ตอนที่ 2306 เคราะห์โลกเร้นปริศนา หุบเหวกลืนกิน
จักรพรรดิเต้ายวนหวนคืนโลกมืดอีกครั้ง!
ในขณะที่หลินสวินกำลังจะทะลวงขั้น ข่าวนี้ก็ลือกันทั่วโลกมืดราวสายฟ้าฟาด เรียกคลื่นลมใหญ่ซัดสาด ผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่ต่างสะท้านสะเทือนและฮือฮากับเรื่องนี้
ใครจะลืมลง ในปีที่แดนปรินิพพานปรากฏ ผู้มากความสามารถทั่งหล้าฟ้าดารารวมตัว กลับมีเพียงจักรพรรดิเต้ายวนที่อยู่เหนือผู้อื่น
แล้วใครจะลืมคนที่เหมือนตำนาน คนเดียวที่บรรลุมกุฎจักรพรรดิในรอบแสนปีนับแต่อดีตจนปัจจุบันได้ลง
สามปีก่อน ขุมอำนาจทั่วหล้าฟ้าดาราไม่รู้เท่าไหร่ต่างค้นหาร่องรอยของจักรพรรดิเต้ายวน บ้างเพื่อแก้แค้น
บ้างก็เพื่อต่อสู้ชิงศุภโชคบนตัวเขา
แต่ก็เริ่มจากเวลานั้นเป็นต้นมา จักรพรรดิเต้ายวนเงียบหายไร้ร่องรอย ทำให้คนทั่วหล้าไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ใด
ใครก็คิดไม่ถึงว่าเวลาผ่านไปสามปีเขาจะปรากฏตัวที่โลกมืดอีกครั้ง!
ทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกไป ทั่วหล้าต่างจับตามอง
ไม่นาน การเข่นฆ่านองเลือดที่เกิดขึ้นริมฝั่งมหาสมุทรเลือดไร้สงบก็แพร่สะพัดออกมา ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของหลินสวินทรงพลังไร้ทัดเทียม
ระดับจักรพรรดิสิบหกคนที่มาจากแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพ กลับถูกจักรพรรดิเต้ายวนคนเดียวสังหารราบคาบ!
ข่าวระดับนี้เห็นได้ชัดว่าสะเทือนจิตใจผู้คนเป็นพิเศษ
“นี่จักรพรรดิเต้ายวนคิดจะเปิดศึกกับแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพหรือ”
เสียงฮือฮาไม่รู้เท่าไหร่ดังขึ้น
โลกมืดในตอนนี้เสมือนถูกสองยักษ์ใหญ่อย่างสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์ควบคุมโดยสิ้นเชิง ส่วนหอวิหคทองแดงแทบจะล่มสลายอยู่รอมร่อ พร้อมๆ กับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของเจ้าหอวิหคทองแดงแต่ต้นแล้ว
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินที่สังหารระดับจักรพรรดิของแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพ จึงถูกมองว่าเป็นการประกาศศึกอันนองเลือดอย่างหนึ่ง!
“ว่ากันว่าจักรพรรดิเต้ายวนและจักรพรรดิสงครามคำรนของหอวิหคทองแดงปรากฏตัวพร้อมกัน เป็นไปได้สูงว่าอาจจะแก้แค้นให้หอวิหคทองแดงก็เป็นได้!”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เพียงแต่จักรพรรดิเต้ายวนไม่ห่วงว่าจะถูกแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพกำจัดบ้างเลยหรือ”
“เจ้านี่ไม่รู้อะไร ในทางเดินโบราณฟ้าดาราแห่งนี้ จักรพรรดิเต้ายวนเคยกลัวใครบ้าง อย่าลืมสิ เขาเป็นถึงผู้สืบทอดคีรีดวงกมล! เคยสังหารผู้แข็งแกร่งของหกเรือนมรรคใหญ่และสิบเผ่านักรบใหญ่ไม่รู้เท่าไร หลายปีมานี้ทั่วทั้งทางเดินโบราณฟ้าดารา ขุมอำนาจที่อาฆาตแค้นจักรพรรดิเต้ายวนมีไม่รู้มากเท่าไหร่ แต่สุดท้ายมีใครทำอะไรจักรพรรดิเต้ายวนได้บ้าง”
…
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ราวกระแสน้ำเชี่ยวปั่นป่วน กึกก้องในเมืองและเขตพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกมืด
จักรพรรดิเต้ายวน!
ผู้บรรลุมกุฎจักรพรรดิในหนึ่งแสนปีมานี้ มีเพียงคนผู้นี้เท่านั้น!
คนที่ดุจดั่งตำนานเช่นนี้ ตอนนี้หมายจะแก้แค้นให้หอวิหคทองแดง ประกาศศึกกับแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพด้วยวิธีนองเลือด ใครจะไม่รอชมกันเล่า
ผู้แข็งแกร่งและขุมอำนาจใต้อาณัติหอวิหคทองแดงที่ยังเหลือรอดตามพื้นที่ต่างๆ ในโลกมืดตอนนี้ ยามได้ยินข่าวนี้ต่างก็อดฮึกเหิมขึ้นมาไม่ได้
จักรพรรดิเต้ายวนและจักรพรรดิสงครามคำรนปรากฏตัวพร้อมกัน ดุจดั่งแสงสว่างสายหนึ่งทำลายความมืด ทำให้พวกเขามองเห็นเสี้ยวความหวังที่จะพลิกสถานการณ์ได้!
แม้จะริบหรี่แค่ไหน แต่ถึงอย่างไรก็เป็นความหวัง!
แต่แล้วในวันนั้น
ข่าวที่สะท้านสะเทือนโลกมืดกระจายออกมา
อวี้คุนจื่อเจ้าสำนักสำนักโบราณจรัสเทพป่าวประกาศ นัดหมายจักรพรรดิเต้ายวนไปพบที่ ‘เขาหุบเหวโลหิต’
เมื่อข่าวแพร่ออกมา ทั่วทั้งโลกมืดล้วนฮือฮา คนนับไม่ถ้วนจับตามอง เดือดพล่านด้วยเรื่องนี้ ถึงขั้นยากจะเชื่อ
กาลเวลานับไม่ถ้วนที่ผ่านมานี้ อวี้คุนจื่อ ‘จักรพรรดิธรรมลมมายา’ เจ้าสำนักแดนกษิติครรภ์ รวมถึงเจ้าหอวิหคทองแดง ถูกเรียกว่าเป็นสองในสามนายเหนือหัวใหญ่ที่ปกครองโลกมืด!
ใครก็คาดไม่ถึงว่าจักรพรรดิเต้ายวนเพิ่งปรากฏตัวได้ไม่นาน คนใหญ่คนโตระดับอวี้คุนจื่อก็จะออกปากขอนัดพบจักรพรรดิเต้ายวน!
ทุกคนต่างตระหนักได้ว่าสองยักษ์ใหญ่อย่างสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์กำลังจะเคลื่อนไหวแล้ว
สำนักโบราณจรัสเทพ รากฐานลึกล้ำสุดหยั่ง
แดนกษิติครรภ์ยิ่งทำให้คนแค่พูดถึงก็หน้าเปลี่ยนสี
สิ่งที่ทำให้คนกริ่งเกรงมากที่สุดคือ สองสำนักใหญ่เก่าแก่นี้ ล้วนมีความสัมพันธ์ชนิดแยกจากกันไม่ออกกับจักรพรรดิสวรรค์ดำรงที่ควบคุมพลังระเบียบต้องห้าม
ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อน หลังจักรพรรดิสวรรค์ดำรงมาเยือนทางเดินโบราณฟ้าดารา สองสำนักใหญ่นี้ก็โอนอ่อนผ่อนตามจักรพรรดิสวรรค์ดำรงตลอดมา
จักรพรรดิเต้ายวนคนเดียว แม้จะเพิ่มจักรพรรดิสงครามคำรนมาอีกคน จะสามารถงัดข้อกับสองยักษ์ใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร
“สองปีมานี้ขุมอำนาจของหอวิหคทองแดงพบเจอการโจมตีประหนึ่งทำลายล้างนานแล้ว ย่อมไม่มีทางช่วยเหลืออะไรได้ ถึงแม้จักรพรรดิเต้ายวนจะบรรลุมกุฎจักรพรรดิ แต่อย่างไรช่วงเวลาที่บรรลุจักรพรรดิก็สั้นเกินไป ครั้งนี้… เขาอาจเจอปัญหาใหญ่แน่แล้ว!”
คนมากมายวิเคราะห์อย่างใจเย็น และได้ข้อสรุปเช่นนี้ออกมา
“อวี้คุนจื่อเจ้าสำนักสำนักโบราณจรัสเทพออกปากเอง แค่คิดก็รู้ เกรงว่านี่คือคิดจะเล่นงานจักรพรรดิเต้ายวนแน่ๆ แล้ว”
“ทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ของจักรพรรดิเต้ายวนก็คือรีบออกจากโลกมืด ด้วยรากฐานน่าสะพรึงระดับมกุฎมหาจักรพรรดิของเขา หากต้องการหนี บนโลกนี้ใครจะขวางได้ ขอเพียงให้เขาเก็ยตัวเงียบร้อยปีพันปี วันหน้าอย่าหวนกลับมาอีก”
…เสียงวิพากษ์วิจารณ์และวิเคราะห์ต่างๆ ผุดขึ้นไม่หยุด หลังผู้คนสงบลงแล้วจึงตระหนักว่าถึงแม้จักรพรรดิเต้ายวนจะดุจดั่งตำนาน แต่หากจะต้านสองยักษ์ใหญ่จริงๆ กลับไม่มีโอกาสชนะมากนัก
แต่ไม่ว่าอย่างไรเมื่อข่าวนี้แพร่กระจายและถูกวิเคราะห์มากมาย สายตานับไม่ถ้วนจากทั่วทุกมุมต่างมองมาทางเขาหุบเหวโลหิต
นี่เป็นสถานที่ที่อวี้คุนจื่อนัดพบจักรพรรดิเต้ายวน!
หลังจากจักรพรรดิเต้ายวนได้รู้ข่าว… จะกล้ามาตามนัดหรือไม่
สำหรับทั้งหมดนี้ หลินสวินยังไม่รู้สักนิด เขากำลังข้ามด่านเคราะห์อยู่
…
ตูม!
เหนือมหาสมุทรเลือดไร้สงบ เมฆดำดุจหมึกแผ่ทั่วเวิ้งฟ้า วิปริตแปรปรวนไม่หยุด ส่งเสียงดังกระหึ่มราวฟ้าคำราม
โลกที่เกิดขึ้นจากอสนีเคราะห์ควบรวมออกมา ภูผาธาราภายในนั้นกว้างใหญ่ เขตแดนไร้กำจัด มีอสนีเคราะห์ภูเขาไฟที่ราวกับสาดพุ่ง มีกระแสอสนีที่ประหนึ่งมหาสมุทรโหมตลบกลางฟ้าดิน
วิญญาณอสนีที่แปลงมาจากต้นไม้ใบหญ้านับไม่ถ้วนทะยานอยู่กลางฟ้าดิน สาดพ่นลำแสงอัสนีที่เจิดจ้าแสบตา เมฆลมที่โหมคลั่งกลางฟ้าดินล้วนรายล้อมด้วยประกายอสนีเคราะห์ที่เดือดพล่าน
นี่ก็คือ ‘เคราะห์โลกเร้นปริศนา’ ปราการสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดของระดับจักรพรรดิขั้นสี่ โลกใหญ่สายฟ้าที่แปรสภาพมาจากเคราะห์จักรพรรดิแห่งหนึ่ง!
ประกายอสนีที่ส่องแปลบปลาบภายในนั้นล้วนสามารถสังหารระดับจักรพรรดิทั่วไปได้ น่ากลัวสุดขีด
เปรี้ยง!
ในโลกสายฟ้าเงาร่างที่สูงใหญ่กำยำสายหนึ่งพุ่งสังหารอยู่ภายใน ร่างกายดุจหุบเหวใหญ่กลืนกินฟ้าดิน เคลื่อนตัวพุ่งทะยาน
พายุสายฟ้าที่โหมกระหน่ำราวโซ่เทพระเบียบกลับถูกเขาหวดหมัดซัดกระจุยทั้งหมด สาดพรมละอองแสงอสนีที่เจิดจ้าแสบตาออกมามากมาย
มองจากไกลๆ ประดุจเทพศักดิ์สิทธิ์พุ่งสังหารอยู่ข้างใน ซัดสะเทือนอสนีทั่วม่านฟ้า!
เงาร่างนี้ก็คือหลินสวิน
นัยน์ตาลึกล้ำของเขาดุจอสนีเย็นเยียบ มรรควิถีทั้งร่างก้องกระหึ่มราวเตาเดือดปั่นป่วน ปลดปล่อยโคจรสุดกำลัง ยามขยับมือก็สามารถซัดภูเขาใหญ่อสนีเคราะห์แตกกระจุย ฟันพายุสายฟ้าได้!
เห็นชัดว่าเขาแข็งแกร่งหาใดเปรียบ โจมตีอหังการ กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาจากทั่วร่างดุจดั่งหุบเหว สูบกลืนศุภโชค
เวลาเพียงหนึ่งถ้วยชา
โลกที่แปลงมาจากอสนีเคราะห์นี่ก็เกิดรูพรุนยับเยิน สภาพไม่ชวนมอง
จากนั้นพร้อมกับเสียงดังกระหึ่มที่ชวนให้ประหวั่นใจเป็นระลอกๆ กึกก้องขึ้น หอเรือนที่แปลงจากอสนีเคราะห์ผุดขึ้นจากพื้นหลังแล้วหลังเล่า
สิ่งก่อสร้างแต่ละหลังล้วนปกคลุมด้วยเพลิงแสงอสนีเคราะห์ สมบัติน่าสะพรึงต่างๆ อย่างทวนศึก ระฆังทองแดง ประทับมรรค กระบี่บิน แส้หางม้า แจกันสมบัติแผ่พุ่งออกมา…
แต่ละอย่างล้วนเจือกลิ่นอายอสนีเคราะห์แปลกประหลาด แข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการ เพียงโจมตีส่งๆ ถึงขั้นเทียบได้กับอานุภาพระดับจักรพรรดิขั้นหก!
นี่หากให้ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิขั้นสามทั่วไปข้ามด่านเคราะห์ เกรงว่าคงถูกกระหน่ำโจมตีจนจิตสิ้นวิญญาณสลายไปแล้ว
อานุภาพสังหารแข็งแกร่งหาใดเปรียบของหลินสวินถูกจำกัดทันที ทั้งตัวประสบการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิต
ชั่วครู่หนึ่ง
เขาหนังเปิดเนื้อถลอก ทั่วร่างอาบเลือด กระดูกทั้งตัวล้วนบาดเจ็บสาหัส สถานการณ์วิกฤตคับขัน
นี่ก็คือเคราะห์โลกเร้นปริศนา เป็นเคราะห์ชั้นเลิศที่พุ่งเป้ามายังมกุฎมหาจักรพรรดิ!
แต่หลินสวินกลับคล้ายไม่สะทกสะท้าน ในดวงตาเจตจำนงลุกโชนราวเดือดพล่าน แน่วแน่เหมือนเก่า สงบเยือกเย็นเช่นเคย
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
…เขาพุ่งสังหารอีกครั้ง อานุภาพดั่งเทพมาร แม้จะบาดเจ็บสาหัสแต่อานุภาพกลับไม่ลดลง ตรงข้ามยิ่งสู้ยิ่งองอาจ อานุภาพทั้งตัวซัดสะเทือนธารดาราโดยรอบ
ทั้งชีวิตนี้ของหลินสวิน ตั้งแต่ผงาดขึ้นมาในจักรวรรดิจื่อเย่าเมื่อสมัยเด็ก จวบจนอหังการเหนือดินแดนรกร้างโบราณ กรำศึกในฟ้าดารา… จนถึงตอนนี้จำนวนครั้งที่ข้ามด่านเคราะห์มีไม่รู้เท่าไหร่ มหาเคราะห์ที่แปลกประหลาดและเรียกได้ว่าไร้ทัดเทียมบางส่วนก็พบบ่อยจนชินนานแล้ว
ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขา ว่าอะไรที่เรียกว่าเกิดใหม่ในการดับสูญ อะไรที่เรียกว่าเปลี่ยนแปลงท่ามกลางความเป็นความตาย!
ฉะนั้นยามทะลวงเคราะห์ครั้งนี้ แม้จะประสบอันตรายสุดหยั่ง เจ็บตัวแสนสาหัส แต่สภาพจิตใจของเขาตั้งแต่ต้นจนจบไม่เคยได้รับผลกระทบและสั่นคลอนเลยสักเสี้ยว
“ฆ่า!”
กลางฟ้าดินหลินสวินตะโกนก้องดั่งสายฟ้า ผมยาวปลิวไสว ดั่งเปลวเพลิงที่ไม่มอดดับ ทะลวงด่านเคราะห์ถึงชีวิต ต่อสู้เลือดอาบ
และในการข้ามด่านเคราะห์และการสังหารระดับนี้ มรรควิถี สารกาย พลังชีวิต และจิตใจของเขาต่างพุ่งกระฉูด เปลี่ยนแปลงอย่างพรวดพราด…
หลังเข้าสู่ธรณีประตูระดับจักรพรรดิ ทุกครั้งที่เลื่อนขั้นล้วนยากเย็นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า แต่ละขั้นล้วนอันตรายและทรหดกว่าเก่า
แต่ขณะเดียวกันหลังทะลวงขั้นได้แล้ว พลังต่อสู้ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นกอง เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าสะเทือนดิน!
ตั้งแต่หลินสวินบรรลุมกุฎจักรพรรดิในแดนปรินิพพานปีนั้น จวบจนบัดนี้ยังไม่ทันถึงสิบปีก็ทะลวงขั้นต่อเนื่อง ตอนนี้ยิ่งข้ามเคราะห์สวรรค์ของระดับจักรพรรดิขั้นสี่ ความเร็วในการเลื่อนขั้นระดับนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นประวัติการณ์ ชวนตะลึงพรึงเพริดนัก
หนึ่งวันให้หลังเต็มๆ
กลิ่นอายหลินสวินรุนแรง ปลดปล่อยพลังแฝงทั้งหมดออกมาฉับพลัน สำแดงนัยเร้นลับของคัมภีร์เตาหลอมมหามรรค
ตูม!
ก็เห็นในโลกอสนีเคราะห์นี้ประดุจมีหุบเหวใหญ่ปรากฏ กลืนกินอสนีปั่นป่วนสิบทิศแปดทางด้วยอานุภาพบดขยี้แหลกละเอียด
ภูผาธารา แผ่นดินใหญ่ ห้วงอากาศ ละอองแสง อสนีเคราะห์… ทุกสิ่งล้วนถูกหุบเหวใหญ่นั่นกลืนกินปานลมหอบเข้ากลีบเมฆ
จนตอนท้ายหุบเหวใหญ่นี่ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น กลืนกินเวิ้งฟ้า!
เหนือมหาสมุทรเลือดไร้สงบ ไกลออกไปต้าหวง ชิงอิง และสัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งกลุ่มต่างรอคอยอยู่ตลอด จนถึงตอนนี้ล้วนรู้สึกใจเต้นเนื้อกระตุก สะท้านสะเทือนไม่หาย
ไม่ว่าพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ยาวนานเท่าไหร่ มีปราณระดับไหน แต่อย่างไรก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น ‘เคราะห์โลกเร้นปริศนา’ ซึ่งเป็นของมกุฎมหาจักรพรรดิ
กลิ่นอายพิบัติเคราะห์ปานทำลายล้างระดับนั้นทำให้พวกเขาล้วนรู้สึกกดดันหายใจไม่ออก ขนพองสยองเกล้า ยากจะขยับตัว
น่ากลัวยิ่ง!
ลองถามตัวเองในใจ หากเป็นพวกเขากำลังข้ามด่านเคราะห์ คงไม่รู้ว่าจะยืนหยัดจนถึงตอนนี้ได้หรือไม่
“เคราะห์สวรรค์นี้น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ แล้ว แค่ไม่รู้ว่าเจ้าหนูนั่นตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง…” ต้าหวงชักเริ่มเป็นห่วง ผ่านมาหนึ่งวันแล้ว พิบัติเคราะห์ครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุด ตรงข้ามกลับยิ่งน่าสะพรึงขึ้นทุกที
และก็เป็นเวลานี้
ตูม!
ฟ้าดินสั่นสะเทือน ผิวสมุทรพลิกม้วน
ภาพที่เรียกได้ว่าน่าเหลือเชื่อปรากฏในครรลองสายตาของพวกต้าหวง ชิงอิง…
โลกที่แปลงมาจากเคราะห์โลกเร้นปริศนานั่นเกิดเสียงสะเทือนฟ้าดินฉับพลัน ถูกหุบเหวใหญ่น่าสะพรึงที่ปรากฏขึ้นฉีกทึ้ง บดขยี้ และกลืนกิน!
หุบเหวกลืนกินอย่างแท้จริง!
——