Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2321 แดนดาราทอดทิ้ง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2321 แดนดาราทอดทิ้ง

ตอนที่ 2321 แดนดาราทอดทิ้ง

หนึ่งวันผ่านไป

ข่าวแดนกษิติครรภ์พังพินาศกระจายออกไป ก่อให้เกิดความอึกทึกครึกโครมขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ทั้งโลกมืดต่างหวาดหวั่น

ทำลายสำนักโบราณจรัสเทพก่อนแล้วไปทำลายแดนกษิติครรภ์ต่อ!

ยักษ์ใหญ่โลกมืดทั้งสองเป็นผู้นำในโลกมืดมาไม่รู้นานเท่าไร แต่ตอนนี้ในเวลาสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งเดือนก็พังทลาย พินาศดับสลายไปจากโลก!

นี่น่าเหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย

โครงสร้างที่แน่นอนเสมอมาในหมื่นกาลของโลกมืด วันนี้ถูกพลิกคว่ำโดยสมบูรณ์!

ความรู้สึกทั้งสะท้านไหส หวาดหวั่น ยำเกรง ครั่นคร้าม ตื่นตะลึง… เหมือนภูเขาปะทุแม่น้ำไหลหลาก อบอวลไปทั่วทุกมุมของโลกมืด

นี่ ย่อมไม่ต่างอะไรกับการเปลี่ยนฟ้า!

และชื่อของจักรพรรดิเต้ายวนก็เหมือนตำนานที่ทำลายความมืดมิด พลิกโลกไปอีกแบบ ประทับอยู่ในใจสรรพชีวิตอย่างลึกซึ้ง

“ตั้งแคต่อดีตถึงปัจจุบัน ในหมู่มหาจักรพรรดิมีเพียงจักรพรรดิเต้ายวนบรรลุมกุฎจักรพรรดิคนเดียว บดขยี้ยักษ์ใหญ่แห่งโลกมืดทั้งสอง เป็นผู้ชี้นำเหนือโลกมืด!”

“ตั้งแต่วันนี้ไป โลกมืดก็มีจักรพรรดิเต้ายวนเป็นนายเหนือหัวแต่เพียงผู้เดียว!”

“ต่อให้เป็นหมื่นกาลต่อจากนี้ นามของจักรพรรดิเต้ายวนก็จะคงอยู่นิรันดร์ สะเทือนอดีตปัจจุบัน!”

……

เสียงอุทานและสั่นสะท้านต่างๆ อึกทึกครึกโครมในโลกมืด

และท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้ ในอาณาเขตที่อยู่ภายใต้การควบคุมของแดนกษิติครรภ์ อารามเทพกษิติครรภ์ที่อยู่ในเมืองมากมายนับไม่ถ้วนในนั้นล้วนถูกทำลายทั้งสิ้น!

เมื่อรวมกับอาณาเขตที่สำนักโบราณจรัสเทพครอบครองก่อนหน้านี้ สถานการณ์ของโลกมืดก็เปลี่ยนแปลงใหม่หมดไปด้วย

เพียงแต่ที่ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนกังขาก็คือ ในสถานการณ์เช่นนี้ขุมอำนาจหอวิหคทองแดงกลับไม่ได้ถือโอกาสขยายอาณาเขต!

กลับกัน ขุมอำนาจและอาณาเขตที่สำนักโบราณจรัสเทพหรือแดนกษิติครรภ์เหลือทิ้งไว้ ต่างอยู่ในสภาพโกลาหลไร้เจ้าของ

เรื่องนี้ดูผิดธรรมดานัก

แต่คนที่เจนจัดบางคนยังมองทะลุความลับในเรื่องนี้ออก

จักรพรรดิสวรรค์ดำรงกับเจ้าหอวิหคทองแดงที่หายเข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุนนั้น จนตอนนี้ยังไม่รู้เป็นตายร้ายดี ในสถานการณ์เช่นนี้หอวิหคทองแดงต้องเก็บตัวต่อไป!

หาไม่หากจักรพรรดิสวรรค์ดำรงกลับมาบนทางเดินโบราณฟ้าดารา และรู้ข่าวว่าแดนกษิติครรภ์กับสำนักโบราณจรัสเทพล่มสลาย หอวิหคทองแดงต้องประสบเคราะห์ใหญ่แน่

ทว่า แม้ขุมอำนาจหอวิหคทองแดงไม่ได้ขยายพื้นที่มายึดครองอาณาเขตที่เดิมเป็นของแดนกษิติครรภ์กับสำนักโบราณจรัสเทพ

แต่โลกมืดในตอนนี้กลับไม่มีใครกล้าแตะอาณาเขตเหล่านี้!

คิดดูก็รู้ว่ามีจักรพรรดิเต้ายวนอยู่ ในโลกมืดนี้ ใครจะกล้าไปแตะทรัพย์หลังศึกเหล่านี้ที่เดิมทีเป็นของจักรพรรดิเต้ายวน

ถ้ากล้าทำเช่นนี้ ต้องเป็นเพราะรังเกียจว่ายังตายไม่เร็วพอเป็นแน่!

……

สิบวันต่อมา

แดนกษิติครรภ์

หลินสวิน ซี ต้าหวง ชิงอิงรวมถึงเหล่าคนเก่าแก่ในหอวิหคทองแดงมารวมตัวในโถงหนึ่ง

“เจ้าหอ ผ่านการศึกในครั้งนี้ ท่านได้กลายเป็นนายเหนือหัวอันดับหนึ่งแห่งโลกมืดอย่างเต็มภาคภูมิแล้ว หอวิหคทองแดงใต้การนำของท่าน จะต้องรุ่งเรืองอย่างไม่เคยมีมาก่อนแน่”

คนเก่าแก่คนหนึ่งเอ่ยอย่างตื่นเต้น

“ใช่แล้ว โลกมืดในตอนนี้ ทั้งแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพต่างถูกถอนรากถอนโคนไปแล้ว ไม่อาจคืนสู่ความรุ่งเรืองในวันวานได้อีก โลกมืดในภายหน้าต้องมีหอวิหคทองแดงของพวกเราเป็นผู้นำ มีเจ้าหอเป็นหัวหอก!”

คนเก่าแก่ในหอวิหคทองแดงก็พากันเอ่ยปาก สีหน้าสั่นสะท้านและซาบซึ้งไม่มากก็น้อย

ขนาดพวกเขายังนึกไม่ถึงว่าเพิ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเดือน หลินสวินไม่เพียงเปลี่ยนสถานการณ์ยากลำบากและอันตรายของหอวิหคทองแดงในคราวเดียวได้ มิหนำซ้ำยังแผลงฤทธิ์ทั่วโลกมืด กำราบยักษ์ใหญ่ทั้งสองของโลกมืดได้!

นี่ก็เหมือนปาฏิหาริย์ครั้งหนึ่ง!

หลินสวินกวาดมองทุกคนแล้วเอ่ยว่า “แม้แดนกษิติครรภ์กับสำนักโบราณจรัสเทพจะล่มสลายไปแล้ว แต่ภัยร้ายถึงตายอย่างจักรพรรดิสวรรค์ดำรงยังอยู่ ทุกท่านอย่าดีใจไวไปนัก”

ทุกคนชะงักไป บรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นเงียบเชียบลงไม่น้อย

ก็เห็นหลินสวินพูดต่อ “แต่ทุกท่านก็ไม่ต้องกังวล อีกไม่นานข้าคนแซ่หลินจะไปสืบสถานการณ์ที่แน่ชัดในแหล่งสถานคุนหลุนสักหน่อย หลังข้าคนแซ่หลินจากไป เรื่องในหอวิหคทองแดงก็ต้องยกให้ทุกท่านจัดการแล้ว”

ขณะพูดสายตาของเขามองไปยังชิงอิง

“คุณชายวางใจได้ โลกมืดตอนนี้ไม่มีพลังที่คุกคามหอวิหคทองแดงของพวกเราได้อีกแล้ว” ชิงอิงเอ่ยจริงจัง เสียงนุ่มนวลเสนาะหู

ทว่าในใจนางรู้สึกเสียใจอย่างอดไม่ได้ คุณชายเพิ่งกลับมาไม่ถึงเดือนก็ต้องเดินทางไกลอีกแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเขาไปแหล่งสถานคุนหลุนคราวนี้ เมื่อไรถึงจะได้กลับมา…

ตัวหลินสวินเองกลับกำลังคิดคำนวณ

การทำลายแดนกษิติครรภ์คราวนี้ได้รับทรัพย์ที่สั่งสมมาไม่รู้นานเท่าไรเช่นกัน ถึงกับมากกว่าทรัพย์สินที่ได้รับจากสำนักโบราณจรัสเทพเสียอีก

ของบางส่วนที่มีประโยชน์กับการฝึกปราณถูกหลินสวินเก็บไว้ ที่เหลือก็ให้หอวิหคทองแดงมาจัดการ

ความจริงแล้วสำหรับหลินสวินในตอนนี้ สมบัติในโลกนี้ เว้นแต่เป็นสมบัติจากธรรมชาติที่หาได้ยากยิ่ง สมบัติตามความหมายทั่วไปยากนักที่จะเข้าตาเขา

ในสายตาของระดับจักรพรรดิคนอื่น สมบัติบางอย่างอาจเรียกได้ว่ามีค่าควรเมือง สามารถทำให้พวกเขาคลั่งไคล้ได้ แต่สำหรับเขาแล้วก็ไม่เท่าไร

สิ่งเดียวที่ทำให้หลินสวินรู้สึกใจฝ่ออยู่บ้างก็คือ หลังจากวันที่ช่วยรักษาแผลให้ซี ฝ่ายหลังก็เย็นชาปั้นปึ่ง เหมือนโกรธมากจริงๆ…

แต่ตัวหลินสวินเองก็รู้สึกอัดอั้นอยู่บ้างอย่างห้ามไม่ได้ ตอนนั้นตนอยากช่วยซีรักษาแผลจริงๆ นะ…

ความจริงแล้วอาการบาดเจ็บของซีคราวนี้ร้ายแรงจริงๆ ถูกพลังระเบียบต้องห้ามแปดเปื้อนร่างกาย ถึงตอนนี้ยังไม่ลบเลือนไป

นี่ทำให้หลินสวินกลัดกลุ้ม อดกังวลอยู่บ้างไม่ได้

ส่วนต้าหวง…

เพราะไม่อาจเข้าร่วมการกำราบแดนกษิติครรภ์ ทำให้มันบ่นไม่พอใจอยู่ตลอด แววตาคับแค้นนั้นทำเอาหลินสวินยังกลัวแทบแย่

สองวันผ่านไป

หลินสวินกับต้าหวงออกจากโลกมืดไปด้วยกันในตอนที่โลกภายนอกยังไม่สังเกต

สวบ!

ยานขนส่งอวกาศพุ่งทะยานกลางฟ้าดาราเวิ้งว้าง

หลินสวินนั่งอยู่หัวยานสบายๆ ถือน้ำเต้าสุราใบหนึ่งพลางครุ่นคิด

ตำแหน่งที่แหล่งสถานคุนหลุนตั้งอยู่หาง่ายมาก เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับอะไรในทางเดินโบราณฟ้าดารา ในหอวิหคทองแดงก็มีการบันทึกเกี่ยวกับทางเข้าแหล่งสถานคุนหลุน

แต่คิดจะเข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุน กลับยากนัก!

ในอดีตใกล้ๆ ทางเข้าแหล่งสถานคุนหลุนจะมีปรากฏการณ์ประหลาด ‘แม่น้ำเซียนเหิน’ ปรากฏขึ้นเป็นระยะ ตามแม่น้ำเซียนเหินไปก็จะเข้าไปในนั้นได้

แต่ในกรณีที่ไม่มีแม่น้ำเซียนเหิน ต่อให้เป็นผู้เก่งกาจระดับจักรพรรดิยังแทบไม่ทีทางหาทางเข้าไปในนั้นได้!

สาเหตุก็เพราะทางเข้าแหล่งสถานคุนหลุนมีพลังระเบียบพิเศษยิ่งนักปกคลุมอยู่ นั่นเป็นพลังต้นกำเนิดของแหล่งสถานคุนหลุน!

‘เตากระบี่ของข้าหลอมเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนกับวัตถุต่างหน้าต้นกำเนิดของเตามารดาหลอมสมบัติไว้ อาจสามารถลองเชื่อมต่อกับพลังระเบียบของแหล่งสถานคุนหลุนนั้นได้…’

‘ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ใช้พลังเพลิงหงส์ระเบียบฝืนบุกเข้าไป…”

ขณะที่หลินสวินครุ่นคิด เสียงของต้าหวงก็ดังขึ้นทันที

“มาดูเร็ว นั่นก็คือเขตแดนดาราทอดทิ้ง นานมาแล้ว.. .อืม ปราะมาณสมัยดึกดำบรรพ์ ระดับมหาจักรพรรดิที่เข้าสู่ทางเดินโบราณฟ้าดาราจากดินแดนรกร้างโบราณ ทุกคนต่างเลือกเข้ามาจากเขตแดนดาราทอดทิ้งแห่งนั้น”

ต้าหวงชี้ไปไกล

ฟ้าดาราไพศาล ในห้วงอากาศกว้างใหญ่ไกลลิบมีเขตแดนดาราแห่งหนึ่งปรากฏขึ้น มองจากไกลๆ ก็ส่งกลิ่นอายปั่นป่วน พังทลาย และรกร้างให้ผู้อื่น

“เจ้าน่าจะเคยได้ยินเรื่องพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณกระมัง นั่นเป็นกลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นจากผู้มากสามารถระดับจักรพรรดิที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดกลุ่มหนึ่ง นานมาแล้วพวกระดับมหาจักรพรรดิในพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณก็ยึดครองเขตแดนดาราทอดทิ้งแห่งนี้”

ต้าหวงพูดถึงตรงนี้หลินสวินก็ตอบสนองในทันที

พันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ!

นั่นไม่ใช่ขุมอำนาจพันธมิตรสงครามที่ชายหนุ่มจักจั่นทอง เฉินหลินคง จักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนและจักรพรรดิสงครามอู๋ยางสร้างขึ้นหรอกหรือ

ตั้งแต่สมัยอยู่ในป่าต้นหม่อนบนสมรภูมิกระหายเลือด ชายหนุ่มจักจั่นทองก็ได้พาพวกจ้าวหยวนจี๋สองสามีภรรยา และเหล่าสิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงอย่างผีเสื้อราตรีสีเลือด ‘เฟยหลัน’ ไปทางเดินโบราณฟ้าดารา เป้าหมายก็เพื่อไปยังที่ที่พันธมิตรสงครามรกร้างโบราณตั้งอยู่

กระทั่งต่อมาพร้อมกับๆ การผ่านเรื่องราวมากมายของหลินสวิน ทำให้เขาค่อยๆ รับรู้ความลับบางประการของพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ

นานมาแล้วหลังจากระดับมหาจักรพรรดิที่ออกมาจากดินแดนรกร้างโบราณเข้าสู่ทางเดินโบราณฟ้าดารา เพื่อป้องกันและต่อต้านขุมอำนาจอื่นของฟ้าดารา จึงตั้งพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณนี้ขึ้น

ในสมัยดึกดำบรรพ์ พันธมิตรสงครามรกร้างโบราณเรียกได้ว่าโดดเด่นยิ่งนัก มีทั้งไท่เสวียนที่มีฉายาว่าจักรพรรดิกระบี่อันดับหนึ่ง ทั้งจอมมุนีซิงเจียที่วิชาธรรมสะเทือนทั่วหล้า ทั้งจักรพรรดิสงครามอู๋ยางที่ใช้มรรคสังหารตระเวนไปทั่ว…

ต่อมาผู้แข็งแกร่งพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณรุ่นแรกอย่างพวกไท่เสวียนก็ทยอยข้ามฟ้าดาราไปสู่อีกฟากฝั่ง เหลือทิ้งไว้เพียงตำนานมากมายเกี่ยวกับพวกเขา

กระทั่งศึกมรรคสิบทิศปะทุขึ้น จอมจักรพรรดิไร้นามควบคุมพลังระเบียบต้องห้ามปกคลุมทั่วหล้า แผ่คลุมดินแดนรกร้างโบราณ ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณไปสู้ตายเพื่อปกป้องกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ…

อย่างจักรพรรดินรกเลือดทมิฬบรรพชนของบุตรนรก ก็แสดงความสามารถตระการตาในการปกป้องกำแพงเมืองด่านจักรพรรดิ เลื่องชื่อในคราเดียว

แต่เมื่อศึกมรรคสิบทิศปิดฉากลง ทั่วหล้าเข้าสู่ยุคบรรพกาล ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณที่กระจายตัวอยู่บนทางเดินโบราณฟ้าดาราต่างทำได้เพียงจำศีลใน ‘เขตแดนดาราทอดทิ้ง’ แห่งนี้

สาเหตุก็เพราะจอมจักรพรรดิไร้นามเป็นนายเหนือหัวแห่งฟ้าดารา ควบคุมพลังระเบียบ มองพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณเป็นภัยคุกคามใหญ่ หมายจะกำจัด

แต่เขตแดนดาราทอดทิ้งเป็นพื้นที่พิเศษไม่กี่ที่ในฟ้าดารา ซึ่งไม่อาจถูกปกคลุมด้วยพลังระเบียบต้องห้าม

ตอนที่ได้พบพวกจ้าวหยวนจี๋สองสามีภรรยาในแดนเจินหลง ทั้งสองก็เคยบอกหลินสวินว่า หลังจากจอมจักรพรรดิไร้นามถูกสังหาร ผู้แข็งแกร่งพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณที่จำศีลในเขตแดนดาราทอดทิ้งมาตลอดก็ถือโอกาสข้ามไปยังฟากฝั่งฟ้าดาราแล้ว

แต่ก็มีระดับจักรพรรดิส่วนหนึ่งที่ไม่ได้จากไป ตอนนี้ยังอยู่ในเขตแดนดาราทอดทิ้ง

ตอนนั้นจ้าวหยวนจี๋เคยเตือนหลินสวินเป็นพิเศษว่า ‘มหาจักรพรรดิอีกาทอง’ ผู้อาวุโสระดับจักรพรรดิเผ่าอีกาทองเกลียดหลินสวินเข้ากระดูกดำ ไม่ช้าก็เร็วต้องมาแก้แค้น ให้หลินสวินระวังตัวไว้

“ต้าหวง เจ้ารู้จักมหาจักรพรรดิอีกาทองนั่นไหม” หลินสวินพลันเอ่ยขึ้น

ต้าหวงอึ้งไปแล้วถึงเอ่ยว่า “เจ้าหมายถึงอีกาทองเฒ่าตัวนั้นหรือ ต่อให้ไม่เคยพบ แต่ก็เคยได้ยินข่าวลือของเจ้าเฒ่านี่มาประมาณหนึ่ง”

มหาจักรพรรดิอีกาทอง เฒ่าชรารุ่นบุกเบิกของพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ เป็นพวกน่าสะพรึงที่ดุดันเลือดเย็น สังหารมานับไม่ถ้วนคนหนึ่ง!

แจ้งมรรคบรรลุจักรพรรดิตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ กระทั่งในตอนที่ศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิปะทุขึ้นในยุคบรรพกาล มหาจักรพรรดิอีกาทองเคยปรากฏตัวอย่างน่าตะลึง สำแดงอานุภาพแห่งระดับจักรพรรดิขั้นแปด

ตามที่ต้าหวงพูด ถ้าอีกาทองเฒ่านี่ยังไม่ตาย เป็นไปได้สูงมากว่าคงแตะนัยเร้นลับของระดับบรรพจารย์จักรพรรดิไปแล้ว ส่วนจะบรรลุระดับบรรพจารย์หรือไม่ก็พูดได้ยาก

พอได้รู้เรื่องพวกนี้ดวงตาดำหลินสวินก็ไหววูบ ตัดสินใจแน่วแน่แล้วเอ่ยว่า “ไป ไปเขตแดนดาราทอดทิ้งนั่นสักรอบ ข้าอยากเห็นว่าอีกาทองเฒ่านี่จะเก่งกาจปานไหน”

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท