Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2255 แก้ศิลามรรคค้ำสมุทร

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2255 แก้ศิลามรรคค้ำสมุทร

ตอนที่ 2255 แก้ศิลามรรคค้ำสมุทร

เรื่องราวหลังจากท่านลู่ซ่อนตัวอยู่ในคุกใต้เหมือง พร้อมกับที่หลินสวินค่อยๆ โตขึ้นก็ได้รู้แล้ว

ในขณะเดียวกันเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้นที่ตระกูลหลินในภูเขาชำระจิต หลินสวินก็รู้ต้นสายปลายเหตุนานแล้ว

และตอนนี้เมื่อได้รับคำอธิบายของอ๋าวซิงถัง ทำให้ในที่สุดหลินสวินก็ได้รู้เรื่องที่มารดาลั่วชิงสวินประสบหลังจากหนีออกจากฟากฝั่งฟ้าดารา

นางกับท่านลู่และจักรพรรดิสงครามดับดาราข้ามฟ้าดารามาด้วยกัน ระหว่างทางได้รับความช่วยเหลือจากบรรพชนเผ่าเจินหลงจนสลัดคนที่ไล่ตามมาได้

จากนั้นไปยังตระกูลเสวียน ด้วยกระบี่พกติดตัวของบรรพชนตระกูลเสวียน จึงได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลเสวียน ไปยังแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่โลกชั้นล่างได้อย่างราบรื่น!

พูดสั้นๆ ก็คือ เรื่องในอดีตที่อ๋าวซิงถังเล่าเหมือนเป็นเบาะแสที่สมบูรณ์หนึ่ง ร้อยเรียงเรื่องราวในตอนนั้นเข้าด้วยกันในทันที

ในที่สุดหลินสวินก็เข้าใจ ว่าเหตุใดตอนที่ออกจากคุกใต้เหมือง ท่านลู่จึงชี้นำให้ตนไปหาชาติกำเนิดของตนที่จักรวรรดิจื่อเย่า

และในที่สุดก็เข้าใจแล้ว ว่าเหตุใดตอนนั้นหลังจากไปถึงนครต้องห้าม พวกจ้าวหยวนจี๋สองสามีภรรยาจึงดูแลตนเป็นพิเศษ

ในเวลาเดียวกันหลินสวินเองก็ค้นพบว่า ท่านลู่ไม่ธรรมดาเพียงใด

สมัยดึกดำบรรพ์ก็ตามมารดาตนหนีออกจากฟากฝั่งฟ้าดารา หลังจากนั้นเขาก็เผยตัวในหลายบทบาท

จักรพรรดิกระบวนลู่ในศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิสมัยบรรพกาล เจ้าเรือนเร้นหมอกในโลกมืด ผู้ก่อตั้งสำนักศึกษามฤคมรกตและภาคีนักสลักวิญญาณแห่งจักรวรรดิจื่อเย่า เคยเข้าสู่แดนเจินหลง ได้รับมรดกมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรจากมือจักรพรรดิมังกรหมิงหลัว…

หากเป็นเมื่อก่อน หลินสวินไม่กล้าเชื่อเด็ดขาดว่าผู้เฒ่าที่เลี้ยงดูตนมาจนโต อารมณ์ร้ายและฉุนเฉียว กลับมีประสบการณ์ที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานมากมายขนาดนี้!

ครู่ใหญ่หลินสวินถึงได้สติ มองอ๋าวซิงถังที่สีหน้าโศกเศร้าแล้วอดขมวดคิ้วพูดไม่ได้ “ท่านป้า ข้าขอบังอาจถามกล้าสักประโยค ตามหลักแล้วผู้นำเผ่าเจินหลงคนปัจจุบันก็คือพี่ชายแท้ๆ ของท่าน เป็นน้าชายแท้ๆ ของจิ่งเซวียน แต่เหตุใดพวกเขาจึงชิงชังและมองข้าเป็นศัตรู”

ความจริงในใจเขามีคำตอบแล้ว เพียงแต่เขาอยากลองถามความเห็นของอ๋าวซิงถัง

ใบหน้าหยกของอ๋าวซิงถังอึมครึมไม่สามารถสงบได้ เผยแววเหยียดหยาม ชิงชัง จนใจ “ตอนนั้นก่อนที่พ่อข้าจะร่วงหล่น เดิมตัดสินใจจะให้อ๋าวฮ่วนไห่ตามลู่ป๋อหยาไป แต่อ๋าวฮ่วนไห่กลับตัดความสัมพันธ์กับพ่อข้าต่อหน้าคนทั้งเผ่า เกรงว่าต่อให้เป็นชั่วขณะที่พ่อข้าร่วงหล่น เขาก็ยืนอยู่ห่างๆ มองดูอย่างเงียบๆ ไม่สะทกสะท้าน…”

หลินสวินใจหาย อ๋าวฮ่วนไห่นี่ไร้ซึ่งคุณธรรมจริงๆ!

อ๋าวซิงถังสูดหายใจลึกกล่าวว่า “ข้ารู้ว่าเหตุใดเขาต้องทำเช่นนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าอยากสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่าหลังจากพ่อข้าตาย เจ้าบอกว่าอ๋าวฮ่วนไห่มองเจ้าเป็นศัตรู นี่ง่ายดายมากไม่ใช่หรือ หากเป็นไปได้ เขาถึงขั้นสามารถฆ่าน้องสาวอย่างข้าได้อย่างไม่ลังเล!”

พี่น้องแตกคอ พ่อลูกกลายเป็นศัตรู!

หลินสวินคิดไม่ถึง ว่าอ๋าวฮ่วนไห่จะเป็นคนที่เลือดเย็นไร้น้ำใจเช่นนี้

เขาคิดๆ แล้วอดพูดไม่ได้ “แต่เหตุใดตอนนั้นอ๋าวฮ่วนไห่ต้องพาจิ่งเซวียนมาร่วมงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกร”

อ๋าวซิงถังพูดโดยไม่ต้องคิด “ข้ารู้นิสัยของอ๋าวฮ่วนไห่ดี เขาทำเช่นนี้ล้วนเพราะอยากใช้จิ่งเซวียนเป็นเหยื่อล่อ ดึงดูดให้ข้าปรากฏตัวด้วยตัวเองเท่านั้น เบื้องหลังนี้บางทีอาจยังมีจักรพรรดิมังกรประหัตวิญญาณบงการ”

ถึงตอนนี้ในที่สุดหลินสวินก็เข้าใจอย่างสิ้นเชิงแล้ว

“หลินสวิน มีเรื่องหนึ่งที่ข้าจะต้องเตือนเจ้า”

อ๋าวซิงถังลังเลครู่หนึ่ง แต่ยังคงพูดว่า “เจ้ากับลูกของจิ่งเซวียน มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะถูกอ๋าวฮ่วนไห่มองเป็นสมบัติของตน ถึงขั้นต้องรั้งให้อยู่ในแดนเจินหลงโดยไม่สนค่าตอบแทนใดๆ”

พูดจบนางกลับพบอย่างประหลาดว่าสีหน้าของหลินสวินนิ่งสบ ไม่มีคลื่นอารมณ์ใด

หลินสวินกล่าว “ท่านป้า เรื่องนี้ในใจข้าคาดเดาไว้นานแล้ว ไม่ว่าอย่างไรในเมื่อครั้งนี้ข้ามาแล้ว จะไม่ให้จิ่งเซวียนและเด็กคนนั้นถูกรั้งไว้ที่เผ่าเจินหลงอีก”

เขาขมวดคิ้ว “เพียงแต่จักรพรรดิมังกรประหัตวิญญาณนั่นควบคุมพลังต้นกำเนิดของแดนวังมังกร ยากจะรับมือ”

สายตาของอ๋าวซิงถังเผยแววประหลาด กล่าวว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ากับท่านลุงของเจ้ามาทำอะไรที่นี่”

หลินสวินพยักหน้า

อ๋าวซิงถังพูด “เช่นนั้นข้าก็จะบอกเจ้าว่า ขอเพียงสามารถช่วยบรรพชนของข้าออกมาได้ จักรพรรดิมังกรประหัตวิญญาณก็อย่าคิดว่าจะควบคุมระเบียบต้นกำเนิดของแดนวังมังกรอีก!”

ดวงตาดำของหลินสวินเป็นประกายขึ้นมา

จ้าวหยวนจี๋เองก็ยิ้ม “ตอนนั้นจักรพรรดิมังกรหมิงหลัวเคยมุ่งหน้าไปทางเดินโบราณฟ้าดาราด้วยตัวเอง เพื่อตามหามารดาของเจ้าและลู่ป๋อหยา หวังจะยืมมือพวกเขาทำลายพลังที่กำราบบรรพชนเจินหลง ส่วนเจ้าในตอนนี้แข็งแกร่งกว่ามารดาของเจ้าและลู่ป๋อหยาในตอนนั้น! และในร่างกายของเจ้ายังมีเลือดของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์”

อ๋าวซิงถังพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ข้าเองก็กำลังกลุ้มใจเรื่องที่จะช่วยบรรพชน หลายสิบปีมานี้เคยลองหลายวิธีเพื่อติดต่อบรรพชน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลย”

นางชูไข่มุกที่สาดละอองแสงในมือขึ้นแล้วเอ่ยว่า “ไข่มุกนี้ลู่ป๋อหยาให้ไว้ในตอนนั้น สามารถขจัดอานุภาพน่าหวาดหวั่นของศิลามรรคค้ำสมุทรสี่สิบเก้าหลักนั้นได้ หากเจ้าคิดวิธีออก ช่วยบรรพชนเผ่าข้าได้ การจะไปช่วยจิ่งเซวียนก็ไม่ใช่เรื่องยาก”

ว่าพลางนางยื่นไข่มุกในมือให้หลินสวิน

หลินสวินประคองไว้ในฝ่ามือ พินิจอย่างละเอียด พบว่าไข่มุกเม็ดนี้ประทับพลังผนึกแน่นขนัดหาที่เปรียบไม่ได้ คล้ายธงกระบวน จานกระบวน แผ่คลื่นผนึกออกมา

หลังจากสงบใจสัมผัสก็พบอย่างชัดเจน คลื่นผนึกเป็นเสี้ยวๆ นั่นตอบรับอย่างมหัศจรรย์กับกลิ่นอายเย็นเยียบแปลกประหลาดในน้ำทะเลมืดนี้

ดวงตาดำของหลินสวินลุ่มลึก เริ่มอนุมานกระบวนค่ายกลลายมรรคใน ‘มุกกระบวน’ นี้ ไข่มุกเล็กๆ เม็ดหนึ่ง กลับซ่อนปริศนาและความลับไว้ภายใน

จิตใจของหลินสวินค่อยๆ จมดิ่ง เวลาล่วงเลยไปโดยไม่รู้ตัว

อ๋าวซิงถังและจ้าวหยวนจี๋สบตากัน ในใจอดเกิดความคาดหวังไม่ได้

เจ็ดวันหลังจากนั้นหลินสวินถึงได้สติจากการอนุมาน หว่างคิ้วปรากฏความเหนื่อยล้าที่ยากปกปิด แต่สิ่งที่มากกว่าคือความดีใจ

ไข่มุกกระบวนนี่จะต้องมาจากท่านลู่อย่างแน่นอน ภายในซ่อนสี่สิบเก้ากระบวนผนึกลายมรรค ทุกกระบวนผนึกลายมรรคมีผนึกขนาดเล็กแปดสิบเอ็ดผนึก ตอบสนองและทับซ้อนอยู่ด้วยกัน ก่อตัวเป็นกระบวนผนึกที่สมบูรณ์ ครัดเคร่ง และแน่นขนัน

ความมหัศจรรย์ที่สุดของมัน ต้องใช่ใช่เพียงแค่สามารถช่วยผู้ฝึกปราณเข้าสู่น่านน้ำใต้เก้าพันจั้งผืนนี้อย่างแน่นอน!

ในใจหลินสวินกระเพื่อมไหว เอ่ยถามว่า “ท่านป้า ตำแหน่งของศิลามรรคค้ำสมุทรสี่สิบเก้าหลักนั้นอยู่ที่ไหน ท่านรู้หรือไม่”

อ๋าวซิงถังพยักหน้า ดวงตาเผยประกายวาววับทันที “เจ้ามีวิธีแก้แล้วหรือ”

“ลองดูจึงจะรู้” หลินสวินพูด

“ไป ข้าพาเจ้าไป” อ๋าวซิงถังไม่ลังเลสักนิด เคลื่อนไหวทันที

หนึ่งก้านธูปหลังจากนั้น

ภายใต้การนำทางของอ๋าวซิงถัง หลินสวินมองเห็นศิลามรรคค้ำสมุทรต้นหนึ่ง ศิลาหินตั้งสูงเด่นตระหง่านอยู่ในน้ำทะเลเก้าพันจั้งนั้น

ครั้งแรกที่เข้าสู่แดนวังมังกร หลินสวินก็เคยเห็นศิลามรรคค้ำสมุทรแล้ว แต่นั่นเป็นส่วนที่โผล่อยู่เหนือผิวทะเล ไม่ควรค่าให้สนใจ

ทว่ามองจากใต้ทะเลกลับพบว่าบนศิลามรรคค้ำสมุทรที่อยู่ในน้ำ ปกคลุมด้วยลายมรรคคลุมเครือลึกลับนับไม่ถ้วน หนาแน่น มองเพียงแวบเดียวก็ทำให้ใจสั่น

หากไม่ใช่เพราะไข่มุกกระบวนในมืออ๋าวซิงถัง คงไม่มีทางขจัดคลื่นผนึกน่ากลัวที่ศิลามรรคค้ำสมุทรแผ่ออกมาได้แน่

จากการคาดเดาของหลินสวิน แม้เป็นระดับบรรพจารย์จักรพรรดิ ก็จะถูกคลื่นผนึกที่น่ากลัวนั่นสังหาร!

ตลอดเวลาที่ผ่านมาบรรพชนเจินหลงกลับถูกศิลามรรคค้ำสมุทรที่น่ากลัวเช่นนี้สี่สิบเก้าหลักกำราบอยู่ที่นี่ แค่คิดก็รู้ว่าความทรมานที่เขาได้รับน่ากลัวเพียงใด

หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง สลัดความคิดฟุ้งซ่าน เริ่มพินิจอย่างจดจ่อ

ที่อ๋าวซิงถังพูดไม่ผิด ผนึกลายมรรคที่สลักอยู่บนศิลามรรคค้ำสมุทร สามารถใช้คำว่าสูงส่งไร้เทียมทานมาเปรียบเทียบได้อย่างแน่นอน คลุมเครือและลึกลับเหนือจินตนาการ

ครู่หนึ่งหลังจากนั้น หลินสวินเอ่ยว่า “ท่านป้า ไข่มุกกระบวนนี่ทิ้งไว้ให้ข้าหนึ่งเม็ด ท่านกับท่านลุงถอยออกไปจากที่นี่ก่อน”

เขากังวลว่าตอนที่อนุมานลายมรรคจะชักนำการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง แลอาจกระทบต่อความปลอดภัยของอ๋าวซิงถังและจ้าวหยวนจี๋

อ๋าวซิงถังและจ้าวหยวนจี๋สบตากัน ตอบรับโดยไม่ลังเล ไม่นานก็ออกจากที่นี่ เหลือเพียงหลินสวินที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว

น้ำทะเลที่มืดมิดราวกับน้ำหมึกพลิกม้วน ลายมรรคที่เลือนรางบนศิลาหินเหมือนเทพมารที่พริบไหว เผยคลื่นพลังปานทำลายล้างและความตายออกมา

กายใจของหลินสวินจดจ่อ โคจรพลังของร่างต้นและห้าร่างแยกไปหยั่งรู้และอนุมานพร้อมกัน

เจ็ดวันหลังจากนั้น

กายใจของเขาล้วนเหนื่อยล้า นั่งลวกๆ กลืนโอสถเทพและของล้ำค่า จนกระทั่งพลังกายและใจฟื้นคืนอย่างสิ้นเชิง จึงจดจ่ออนุมานต่ออย่างไม่ลังเล

พูดอย่างเคร่งครัด หลินสวินฝึกปราณมาถึงตอนนี้ เป็นครั้งแรกที่เห็นพลังผนึกที่น่ากลัวเช่นนี้ ความลึกลับที่ประทับอยู่ภายในเรียกได้ว่ากว้างใหญ่ราวกับทะเลควัน ซับซ้อนปะปนอย่างที่สุด

ด้วยมรรควิถีของเขาในตอนนี้ ตอนที่อนุมานก็รู้สึกเปลืองแรงอย่างมาก แต่ยังดีที่อย่างน้อยก็มีความคืบบหน้าบ้าง

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น

หลินสวินอนุมานนัยเร้นลับของผนึกบนศิลามรรคค้ำสมุทรสำเร็จครึ่งหนึ่งแล้ว ระหว่างนี้เขาพักและฟื้นตัวไปสามครั้ง เสียสมบัติเทพและโอสถเทพไม่น้อย

สองเดือนหลังจากนั้น

หลินสวินมาถึงบริเวณที่ห่างจากพื้นผิวทะเลหนึ่งพันจั้ง นัยเร้นลับของผนึกบนศิลามรรคค้ำสมุทรถูกเขาอนุมานออกมาประมาณแปดส่วนแล้ว!

ระหว่างนี้อ๋าวซิงถังและจ้าวหยวนจี๋ก็เคยมาเยี่ยมหลินสวิน พบว่าอีกฝ่ายยังจมอยู่ในการอนุมานจึงจากไปอย่างเงียบๆ

สามเดือนหลังจากนั้น

“สำเร็จแล้ว!” หลินสวินตื่นจากสภาวะอนุมานสูงสุด มุมปากเผยรอยยิ้มอย่างอดไม่ได้

นัยเร้นลับผนึกของศิลามรรคค้ำสมุทร ถูกเขาทำความเข้าใจอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว!

จากนั้นความเหนื่อยล้าที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็แผ่ลามไปทั่วร่าง ทำเอาภาพตรงหน้าหลินสวินมืดมนไประลอกหนึ่ง เกือบจะหมดสติไป

เขารีบสูดหายใจลึก เพิ่งจะพบว่าผมยาวดำของตนไม่รู้ว่ากลายเป็นสีขาวราวกับหิมะตั้งแต่เมื่อไหร่

นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นยามทุ่มเทกายใจทั้งหมด

หลินสวินไม่สนใจ หยิบโอสถเทพจำนวนหนึ่งออกมาเริ่มกินและหลอม

จนกระทั่งหไม่กี่วันหลังจากนั้น สภาพร่ายกายและจิตใจของเขาฟื้นฟูถึงขีดสุด ผมขาวดั่งหิมะทั้งหัวดำเหมือนหมึกอีกครั้ง

มองศิลามรรคค้ำสมุทรที่อยู่ตรงหน้า สุดท้ายหลินสวินยังคงข่มความคิดจะที่เข้าไปทำลายในทันทีเอาไว้ หมุนตัวจากไป มุ่งหน้าไปหาอ๋าวซิงถังและจ้าวหยวนจี๋

“ท่านป้า ศิลามรรคค้ำสมุทรอื่นๆ อยู่ที่ไหน” ทันทีที่เจออ๋าวซิงถัง หลินสวินก็ถามออกมาทันที

เวลากระชั้นชิด เขาไม่กล้าเสียไปแม้แต่นิดเดียว

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท