Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2258 วันที่บันทึกในหน้าประวัติศาสตร์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2258 วันที่บันทึกในหน้าประวัติศาสตร์

ตอนที่ 2258 วันที่บันทึกในหน้าประวัติศาสตร์

ชั่วขณะที่ดวงตาในความมืดนั่นลืมขึ้น อ๋าวซิงถังเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ในใจสะท้าน หมอบลงกับพื้นทันใด เสียงยากจะปกปิดความตื่นเต้น

“ใต้เท้าบรรพชน ใช่ท่านหรือไม่”

หลังจากความเงียบระลอกหนึ่ง เสียงแหบพร่าฟังยากดังขึ้น “วันนี้… คือปีไหน แล้ว… เจ้าเป็นใคร”

อ๋าวซิงถังแสบจมูกระลอกหนึ่ง พูดเสียงเบา “ใต้เท้าบรรพชน ตอนนี้ห่างจากตอนที่ท่านถูกกำราบอยู่ที่นี่ไปสองแสนสามหมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยสามสิบสามปีแล้ว ข้าเป็นบุตรสาวของหมิงหลัว หลานของบรรพชนรุ่นแรกเนี่ยเฟิง!”

นิ่งเงียบไปอีกครู่หนึ่ง ในความมืดไร้สิ้นสุดจู่ๆ กระแสน้ำที่พลันพลุ่งพล่านขึ้นมา เหมือนมีสิ่งมีชีวิตฟื้นตื่นจากภายใน

“เป็นเจ้าสลายผนึกของตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งหรือ”

เสียงที่ฟังยากนั้นดังขึ้นอีกครั้ง

อ๋าวซิงถังเล่าเรื่องทั้งหมดออกมาทันที

ในระหว่างนี้หลินสวินแก้พลังผนึกบนศิลามรรคค้ำสมุทรมาโดยตลอด ไม่ได้หยุดพัก

ทว่าเขาเองก็สังเกตเห็นแล้วว่า ในส่วนลึกของน้ำทะเลที่มืดมนหาใดเปรียบ มีกลิ่นอายที่น่ากลัวอย่างที่สุดกำลังตื่นขึ้นมา

นี่ก็คือบรรพชนเจินหลงที่ถูกกำราบอยู่ที่นี่ไม่รู้นานเท่าไหร่อย่างไม่ต้องสงสัย!

……

หนึ่งวันหลังจากนั้น

นอกแดนวังมังกร

เสียงเป่าเขาสัตว์ดังขึ้นเป็นวงกว้างจากบนผิวทะเลโดยพลัน สะเทือนจนชั้นเมฆทลาย ผิวทะเลเกิดคลื่นรุนแรง กลิ่นอายอันตรายน่ากลัวก็ม้วนตัวมาทางแดนวังมังกรปานลมพายุ

ไม่นานบนผิวทะเลนั่น เรือสมบัติ เรือรบ สัตว์ปีศาจหลั่งไหลเข้ามาอย่างล้นหลามประหนึ่งกระแสน้ำหลาก มีมากเป็นหมื่นเป็นพันนับไม่ถ้วน

เมื่อมองอย่างละเอียด เงาร่างที่ประหนึ่งทัพใหญ่ถึงกับแบ่งเป็นเก้าทัพ เป็นผู้แข็งแกร่งที่มาจากเผ่าปี้อั้น ผูเหลา ชือน้ำแข็ง ซวนหนีต่างๆ

ผู้นำของทัพใหญ่ของเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ ล้วนเป็นบุคคลน่ากลัวระดับจักรพรรดิ พวกเขาร่วมมือกัน อานุภาพพลุ่งพล่าน ทำให้น่านน้ำแห่งนี้สะเทือนไหว

เพียงแค่อานุภาพระดับนี้ก็สามารถทำให้หมื่นเผ่าทั่วหล้าสิ้นหวังแล้ว!

“เร็วเข้า! แบ่งผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งไปปิดทางเข้าทั้งเจ็ด!”

ฝั่งเผ่าจักรพรรดิเจินโห่ว สัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งส่งเสียงตะคอกสะเทือนฟ้าดิน น้ำทะเลม้วนกลับ อานุภาพยิ่งยง

“จำไว้ว่าหน้าที่ของเผ่าผูเหลาของพวกเราก็คือคุมทางเข้าออกของศิลามรรคค้ำสมุทรเจ็ดหลักนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็จะให้ใครหนีออกจากแดนวังมังกรไม่ได้เด็ดขาด”

อีกด้าน เฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งของเผ่าจักรพรรดิผูเหลาสีหน้าเย็นชา ออกคำสั่งด้วยไอสังหารพวยพุ่ง

“ครั้งนี้เป็นโอกาสเดียวที่จะเปลี่ยนโชคชะตาของเผ่าเรา ใครกล้าเลินเล่อข้าจะฆ่าทิ้งไม่ละเว้น!”

“ลงมือ!”

“ปิดล้อมแดนวังมังกรให้หมด!”

เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามเสียงแล้วเสียงเล่าสะเทือนฟ้าดิน เหมือนพายุอสนีพัดโหม ฟ้าดินตกอยู่ในบรรยากาศเข่นฆ่ากดดันที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ก็เห็นผู้แข็งแกร่งเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่กระจายตัวไปอย่างมีระเบียบ พุ่งไปยังศิลามรรคต่างๆ

ใกล้ๆ ศิลามรรคค้ำสมุทรเหล่านี้ ล้วนมีเส้นทางเข้าออกแดนวังมังกร

ครั้งนี้เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ต่างรับผิดชอบปิดกั้นทางเข้าออกส่วนหนึ่ง ไม่นานก็ปิดล้อมทางเข้าออกทั้งหมดสี่สิบเก้าทางได้ เท่ากับปิดผนึกภายนอกของแดนวังมังกรทั้งหมด!

นี่ก็คือเงื่อนไขแลกเปลี่ยนที่เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ต้องทำ เพื่อให้ได้รับมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร

ใกล้กับศิลามรรคค้ำสมุทรหลักหนึ่งในนั้น ทางน้ำวนสายหนึ่งพลันปรากฏ ผู้แข็งแกร่งเผ่าเจินหลงกลุ่มหนึ่งเดินออกมา

ยามมองเห็นทัพใหญ่ของเผ่าจักรพรรดิปี้อั้นที่มืดฟ้ามัวดินราวกับเมฆดำอยู่ห่างออกไปก็อดอึ้งงันไม่ได้ แทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

เกิดอะไรขึ้น!?

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในแดนเจินหลงนี้ใครกล้ามาเหิมเกริม

“เด็กๆ จับเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่สูงส่งของเผ่าเจินหลงพวกนี้ให้ข้าทั้งหมด!” เฒ่าดึกดำบรรพ์เผ่าจักรพรรดิปี้อั้นคนหนึ่งส่งเสียงหัวเราะเหี้ยม

ตูม โครม!

ฟ้าพลิกดินตลบ ผู้แข็งแกร่งเผ่าปี้อั้นกลุ่มหนึ่งพุ่งมาอย่างดุเดือด แต่ละคนแววตาไม่เป็นมิตร

“บังอาจ! เผ่าปี้อั้นของพวกเจ้าไม่กลัวถูกล้างเผ่าพันธุ์หรือ”

ผู้แข็งแกร่งเผ่าเจินหลงเหล่านี้ทั้งตกใจทั้งโกรธ

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเผ่าเจินหลงเหมือนนายเหนือหัวบนสวรรค์ ควบคุมหมื่นเผ่าใต้หล้า คำสั่งเดียวไม่มีใครกล้าไม่ทำตาม และไม่มีคนกล้าต่อต้านพวกเขา

โดยเฉพาะเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ ยิ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่จงรักภักดีต่อพวกเขา ไม่มีทางกล้าขัดคำสั่งเด็ดขาด

ทว่าตอนนี้เผ่านี้กลับส่งทัพใหญ่มาก่อกบฏ ช่างเสียสติไปแล้วจริงๆ!

“ล้างเผ่าพันธุ์หรือ เผ่าเจินหลงของพวกเจ้ายังคิดว่าวันนี้เหมือนที่ผ่านมาอีกหรือ”

“จับตัวพวกเขาไว้!”

ผู้แข็งแกร่งเผ่าจักรพรรดิปี้อั้นเหล่านั้นพุ่งเข้าไปปานเทพดุร้าย ลงมืออย่างไม่เกรงใจ ในใจยิ่งรู้สึกสะใจ เลือดร้อนพลุ่งพล่าน

ก่อนหน้านี้พวกเขาก็เหมือนข้ารับใช้และผู้ใต้บังคับบัญชา ถูกเผ่าเจินหลงออกคำสั่งก็ทำได้เพียงอดทนและทำตาม ตลอดเวลาที่ผ่านมาพบเจอการชักสีหน้า ดูถูก ต่อว่า และก่นด่าเท่าไหร่ ทำให้พวกเขาสั่งสมความชิงชังไร้จำกัดมานานแล้ว

ตอนนี้ในที่สุดความชิงชังเต็มทรวงก็เจอที่ระบาย จึงปะทุอย่างสิ้นเชิง

เวลาเพียงสั้นๆ ผู้แข็งแกร่งเผ่าเจินหลงก็ถูกวิธีที่รุนแรงกำราบ ล้วนถูกจับเป็นทั้งหมด

ในเวลาเดียวกันนอกแดนวังมังกรเกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตกใจ ชาวเผ่าเจินหลงที่อยู่ภายนอกตื่นตกใจ ชั่วขณะเดียวเสียงฮือฮา เดือดดาล ยากจะเชื่อต่างๆ ก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ถึงกับร่วมมือกันมาล่วงเกิน ใครให้ความกล้านี้แก่พวกเขา รนหาที่ตายชัดๆ!”

“เร็ว ไปรายงานเหล่าผู้อาวุโสในเผ่า!”

“สมควรตาย เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่บ้าไปแล้วหรือ หากไม่มีเผ่าเจินหลง เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ของพวกเขาจะยังมีที่ยืนได้อย่างไร”

“แย่แล้ว ทางเข้าแดนวังมังกรถูกปิดทั้งหมดแล้ว!”

……

เสียงต่างๆ ดังก้อง ข่าวมากมายกระจายไปในแดนวังมังกรด้วยความเร็วยิ่งยวด ทำให้ทั้งเผ่าเจินหลงตื่นตระหนก

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเผ่าของพวกเขาควบคุมทั่วหล้า มองโลกอย่างเย่อหยิ่งปานนายเหนือหัว ไม่เคยเผชิญการเปลี่ยนแปลงใหญ่ถึงเพียงนี้!

“เหอะ เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่พวกนี้คงอยากถูกล้างเผ่าพันธุ์!” มีเฒ่าดึกดำบรรพ์ยิ้มเยาะ ไม่ได้ตื่นตระหนก และไม่เห็นเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่อยู่ในสายตา

“แค้นที่เผ่าเราพันธนาการและควบคุมพวกเขามาโดยตลอดหรือ เจ้าสารเลวพวกนี้ก็ไม่คิดสักหน่อย ว่าที่พวกเขาสามารถอยู่มาถึงวันนี้เป็นใครหนุนหลัง!”

มีคนเสียงเย็นชา

“เรื่องนี้ผิดปกติ จะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล ไปสืบว่าเรื่องเป็นมาอย่างไรกันแน่ จากความเข้าใจที่ข้ามีต่อเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ หากไม่มีที่พึ่ง พวกเขาไม่มีทางกล้าทำเรื่องโง่ๆ รนหาที่ตายเช่นนี้แน่”

มีคนขมวดคิ้วกำชับ

และในขณะที่ออกคำสั่ง สัตว์ประหลาดเฒ่าแห่งเผ่าเจินหลงเหล่านี้ก็เคลื่อนไหว ไปรวมตัวกันที่วังมหามรรคหมื่นมังกร

เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ก่อกบฏ นำกองทัพใหญ่มา นี่อยู่เหนือการคาดเดาของผู้แข็งแกร่งทุกคนในเผ่าเจินหลง

ในเวลาเดียวกันก็ทำให้พวกเขาตระหนักได้ ว่าหากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ดำเนินต่อไปเช่นนี้ ความน่าเกรงขามของเผ่าเจินหลงจะต้องหายเกลี้ยง!

“สารเลวพวกนี้ ไม่ว่าจะทำเรื่องไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเช่นนี้ด้วยเหตุผลใด จะต้องมอบการกำราบและชำระเลือดของพวกเขาอย่างโหดเหี้ยมที่สุด ทำให้หมื่นเผ่าทั่วหล้ารู้ ว่าแม้เป็นเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ หากกล้าล่วงเกินเผ่าเจินหลงของเราก็ต้องชดใช้ด้วยเลือด!”

มีเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่อารมณ์ฉุนเฉียวขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตะคอก

สองปีที่แล้วหลินสวินคนเดียวบุกสังหารเข้าแดนวังมังกร ทำให้พลังดั้งเดิมของเผ่าเจินหลงของพวกเขาเสียหายรุนแรง เสียหน้าไม่มีเหลือ

ตอนนี้เวลาผ่านไปเพียงแค่สองปี เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ที่ก่อนหน้านี้จงรักภักดีที่สุด กลับทำเรื่องหักหลังเช่นนี้!

คิดว่าเผ่าเจินหลงของพวกเขาใช้การไม่ได้แล้วหรือ

“ไม่ต้องรีบร้อน สี่สิบเก้าเส้นทางที่เชื่อมสู่ภายนอกถูกพวกเราควบคุมไว้ในมืออย่างมั่นคง ต่อให้พวกเขาปิดกั้นและล้อมข้างนอกไว้ ก็ถูกกำหนดให้ไม่สามารถบุกเข้ามาได้”

สัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งสีหน้านิ่งสงบ แฝงความเย็นชาและเฉยเมย “ข้ากลับรู้สึกว่าควรฉวยโอกาสนี้ กำจัดหนอนบ่อนไส้ไปให้หมด!”

หนอนบ่อนไส้

ชั่วขณะเดียวเฒ่าดึกดำบรรพ์จำนวนมากของเผ่าเจินหลงต่างเข้าใจ ที่เรียกว่าหนอนบ่อนไส้ ก็คือคนที่ตอนนี้เป็นผู้ติดตามอาวุโสในแดนวังมังกร

ผู้ติดตามอาวุโสเหล่านี้ ส่วนใหญ่ล้วนมาจากเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่!

เพียงแต่ยังไม่รอเฒ่าดึกดำบรรพ์เผ่าเจินหลงพวกนี้ตอบสนอง เสียงลนลานหนึ่งก็ดังมาแต่ไกล

“ผู้อาวุโส แย่แล้ว! หลินสวินนั่นพาผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งบุกสังหารเข้ามาในแดนวังมังกรของพวกเราแล้ว!”

อะไรนะ!?

เหล่าเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่รวมตัวกันอยู่ในวังมหามรรคหมื่นมังกรต่างอึ้งงัน เกือบคิดว่าตนหูฝาดไป

หลินสวิน… ถูกผู้อาวุโสประหัตวิญญาณฆ่าไปตั้งแต่สองปีที่แล้วแล้วไม่ใช่หรือ

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่!”

สัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งตะโกน สีหน้าอึมครึมน่ากลัว

……

ตอนที่แดนวังมังกรปั่นป่วนโกลาหล หลินสวินได้เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ข้างๆ เขามีซย่าจื้อ ซี ต้าหวง อ๋าวซิงถัง จ้าวหยวนจี๋ติดตามอยู่

เมื่อเข้าสู่แดนวังมังกรอีกครั้งก็ไม่เหมือนกับครั้งแรกแล้ว เพราะพลังผนึกของศิลามรรคค้ำสมุทรสี่สิบเก้าหลักถูกแก้ไปนานแล้ว ทำให้เส้นทางที่เข้าสู่แดนวังมังกรแห่งนี้ไม่มีการป้องกันใดๆ

“ไป ไปเขาบรรพชนมังกร หากจิ่งเซวียนยังอยู่แดนวังมังกรแห่งนี้ จะต้องถูกขังที่นั่นแน่นอน”

อ๋าวซิงถังนำทาง นางคุ้นเคยกับแดนวังมังกรมาก

“บังอาจ พวกเจ้าเป็นใครถึงกับกล้าบุกเข้ามาในแดนเจินหลงของข้าโดยพลการ หยุดเดี๋ยวนี้!” ระหว่างทางผู้แข็งแกร่งบางส่วนตกใจ ส่งเสียงตวาด

ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นล้วนเป็นข้ารับใช้ ทหารยาม ไม่ใช่คนของเผ่าเจินหลง สำหรับพวกหลินสวินย่อมไม่อยู่ในสายตา

ตูมโครม!

พวกหลินสวินถึงขั้นไม่สนใจด้วยซ้ำ เพียงแค่อานุภาพกดข่มที่ปลดปล่อยออกจากร่างก็กำราบผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นได้แล้ว

ส่วนพวกหลินสวินเคลื่อนย้ายจากไปอย่างรวดเร็ว กรีดผ่านห้วงอากาศเป็นแนวยาว

เคลื่อนย้ายปานสายฟ้าแลบ คนที่เจอระหว่างทางขอเพียงต่ำกว่าระดับจักรพรรดิ ก็ไม่มีโอกาสขัดขวางและตอบสนองใดๆ

เหล่าผู้แข็งแกร่งที่เห็นภาพนี้อยู่ไกลๆ ตกใจจนตัวสั่น ทำอะไรไม่ถูก ในหัวเหลือเพียงความคิดเดียว…

แดนวังมังกรในวันนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น!

“หยุดนะ!”

ทันใดนั้นเสียงตวาดปานอสนีดังกึกก้อง สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิของเผ่าเจินหลงสองคนเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศเข้ามาขวางไว้ ทั่วร่างแผ่อานุภาพท่วมฟ้า

เพียงแต่พอเห็นหลินสวินชัดๆ ทั้งสองต่างอึ้งไปราวกับเห็นผีตัวเป็นๆ เจ้าหมอนี่… ตายไปแล้วไม่ใช่หรือ!?

ยามมองเห็นอ๋าวซิงถังที่นำทางให้หลินสวิน สัตว์ประหลาดเฒ่าเผ่าเจินหลงสองคนนี้ล้วนหน้าเปลี่ยนสีไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ตะโกนเสียงหลง

“เหตุใด… จึงเป็นเจ้า!?”

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท