนม้วนซัด โหมทำลายฟ้าดินแถบนี้ ขณะที่ผู้ติดตามอาวุโสคนนั้นถูกซัดพินาศ สถานที่อื่นก็มีคนมากมายได้รับบาดเจ็บ

ภายใต้การโจมตีที่ดุดันนั้นของหลินสวิน แทบจะไม่มีใครขัดขวาง!

‘ทุกท่านไม่ต้องดิ้นรน รีบนอนลงแล้วแกล้งตาย คนผู้นี้ก็คือสหายยุทธ์หลิน หลินเต้ายวน!’ ขณะเดียวกันผู้ติดตามอาวุโสที่เคยได้รับการสื่อจิตจากหลินสวินคนนั้นก็สื่อจิตอย่างรวดเร็ว บอกข่าวนี้กับคนอื่น

เมื่อรู้ข่าวนี้ผู้แข็งแกร่งที่เดิมยังรู้สึกขุ่นเคือง ตื่นตระหนก ไม่จำยอมพวกนั้นพลันเข้าใจกระจ่าง เริ่มแสดงละครอย่างให้ความร่วมมือหาใดเปรียบ

“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงแข็งแกร่งเช่นนี้” ชายชราผมขาวแกมเทาคนหนึ่งเลือดกบปากจมูก ท่าทางตื่นตระหนก ร่างกระเด็นลอยออกไปอย่างแรง ร่วงตกลงบนพื้น

“ไม่…!”

เวลานี้ชายวัยกลางคนที่ท่าทางแข็งกร้าว น่าเกรงขามถึงขีดสุดคนหนึ่งกลับร้องเหมือนสิ้นหวัง ร่างกายนอนแน่นิ่งกับพื้น

“ฆ่า ยอมตายดีกว่า…”

ฮูหยินงามหาใดเปรียบคนหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างเดือดดาล ราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ แต่หลังจากถูกปราณกระบี่สายหนึ่งของหลินสวินปะทะใส่ก็ส่งเสียงระโหยโหยหวน “หรือว่า… ข้าจะสิ้นชีพเช่นนี้…”

จากนั้นนางก็ทรุดคว่ำกับพื้นดังตึง

…เหตุการณ์ทั้งหมดแทบจะเกิดในช่วงสั้นๆ ไม่กี่อึดใจ เห็นผู้ติดตามอาวุโสพวกนั้นนอนแผ่ลงไปอย่างอนาถ สิ้นหวัง ไม่จำยอมทีละคน ผู้ติดตามและผู้คุ้มกันพวกนั้นล้วนงงเป็นไก่ตาแตก ขาสั่นระริก หนาวสั่นไปทั้งตัว

พอเห็นภาพนี้หลินสวินก็อดตะลึงไม่ได้ เมื่อบุคคลระดับจักรพรรดิแสดงละคร แต่ละคนล้วนเล่นละครเก่งโดยแท้…

ห่างออกไปอ๋าวชวีทงกลับไม่รู้เลยว่าภาพที่เหมือนเพลี่ยงพล้ำย่ำแย่นี้ ความจริงแล้วมีปริศนาอื่นอยู่

เวลานี้เขาอดสูดหายใจเย็นเยียบไม่ได้ ในใจตื่นตระหนก ทำไมเจ้าโจรถ่อยนี่ถึงแข็งแกร่งเช่นนี้!?

ตูม!

ฟ้าดินกู่ก้อง ร่างของหลินสวินส่องประกาย ปราณกระบี่หมุนอ้อมพุ่งสังหารมาทางนี้แล้ว นัยน์ตาดำล้ำลึกนั้นเต็มไปด้วยไอสังหารน่าสะพรึง

อ๋าวชวีทงเลือกหลีกหลบโดยไม่ลังเล ไม่กล้าฝืนปะทะอย่างสิ้นเชิง

แต่ยามที่เขาเพิ่งหลบก็ถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งบีบคอแน่น มือใหญ่นั้นปลดปล่อยพลังน่ากลัวออกมา ทำลายการป้องกันทั้งตัวเขาจนพินาศในพริบตา ร่างสั่นสะท้านด้วยถูกกำราบแน่นหนา

“จ้าวจิ่งเซวียนถูกพวกเจ้านำไปซ่อนที่ไหน” ขณะเดียวกันเสียงเยียบเย็นของหลินสวินพลันดังขึ้น กระตุ้นจนอ๋าวชวีทงสั่นไปทั้งตัว

“เจ้าสวะ ที่นี่คือแดนวังมังกร หากเจ้าไม่กลัวตายก็ฆ่าข้าซะ!” อ๋าวชวีทงคำราม ดวงตาแดงก่ำ

เผ่าเจินหลงล้วนหยิ่งทะนง พวกเขาที่เป็นถึงนายเหนือหัวของโลกนี้เย่อหยิ่งจนเข้ากระดูก ไม่เชื่อว่าบนโลกนี้จะมีใครกล้ากระทำการชั่วร้ายบนอาณาเขตของพวกเขา!

กร๊อบ!

ครู่ต่อมาคอของเขาก็ถูกบิด จิตวิญญาณระเบิดกลายเป็นจุณ ก่อนตายบนหน้ายังเต็มไปด้วยความตกตะลึง คล้ายไม่กล้าเชื่อว่าบนโลกนี้จะมีคนกล้ากระทำการเหิมเหริมในอาณาเขตของพวกเขาจริงๆ…

หลินสวินเก็บศพเขาไปด้วย มองผู้ติดตามอาวุโสมากมายที่นอนแกล้งตายอยู่ไกลๆ สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรมาก หันหลังจากไป

ด้วยเรื่องทารกในครรภ์ จ้าวจิ่งเซวียนจึงเป็นความลับสำคัญของเผ่าเจินหลงนานแล้ว ไม่ต้องพูดถึงผู้ติดตามอาวุโสพวกนั้น ต่อให้เป็นคนในเผ่าเจินหลงทั่วไปเกรงว่าคงไม่มีทางรู้เบาะแสของนางเช่นกัน

หลินสวินคิดจะไปวังมหามรรคหมื่นมังกรก่อน ไปหาหัวหน้าเผ่าเจินหลงอ๋าวฮ่วนไห่!

หากจับตัวคนผู้นี้ได้ บางทีปัญหาทุกอย่างก็อาจคลี่คลายได้โดยง่าย

“เร็วเข้า ฆ่าเขาซะ!”

ห่างออกไปห้วงอากาศม้วนซัด เงาร่างมากมายพุ่งสังหารมาทางหลินสวิน เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งที่ถูกการเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้ตกใจ รีบเร่งมาช่วยเหลือ

ตูม!

หลินสวินไม่อยากเสียเวลา สำแดงความสามารถที่แท้จริงออกมา เงาร่างไหววูบครั้งหนึ่ง ทำลายความว่างเปล่า พุ่งทะยานโจมตีเหมือนกระบี่แยกฟ้าเล่มหนึ่ง

พลันเห็นฟ้าดินอลหม่าน ห้วงอากาศระเบิดแหลก ศัตรูพวกนั้นไม่ว่าแข็งแกร่งหรืออ่อนแอแต่ละคนต่างร้องโหยหวน ลอยลิ่วระเนระนาดเหมือนถูกภูเขาเทพดึกดำบรรพ์กระแทก บ้างเอ็นกระดูกแตกหัก บ้างผิวแตกเลือดอาบ บ้างเลือดออกเจ็ดทวาร บ้าง…

สถานการณ์สับสนอลหม่านและนองเลือด

ส่วนเงาร่างของหลินสวินก็เหมือนแสงสายหนึ่งที่พุ่งฝ่าฝนโลหิตคาววายุ หลังจากใช้ท่าทีกดกำราบสยบศัตรูก็เคลื่อนที่แหวกอากาศ จากไปอย่างผ่าเผย

รุกเข้าไปเหมือนผ่าลำไผ่ตลอดทาง!

“รายงาน ศัตรูปรากฏตัวที่เขางามวิจิตร! ผู้อาวุโสอ๋าวชวีทงถูกสังหาร!”

“รายงาน ศัตรูตีฝ่าวงล้อมไปได้ กำลังหนีไปทางทิศตะวันออก!”

“รายงาน…”

ขณะเดียวกันแดนวังมังกรก็ถูกทำให้สั่นสะเทือน ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนที่กำลังหาตัวหลินสวินในอาณาเขตต่างๆ เกือบทั้งหมดล้วนรู้ข่าวในพริบตา

เหล่าบุคคลสำคัญระดับสูงของเผ่าเจินหลงพวกนั้นก็ทยอยออกเคลื่อนพล พุ่งไปยังสถานที่ซึ่งพบร่องรอยของหลินสวินด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

……………………….

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท