Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2330 พุ่งขึ้นไป

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2330 พุ่งขึ้นไป

ตอนที่ 2330 พุ่งขึ้นไป

เทือกเขาปกติ แม้ปกคลุมด้วยพลังต้องห้ามก็จะสลายไปเพียงระดับจักรพรรดิดีดนิ้ว

ทว่าภูเขาเทพที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าสูงทะลุชั้นเมฆ หลังจากถูกผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิโจมตีเต็มกำลัง กลับเพียงสั่นอย่างรุนแรงครู่หนึ่งเท่านั้น

แม้แต่หินภูเขายังไม่ถล่มแม้แต่ก้อนเดียว!

นอกจากนี้ ดูจากท่าทางของระดับจักรพรรดิเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่าโจมตีมาแล้วไม่ใช่แค่ครั้งเดียว

“นี่พวกเขากำลังทำอะไรอยู่”

หลินสวินสายตาวูบไหว

“ไม่ว่าเป็นอะไร จะต้องไม่เป็นผลดีต่อสถานการณ์ของนายท่านแน่!” ในดวงตาของต้าหวงเผยความดุดัน ไอสังหารพลุ่งพล่าน

“พวกโง่เง่า ภูเขาลูกเดียวยังทำลายไม่ได้ ทำต่อ!” บนยอดภูเขาเทพ เสียงเย็นชาที่เต็มไปด้วยความเข้มงวดหาที่เปรียบไม่ได้ดังขึ้นอีกครั้ง

ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นมาจากทั่วหล้าฟ้าดารา หากอยู่ในโลกที่แต่ละคนอยู่ ล้วนเรียกได้ว่าสูงส่งเหนือสุด แต่ตอนนี้ถูกต่อว่าและก่นด่าเช่นนี้กลับไม่มีใครกล้าเถียง ถึงขั้นไม่กล้าโกรธเพราะเรื่องนี้

บนโลกนี้คนที่สามารถทำได้ขนาดนี้ มีเพียงแค่คนเดียวอย่างไม่ต้องสงสัย…

จักรพรรดิสวรรค์ดำรง!

ตูม โครม!

ภูเขาเทพสั่นไหว ฟ้าดินสะเทือน

ระดับจักรพรรดิหลายสิบคน ไม่ว่าพลังปราณจะสูงหรือต่ำล้วนสำแดงพลังทั้งหมด โจมตีภูเขาเทพลูกนั้นเต็มกำลัง

ชั่วขณะหนึ่งแสงมรรคราวกับคลื่น ศาสตราจักรพรรดิปานพิรุณพาให้คนใจสั่น

หลินสวินสังเกตเห็นว่าพายุที่แปรสภาพจากกระแสระเบียบกลางฟ้าดิน แม้จะน่ากลัวขีดสุด แต่กลับไม่สามารถเข้าใกล้บริเวณภูเขาเทพได้

ก็เพราะเช่นนี้จึงทำให้ระดับจักรพรรดิหลายสิบคนลงมืออย่างจดจ่อ โดยไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของตน

“ไม่ต้องรอแล้ว ลงมือ!”

ต้าหวงว่าแล้วก็พุ่งปราดออกไป ส่งเสียงคำรามสะเทือนฟ้า “นายท่าน ต้าหวงมาแล้ว…!”

เสียงสะเทือนเมฆา

โครม!

ต้าหวงพุ่งตัว กรงเล็บพลันตบระดับจักรพรรดิที่อยู่ใกล้ที่สุดคนหนึ่งตาย เลือดเนื้อระเบิด จิตวิญญาณสลาย ดุดันรุนแรงยิ่ง

การปรากฏตัวของมันทำให้บรรยากาศทั้งที่นั้นเปลี่ยนไปทันที ระดับจักรพรรดิหลายสิบคนต่างนัยน์ตาหดรัด คล้ายไม่อยากเชื่อว่าบนโลกนี้จะมีคนที่กล้ายุ่งเรื่องของจักรพรรดิสวรรค์ดำรง

“จักรพรรดิสงครามคำรน!”

มีเสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้น จำฐานะของต้าหวงได้

“เหอะ สุนัขตัวหนึ่ง กลับมายุ่งเรื่องของข้า ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”

ทันใดนั้นจุดสูงสุดของภูเขาเทพมีเสียงหัวเราะเยาะของจักรพรรดิสวรรค์ดำรงดังขึ้น “ช่างเถอะ พวกเจ้าไปฆ่าสุนัขนั่นก่อน เกะกะสายตา!”

“เจ้าสารเลว เดี๋ยวข้าจะไปสังหารเจ้า!” ต้าหวงโกรธจนตาแดง ไอสังหารแผ่พุ่ง ปลดปล่อยอานุภาพของบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างสิ้นเชิง

ใกล้ๆ ภูเขาเทพแม้จะมีระดับจักรพรรดิหลายคน แต่ระดับบรรพจารย์ที่แท้จริงมีแค่สามคนเท่านั้น

เห็นเช่นนี้บรรพจารย์จักรพรรดิทั้งสามคนจึงโจมตีไปทางต้าหวงทันที

แม้ต้าหวงจะร้อนใจดั่งไฟลน ทว่าก็ถูกบรรพจารย์จักรพรรดิสามคนปิดล้อม ไม่สามารถฝ่าวงล้อมพุ่งขึ้นภูเขาเทพได้ในช่วงสั้นๆ

“เจ้าหมาตัวนี้ถึงกับเป็นบรรพจารย์จักรพรรดิแล้ว คิดไม่ถึงจริงๆ”

ระดับจักรพรรดิคนอื่นล้วนผ่อนคลายลง

มีคนถึงขั้นพูดเย้ยหยัน “ก็ไม่รู้ว่าตุ๋นหมาขนทองตัวนี้เป็นน้ำแกงเนื้อแล้วจะมีรสชาติอย่างไร”

ประโยคเดียวทำให้คนไม่น้อยน้ำลายไหล

หากเป็นสถานการณ์อื่นพวกเขาย่อมไม่กล้าดูหมิ่นและเหยียดหยามบรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่งแน่ แม้บรรพจารย์จักรพรรดิผู้นี้จะเป็นสุนัข พวกเขาก็จะก้มหัวและนอบน้อม

แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สนใจ เพราะใครต่างดูออกว่าสุนัขตัวนี้ถูกล้อมไว้แล้ว ช้าเร็วต้องประสบเคราะห์

ฟุ่บ!

ทันใดนั้นระดับจักรพรรดิที่ออกปากเย้ยหยันว่าจะตุ๋นน้ำแกงเนื้อก่อนหน้านี้ ศีรษะถูกฟันลงอย่างไร้สุ้มเสียง ก่อนตายบนใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มเยาะหยัน เห็นได้ชัดว่าไม่ทันตอบสนองก็ถูกสังหารแล้ว!

ซ่า… เลือดสดสาดกระเซ็น แดงบาดตา

ภาพที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ทำเอาทุกคนตัวแข็งทื่อ นัยน์ตาหดรัด นี่มันอะไรกัน

ฟุ่บ!

ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิขั้นห้าอีกคนร่างกายแยกเป็นสองท่อน ราวกับถูกดาบคมที่ดุร้ายที่สุดผ่าจากภายใน

ภาพประหลาดนี้ทำให้ระดับจักรพรรดิในที่นั้นตกใจจนหนังหัวชาวาบ พวกพ้องสองคนร่วงหล่นต่อเนื่อง ทว่ากลับไม่มีร่องรอยของศัตรู ถึงขั้นไม่สามารถมองเห็นได้ชัดว่าทั้งสองถูกฆ่าอย่างไร

นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว!

และตอนนี้เองเงาร่างของหลินสวินพุ่งมากลางอากาศ เตากระบี่กึกก้อง แสงมรรคมากมายม้วนตลบ ส่งเสียงครั่นครืนก้องสะท้อนเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน

“ต้าหวง!” หลินสวินตะโกน

ต้าหวงที่อยู่ในวงล้อมไม่ลังเลแม้แต่น้อย รวบรวมพลังทั้งหมดกวัดแกว่งกระบองยาวกระดูกขาว โจมตีออกไป

และชั่วพริบตานี้ ฟ้าดินราวกับหยุดชะงัก

อภินิหารหยุดเวลา!

ปัง!

ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิที่เดิมหมายสกัดขวางถูกกระแทกโดยตรง เลือดเนื้อระเบิด แม้แต่พลังจิตยังถูกบดขยี้เป็นฝุ่นผง

ภาพนองเลือดเช่นนี้ทำให้ทั้งที่นั้นตกใจจนเกิดเสียงร้องแหลม

แต่หลินสวินและต้าหวงรู้ใจกันนานแล้ว กระบวนท่าหนึ่งสำเร็จ เงาร่างของหลินสวินพริบไหว ร่างแยกทั้งห้าทะยานออกมา โจมตีไปยังผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิที่อยู่ใกล้ๆ ภูเขาเทพ

ด้านต้าหวงฉวยโอกาสโจมตีบรรพจารย์จักรพรรดิอีกสองคน ดุดันหาใดเปรียบ เผด็จการยิ่งยวด

ตูมโครม!

ฟ้าดินปั่นป่วน ศึกใหญ่ปะทุขึ้นแล้ว

และก็ตอนนี้เอง จุดสูงสุดของภูเขาเทพนั่นมีเสียงที่แฝงความประหลาดใจของจักรพรรดิสวรรค์ดำรงดังขึ้น “พลังแห่งหุบเหวกลืนกินขั้นสอง! เป็นเจ้า สวะน้อยที่ลั่วชิงสวินคลอดออกมา!”

เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิสวรรค์ดำรงมองฐานะของหลินสวินออกแล้ว

กับเรื่องนี้ ไม่ว่าหลินสวินหรือต้าหวงล้วนประหนึ่งไม่ได้ยิน โจมตีเต็มกำลัง ไม่ออมมือสักนิด

“หนึ่งกระบี่เกิดดับ!”

เมื่อกระบี่มรรคของหลินสวินฟันออกไป ราวกับปราณกระบี่ไร้สิ้นสุดปรากฏ เปลี่ยนเป็นลักษณ์แห่งโลกมายา ปลดปล่อยออกมา

ฟุ่บๆๆ!

ระดับจักรพรรดิสองคนที่ถูกเขาจับจ้อง ถูกปราณกระบี่ดุกร้าวสังหารสิ้นชีพ ณ ตรงนั้นในชั่วพริบตา

ร่างของเขาเปล่งแสง อานุภาพปานเทพมารอหังการ เตากระบี่ส่งเสียงกึกก้อง ป้องกันได้ไร้รวอยรั่ว จู่โจมได้ทุกสิ่ง

ใครที่ถูกเขาจับจ้อง ล้วนถูกสังหารในพริบตา

ท่าทีกวาดล้างที่แข็งกร้าวเผด็จการนั่น ทำให้ทั้งที่นั้นหวาดกลัว ใครจะกล้าจินตนาการว่ามหาจักรพรรดิขั้นสี่จะเย้ยฟ้าเช่นนี้

และตอนนี้ร่างแยกทั้งห้าของหลินสวินก็กำลังสำแดงวิชา อานุภาพแม้ด้อยกว่ากัน พวกที่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิขั้นหกล้วนเหมือนหุ่น ถูกโจมตีอย่างง่ายดาย

ระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ดยังพอฝืนต้านทานได้ แต่ก็ยืนหยัดได้ไม่นาน

สำหรับระดับจักรพรรดิขั้นแปด ต้องสู้สุดชีวิตจึงรักษาชีวิตไว้ได้ แต่เมื่อการต่อสู้ดำเนินไป ก็ค่อยๆ บาดเจ็บจนแทบจะยืนหยัดไม่ไหว

ชั่วขณะเดียวในสนามรบใหญ่นี้ ระดับจักรพรรดิหลายสิบคนถึงกับถูกหลินสวินคนเดียวสังหารจนเสียกระบวน เต็มไปด้วยเสียงร้องตกใจที่หวาดหวั่นแลเดือดดาลทุกแห่งหน

เพียงแค่ไม่นาน

มีระดับจักรพรรดิมากกว่าครึ่งถูกฆ่า!

และฝั่งต้าหวงก็กดข่มจนระดับบรรพจารย์จักรพรรดิสองคนโงหัวไม่ถึงขึ้น บาดเจ็บต่อเรื่อง อยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบเช่นเดียวกัน

“สมควรตาย!” เห็นชัดว่าจักรพรรดิสวรรค์ดำรงเองก็สังเกตเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี พลันส่งเสียงก่นด่าที่แฝงความฉุนเฉียว

ความจริงครั้งนี้เพื่อเปิดแหล่งสถานคุนหลุนและระดมกำลังระดับจักรพรรดิของแต่ละขุมอำนาจใหญ่มา เขาต้องจ่ายค่าตอบแทนไปเยอะมาก

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าภูเขาเทพลูกนี้ยังไม่ทันถูกทำลาย ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจเช่นนี้ขึ้น

และสถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่อาจพลิกผันได้ตามความต้องการของเขา

ตูม!

ใกล้ๆ ภูเขาเทพเกิดการต่อสู้เข่นฆ่าราวบ้าคลั่ง หลินสวินสำแดงอานุภาพกวาดล้าง ชักนำลมคาวฝนเลือด

สุดท้ายระดับจักรพรรดิที่เหลือเหล่านั้นล้วนพังทลายแล้ว เลือกที่จะหนีตาย ไม่กล้าไปสู้กับหลินสวินอีก ตื่นตกใจราวกับสุนัขไร้เจ้าของ

หลินสวินไม่ได้หยุดและไม่ได้ตามฆ่า เรื่องเร่งด่วนตอนนี้คือบุกขึ้นภูเขาเทพ เพื่อช่วยหนุนศิษย์พี่รองจ้งชิว

แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องจัดการก่อนก็คือบรรพจารย์จักรพรรดิสองคนนั้น!

ทว่าเหนือความคาดหมายของหลินสวิน ไม่รอให้เขาเข้าใกล้ ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิทั้งสองที่เดิมก็อยู่ในสถานการณ์เป็นฝ่ายถูกกระทำ บาดเจ็บสาหัส ถึงกับปลีกตัวหนี

อันที่จริงพวกเขาก็ตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่สามารถพลิกผันแล้ว สู้ต่อไปมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะประสบเคราะห์ จึงเลือกหนีเอาตัวรอดอย่างไม่ลังเล

ว่ากันถึงที่สุด พวกเขาก็เพียงแค่ทำตามคำสั่ง เมื่อได้รับภัยคุกคามถึงชีวิต สิ่งที่ต้องรักษาเป็นอันดับแรกก็คือชีวิตของตน ไม่มีทางวิ่งเข้าหาความตายเพื่อจักรพรรดิสวรรค์ดำรงอย่างแท้จริง

“ไม่เอาไหน!”

ต้าหวงถุยน้ำลายคราหนึ่ง พุ่งไปบนภูเขาเทพพร้อมกับหลินสวิน

ตูม!

ทันทีที่พุ่งขึ้นไป พลังระเบียบที่น่ากลัวยิ่งยวดสายหนึ่งพลันกดข่มลงมา พลังระดับนั้นทำให้ต้าหวงร้องเสียงหนัก เกือบถูกโจมตีกระเด็นออกไป

ส่วนหลินสวินตัดสินใจทันที เรียกเตากระบี่ออกมาอย่างไม่ลังเล อาศัยพลังของเพลิงหงส์ระเบียบถึงสามารถต้านพลังกดดันที่น่ากลัวเช่นนั้นได้

เพียงแต่ยิ่งขึ้นสูง แรงกดดันก็ยิ่งมาก ถึงขั้นที่ว่าต่อให้เปลี่ยนเป็นระดับบรรพจารย์จักรพรรดิ หากไม่มีสมบัติอย่างเตากระบี่ก็ไม่สามารถรับไหว

“ช่างกล้ามารนหาที่ตายจริงๆ!”

เสียงของจักรพรรดิสวรรค์ดำรงดังขึ้นโดยพลัน เผยความเย็นชาและเฉยเมย “จ้งชิวไม่ไหวแล้ว รอข้าหลุดไปได้ก็จะเป็นวันตายของพวกเจ้า!”

“ผายลมไปเถอะ!” ต้าหวงก่นด่า ดวงตาแดงก่ำ

“เจ้าหมาน้อย ถ้าจ้งชิวยังมีชีวิตอยู่ เหตุใดจึงไม่เคยส่งเสียงเล่า” เสียงของจักรพรรดิสวรรค์ดำรงเย็นชา

ประโยคเดียวทำให้ต้าหวงหน้าเปลี่ยนสี ใช่แล้ว เหตุใดจนถึงตอนนี้นายท่านยังไม่ส่งเสียงเลยสักนิด

“ไม่ต้องสนใจเขา รีบพุ่งขึ้นไป ”

หลินสวินแววตาเย็นเยียบ “หากมั่นใจจริงๆ เจ้าเฒ่านี่จะเสียเวลาพูดไร้สาระกับพวกเราอยู่ที่นี่ทำไม สถานการณ์ของเขาคงไม่ได้ดีไปกว่ากัน”

ต้าหวงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วพยักหน้า

หากจักรพรรดิสวรรค์ดำรงปลอดภัยจริง ย่อมไม่ต้องเอ่ยคำพูดไร้สาระพวกนี้ ถึงขั้นไม่จำเป็นต้องให้พวกระดับจักรพรรดิเมื่อครู่นี้มาช่วย!

แต่เหตุผลที่จนตอนนี้จักรพรรดิสวรรค์ดำรงยังไม่ปรากฏตัว จะต้องเป็นเพราะสถานการณ์ไม่สู้ดีแน่!

เวลาผ่านไป แม้แรงกดดันจะหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ทว่าภายใต้การพุ่งชนเต็มกำลังของหลินสวินและต้าหวง ก็ค่อยๆ เข้าใกล้ตำแหน่งของยอดภูเขาเทพนั่นแล้ว

บนยอดภูเขาเทพแห่งนั้น โดดเดี่ยวอันตราย มีพื้นที่รัศมีเพียงไม่ถึงสิบจั้ง นอกนั้นสี่ด้านล้วนเป็นผาชัน

ใกล้ๆ หน้าผานั่นกลับ เป็นกระแสระเบียบที่ม้วนตัวอย่างบ้าคลั่ง ราวกับมังกรใหญ่สีดำนับพันหมื่นโลดแล่น ชวนให้อกสั่นขวัญหนี

หากตกหน้าผานี้ไป จะต้องถูกกระแสระเบียบนั่นม้วนกลืน ฉีกทึ้งเป็นฝุ่นผงในชั่วพริบตาอย่างไม่ต้องสงสัย!

และบนยอดภูเขาเทพนั่น เงาร่างสง่างามสายหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ ตรงหน้ามีพลังระเบียบแดนปรินิพพานที่รูปลักษณ์ราวดอกบัวลอยอยู่

เพียงแต่เขาหลับตาสนิท ใบหน้าขาวซีดคล้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส กลิ่นอายรอบตัวปั่นป่วนยิ่งยวด ทำเอาคนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเขาจะธาตุไฟเข้าแทรก กายสิ้นมรรคสลายไปเช่นนี้หรือไม่

ตอนที่เห็นร่างสง่างามนั้น ต้าหวงร้องเสียงหลงอย่างตื่นเต้น

“นายท่าน!”

ร่างนี้ก็คือจ้งชิว ผู้สืบทอดลำดับสองของคีรีดวงกมล!

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท