Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2280 ระเบิดรุนแรงทั่วเมือง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2280 ระเบิดรุนแรงทั่วเมือง

ตอนที่ 2280 ระเบิดรุนแรงทั่วเมือง

หักห้ามใจเอาไว้หน่อย?

ทำไมต้องหักห้ามใจ

ใครจะรังเกียจอานุภาพศาสตราจักรพรรดิที่สูงขั้น

แต่คำพูดของหลินสวินกลับมีเหตุมีผล ทำให้พวกเลี่ยนจิ่วเซียวล้วนไม่อาจแย้ง

ใช่แล้ว นี่เป็นคำขอที่ลูกค้าขอไว้!

หนำซ้ำหลินสวินหลอมศาสตราจักรพรรดิชั้นยอดชิ้นหนึ่งออกมาแล้ว สามารถทำให้ลูกค้าได้ลอบเบิกบานได้แล้ว…

“ภาพการหลอมอาวุธเมื่อครู่ พวกเจ้าจำขึ้นใจแล้วหรือยัง” เลี่ยนจิ่วเซียวถาม

สัตว์ประหลาดเฒ่าด้านข้างทั้งกลุ่มต่างพยักหน้า

คราวนี้เลี่ยนจิ่วเซียวจึงกล่าวอย่างพึงพอใจ “เช่นนั้นก็ดี” เขาทอดสายตามองหลินสวิน “สหายยุทธ์หลิน อยากพักผ่อนสักหน่อยหรือไม่”

เขาอยากตีเหล็กตอนยังร้อน ขอคำชี้แนะข้อสงสัยที่เกิดขึ้นตอนสังเกตการหลอมอาวุธเมื่อครู่กับหลินสวินสักหน่อย

“ช่างเถอะ ต่อเลยแล้วกัน”

หลินสวินสัมผัสพลังกายครู่หนึ่ง การหลอมอาวุธก่อนนหน้านี้อย่างมากก็เสียพลังไปไม่ถึงสองส่วน ยังพอหลอมอาวุธต่อได้

หนำซ้ำหลอมอาวุธเมื่อครู่ก็เป็นแค่ของทดสอบเล็กๆ พออุ่นเครื่องเท่านั้น

เลี่ยนจิ่วเซียวร้องเอ้อคราหนึ่ง แล้วสั่งการส่งมอบใบสั่งงานหลอมอาวุธให้หลินสวินอีกครั้งทันที

ขณะเดียวกันในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงฮือฮาไปทั้งแถบแล้ว

“ปฐมาจารย์สลักลายมรรคลึกลับมาเยือนร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง มาดสง่างามทำเอาคนใหญ่คนโตของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพต่างยอมแพ้!”

“ข่าวใหม่ล่าสุด ปฐมาจารย์หลอมอาวุธลึกลับนามหลินเต้ายวนคนนี้ มีความเชี่ยวชาญด้านการสลักลายมรรคที่เหนือจินตนาการ มาเยือนครานี้หมายจะหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์!”

“นับแต่อดีตสืบมา หลินเต้ายวนกลายเป็นคนนอกคนแรกที่เข้าสู่แดนลับของร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง!”

…ข่าวต่างๆ โจษจันทั่วเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงราวฟ้าร้อง เรียกคลื่นลมโหมกระหน่ำอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ในแดนหงส์เซียนใครไม่รู้บ้างว่าด้านการหลอมอาวุธ เผ่าจักรพรรดิช่างเทพเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเดียวในใต้หล้า

แต่ตอนนี้หลินเต้ายวนคนนี้กลับทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งหมดของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพต่างศิโรราบ นี่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

“เผ่าจักรพรรดิช่างเทพภาคภูมิฝีมือด้านการหลอมอาวุธปานใด กลับถูกคนนอกคนหนึ่งทำให้ศิโรราบ หลินเต้ายวนคนนี้… เป็นเทพมาจากที่ใด”

ขุมอำนาจใหญ่มากมายต่างถูกทำให้ตกใจ พากันส่งกำลังคนออกสืบข่าว

ชั่วขณะเดียวละแวกร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งก็เหมือนทะเลคน ถูกปิดล้อมมิดชิดชนิดน้ำไม่อาจรั่วไหล

ภาพตื่นตาเช่นนี้ทำให้หวงชางเทียนที่ตัดสินใจว่านับจากวันนี้จะอยู่ดูแลที่นี่ยังอดประหลาดใจไม่ได้ เริ่มสั่งการทันที โยกย้ายยอดฝีมือเผาหงส์เซียนจำนวนมากมาควบคุมดูแลอย่างลับๆ

เขาสงสัยว่าผู้แข็งแกร่งเผ่าเสือขาวและเต่าดำก็น่าจะถูกดึงดูดความสนใจมาเช่นกัน ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ฮือฮาเกินไป ใครที่มีความคิดในใจบางอย่างเกรงว่าล้วนมุ่งหน้ามาสืบข่าวเป็นแน่

และถ้าอาศัยโอกาสนี้ล่อพวกเขาออกมาสังหารทั้งหมดได้…

ใครจะไม่ยินดีเล่า

หวงชางเทียนคิดถึงตรงนี้ก็อดลอบกล่าวไม่ได้ เป็นเช่นนี้ก็ดี เดิมใต้เท้าบรรพชนก็จำศีลในส่วนลึกของทะเลเพลิงใต้ร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งแห่งนี้อยู่แล้ว ความฮือฮาที่หลินสวินสร้างยิ่งมากเท่าไหร่ ผู้แข็งแกร่งที่ดึงดูดมาก็ยิ่งมากเท่านั้น และยังสามารถทำหน้าที่กำบังหูตาผู้คนอย่างไร้รูปได้อีกด้วย

อย่างน้อยหากขุมอำนาจสองเผ่าอย่างเสือขาวและเต่าดำบุกเข้ามา ผู้แข็งแกร่งที่กระจายตัวอยู่บริเวณนี้… ก็เป็นแนวป้องกันโดยธรรมชาติอย่างหนึ่ง!

พลบค่ำวันนั้น

ผู้อาวุโสหม่างทงจากเผ่าจักรพรรดิงูเหลือมเขียวรีบเดินทางมาด้วยความสงสัย

เขาเพิ่งได้รับข่าวว่าศาสตราจักรพรรดิที่สั่งทำที่ร้านช่างเทพไม่นานมานี้หลอมเสร็จแล้ว นี่ทำให้เขาประหลาดใจเป็นที่สุด

เพราะตอนสั่งทำศาสตราจักรพรรดิตอนนั้น เขาต้องใช้สัมพันธ์ไม่น้อย ติดค้างน้ำใจมากมายกว่าจะได้รับคำสัญญาจากร้านช่างเทพ ว่าจะหลอมศาสตราจักรพรรดิของตนออกมาภายในสามเดือน

สำหรับผลลัพธ์นี้หม่างทงรู้สึกพอใจมาก เพราะเท่าที่เขารู้ ใบสั่งจองทำศาสตราจักรพรรดิบางส่วนถึงขั้นอยู่ในรายการจองสิบปีให้หลัง!

แต่หม่างทงคิดไม่ถึงเลยว่า ยังไม่ทันครึ่งเดือนก็ได้รับข่าวว่าศาสตราจักรพรรดิหลอมเสร็จแล้ว!

นี่ย่อมเป็นข่าวดีที่เหนือคาดอย่างแน่นอน

กระทั่งมาถึงนอกร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง หม่างทงก็พบด้วยความตกใจว่าท้องฟ้ามืดค่ำแล้ว แต่พื้นที่บริเวณนี้กลับยังครึกครื้นหาใดเปรียบ เงาร่างแออัด ผู้คนพลุกพล่าน

ถึงขั้นที่เขามองปราดเดียวก็จำระดับจักรพรรดิจากขุมอำนาจใหญ่แต่ละฝ่ายได้!

หลังสืบข่าวคร่าวๆ หม่างทงจึงรู้ว่า ที่แท้ต้นเหตุที่เรียกความฮือฮามากมายเช่นนี้คือคนลึกลับนามหลินเต้ายวน

“พี่หม่างทง รีบไปรับศาสตราจักรพรรดิที่ร้านช่างเทพเถอะ ได้ยินว่าหลินเต้ายวนคนนั้นใช้เวลาไม่ถึงสามชั่วยามก็หลอมศาสตราจักรพรรดิให้เจ้าได้แล้ว”

ระดับจักรพรรดิที่รู้จักหม่างทงเอ่ยปาก เจือความใคร่รู้ “ต้องจำไว้ว่าหลังรับศาสตราจักรพรรดิออกมาก็ให้พวกเราได้เชยชมบ้างนะ”

“นั่นสิ พวกเราอยากรู้มากว่าหลินเต้ายวนคนนี้มีฝีมือแค่ไหนกัน ถึงกับทำให้เผ่าจักรพรรดิช่างเทพยอมเชื่อถือเช่นนี้”

คนไม่น้อยล้วนเอ่ยปาก

หม่างทงตอบตกลงลวกๆ แล้วเดินเข้าร้านช่างเทพ

ไม่นานผู้คนที่รายล้อมบริเวณร้านช่างเทพก็เห็นเงาร่างของหม่างทงเดินออกมาแล้ว

เพียงแต่สีหน้าของเขากลับเจือแววเลื่อนลอย คล้ายใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เห็นได้ชัดว่าผิดปกติยิ่ง

“พี่หม่างทง เป็นอย่างไรกันแน่” มีคนอดเอ่ยถามไม่ได้

สายตานับไม่ถ้วนล้วนหันไปมองทางหม่างทง เจือความใคร่รู้หาใดเปรียบ

หม่างทงอึ้งงันอยู่นาน แล้วพลันแหงนหน้าระเบิดหัวเราะ “ฮ่าๆๆ มาไม่เสียเที่ยวจริงๆ สำหรับศาสตราจักรพรรดิของข้า… เหอๆๆ ข้าพูดได้เพียงว่าเหนือความคาดหมายของข้าโดยสิ้นเชิง!”

กล่าวจบเขาก็จากไปอย่างผ่าเผย

สีหน้าท่าทางฮึกเหิม ครึ้มใจ และตื่นเต้นนั่น กลับประทับอยู่ในสมองของผู้คนในที่นี้อย่างติดตรึง

และคนไม่น้อยต่างลอบด่าทอ เจ้าเฒ่านี่น่าชังนัก ถึงกับกล้าทำให้อยากแล้วจากไป!

แต่ท่าทีของหม่างทงยังคงเรียกความฮือฮาจากทั่วลาน ฝีมือหลอมอาวุธของหลินเต้ายวนคนนั้นน่าทึ่งสุดขีดอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่น่าทึ่งปานใดกลับไม่มีใครรู้

นี่ก็ทำให้ผู้คนยิ่งสงสัยใคร่รู้ขึ้นเรื่อยๆ กล่าวได้ว่าคันหัวใจสุดทน

หวงชางเทียนที่ดูแลที่นี่อย่างลับๆ เห็นเช่นนี้ในใจก็เกิดความคิด ออกคำสั่งว่า “นำเรื่องในวันนี้กระจายออกไปโดยด่วน ข้าจะทำให้ทั่วทั้งแดนหงส์เซียนรู้ว่าร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งในตอนนี้ มีหลินเต้ายวนผู้เป็นดั่งเทพในด้านการหลอมอาวุธมาเยือนแล้ว!”

“จำไว้ ต้องป่าวประกาศเรื่องของหม่างทงออกไปด้วย นี่เป็นถึงตัวอย่างสดๆ ร้อนๆ จะสูญเปล่าไม่ได้”

“ขอรับ!”

และในวันนั้นเผ่าหงส์เซียนเคลื่อนไหว เริ่มกระจายข่าวไปพื้นที่ทุกแห่งในแดนหงส์เซียนด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ

เพียงชั่วข้ามคืนชื่อของหลินเต้ายวนก็ระบือทั่วแดนหงส์เซียน!

และเพราะเผ่าหงส์เซียนคอยเติมเชื้อไปในเงามืด ทำเอาสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิที่ครองอาณาเขตในพื้นที่ต่างๆ มาไม่รู้นานเท่าไรล้วนตกใจ เริ่มเคลื่อนไหวมุ่งหน้ามาเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง

ศาสตราจักรพรรดิ ไม่ว่าสำหรับสัตว์ประหลาดเฒ่าคนใดล้วนมีแรงดึงดูดหาใดเปรียบ

และปฐมาจารย์หลอมอาวุธที่สามารถทำให้เผ่าจักรพรรดิช่างเทพศิโรราบ สามารถหลอมศาสตราจักรพรรดิชิ้นหนึ่งออกมาได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยามสั้นๆ นั่นก็สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิคนใดก็ตามไม่อาจไม่ให้ความสนใจแล้ว

ฉะนั้นเพียงไม่กี่วัน ระดับจักรพรรดิที่ปรากฏตัวในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงจึงมีจำนวนพุ่งสูงเป็นเท่าตัว หนำซ้ำพร้อมๆ กับเวลาที่เคลื่อนคล้อย จำนวนของระดับจักรพรรดิที่มุ่งหน้ามายังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด…

และตำแหน่งที่ตั้งร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งก็กลายเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่มากที่สุดในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง ระดับจักรพรรดิที่เมื่อก่อนยากจะเจอตัว ตอนนี้ยังพบเห็นได้ทุกที่

ยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์!

สำหรับสิ่งนี้ หวงชางเทียนก็อดพึงพอใจไม่ได้

เคราะห์ใหญ่ที่พุ่งเป้ามายังเผ่าหงส์เซียนกำลังจะมาเยือน สองเผ่าอย่างเสือขาวและเต่าดำรวมกับตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง นี่ทำให้เผ่าหงส์เซียนรู้สึกกดดันยิ่งยวด

ทว่าตอนนี้ระดับจักรพรรดิจากแต่ละพื้นที่ในแดนหงส์เซียนแห่แหนมารวมตัวกันในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง โดยเฉพาะแถวๆ ร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งแห่งนี้ ยิ่งกลายเป็นจุดรวมสายตาของเหล่าจักรพรรดิ

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้เผ่าเสือขาวและเต่าดำอยากบุกเข้ามา เกรงว่าก็ต้องคำนึงถึงผลที่จะตามมาก่อน!

‘หลินสวินนี่ช่างเป็นดาวนำโชคของเผ่าเราจริงๆ…’ หวงชางเทียนทอดถอนใจในใจ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดมาก่อน ว่าการปรากฏตัวของหลินสวินจะสร้างความเคลื่อนไหวใหญ่โตเช่นนี้

ทั้งหมดนี้หลินสวินไม่รู้เลยสักนิด

เขากำลังฝึกฝีมือ หลังจากเหยียบย่างระดับจักรพรรดิและตัดสินใจจะหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ชิ้นนี้ ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว

หลายปีมานี้เขาใคร่ครวญมาโดยตลอด ว่าศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ที่จะเข้าคู่กับมรรควิถีของตนได้จะมีรูปร่างแบบไหนกันแน่

จนกระทั่งเข้าเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงแห่งนี้ ได้สัมผัสนัยเร้นลับและรูปร่างศาสตราจักรพรรดิแต่ละชิ้นของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ ส่วนลึกภายในใจหลินสวินค่อยๆ ผุดความคิดบางอย่างขึ้นมา

และการฝึกฝีมือของเขาในตอนนี้ ก็เพื่อเตรียมความพร้อมในการหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ให้ตัวเองเท่านั้น

ตูม!

เตาเพลิงสำริดเก่าแก่ร้องกระหึ่ม ประกายแสงเพลิงเทพเจิดจ้า ลุกโชนแรงกล้า สัญลักษณ์ลายมรรคอัศจรรย์นับไม่ถ้วนกำลังพลิกม้วนไหลกรูเข้าไปในเตาหลอม ปรากฏภาพประหลาดอัศจรรย์มากมาย

หลินสวินยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แขกเสื้อไหวตลบ สีหน้าจดจ่อและเคร่งขรึม

ไกลออกไปสัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งกลุ่มอย่างพวกเลี่ยนจิ่วเซียวต่างก็จดจ่อตาไม่กะพริบ หว่างคิ้วทอประกายกระหายรู้

สี่วันแล้ว ภายใต้การสังเกตของพวกเขา หลินสวินหลอมศาสตราจักรพรรดิขั้นลึกลับชั้นต่ำสำเร็จเก้าชิ้น และศาสตราจักรพรรดิขั้นลึกลับชั้นกลางสำเร็จสามชิ้นแล้ว

ทุกวันจะหลอมศาสตราจักรพรรดิเฉลี่ยสามชิ้น

ไม่มีชิ้นไหนล้มเหลว

ไม่มีชิ้นไหนไม่ใช่ของ ‘ชั้นยอด’

ไม่มีชิ้นไหนไม่เหนือความคาดหมายของทุกที่นี่!

สำหรับพวกเลี่ยนจิ่วเซียว สี่วันมานี้พวกเขาได้รับความประหลาดใจและสะท้านสะเทือนมากมายเหลือเกิน และเสียอาการไม่หยุด

หากบอกว่าก่อนหน้านี้พวกเขาถูกฝีมือของหลินสวินทำให้ยอมศิโรราบ เช่นนั้นตอนนี้ก็เป็นเลื่อมใสและนับถือหลินสวินอย่างบ้าคลั่งแล้ว!

ในที่สุดพวกเขาก็สัมผัสได้ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าธรรมชาติสรรสร้าง มหัศจรรย์ปานธรรมชาติ อะไรที่เรียกว่าความเชี่ยวชาญด้านสลักลายมรรคประดุจเทพ!

ไม่มีคำใดจะอธิบายความรู้สึกในใจของพวกเขาได้ ตอนนี้พวกเขาก็เหมือนกลายเป็นบัณฑิตที่ตั้งใจเรียนที่สุด จดจ่อตั้งใจ มุ่งมั่นทุ่มเท ไม่กล้าแบ่งสมาธิแต่อย่างใด ด้วยกลัวว่าจะพลาดนัยเร้นลับหลอมอาวุธที่หายากและล้ำค่าบางส่วนไปด้วยเหตุนี้

แม้แต่มหาปฐมาจารย์สลักวิญญาณระดับเลี่ยนชิงฉีก็ไม่ยกเว้น

และสำหรับลั่วเจีย มีเพียงความรู้สึกเดียวเท่านั้น พวกเฒ่าชราเผ่าจักรพรรดิช่างเทพเหล่านี้ล้วนเหมือนถูกสิงร่างก็ไม่ปาน ดำดิ่งคลั่งไคล้ในฝีมือหลอมอาวุธของหลินสวินโดยสิ้นเชิง

นี่ทำให้ยามนางมองดูหลินสวินอีกครั้ง ความรู้สึกแรกคือแค่ไม่กี่สิบปีเท่านั้น แต่ความห่างชั้นระหว่างตนกับสหายคนนี้… กลับไกลโพ้นหาใดเปรียบแล้ว…

ถึงขั้นที่ทำให้นางรู้สึกไกลเกินเอื้อม ได้แต่แหงนมอง

และในสี่วันนี้ในมุมมืดของแดนลับนี้ มีเจตจำนงลึกลับสายหนึ่งปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวอย่างอดไม่ได้ ทอดมองหลินสวินที่กำลังหลอมอาวุธอยู่ไกลๆ

แต่ไม่ทันไรก็เลือนหายไป แทบจะไม่มีใครสัมผัสได้

แม้แต่หลินสวินที่จมจ่อมในการหลอมอาวุธก็ไม่เคยสังเกตเห็นภาพนี้อีก

ขณะเดียวกัน ในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงก็บังเกิดคลื่นคลั่งโหมกระหน่ำอีกครั้ง เพราะเรื่องที่หลินสวินหลอมศาสตราจักรพรรดิ

…………………………..

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท