Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2625 เขตลมสนามแม่เหล็ก

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2625 เขตลมสนามแม่เหล็ก

ตอนที่ 2625 เขตลมสนามแม่เหล็ก

หวั่นโหรวหลุบนัยน์ตางามลง เอ่ยว่า “คุณชาย ข้าไม่ได้มีเจตนาหยั่งเชิง หากแต่…”

นางลังเลครู่ใหญ่ จู่ๆ ก็เงยหน้าผากมนขึ้นสบมองหลินสวิน กล่าวว่า “หากแต่มีเรื่องจะขอร้อง หากคุณชายตกลง ข้าสามารถยกกระดูกบริสุทธิ์บรรพจารย์คุนชิ้นนั้นให้คุณชายเพื่อเป็นการขอบคุณได้”

หลินสวินแปลกใจอยู่บ้าง “เรื่องอะไรหรือ”

หวั่นโหรวถอนหายใจเบาๆ กล่าวว่า “เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว ข้าก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก”

จากนั้นก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังโดยละเอียด

ที่แท้เมื่อไม่กี่ปี ก่อนเฒ่าคุนถูก ‘จอมมรรคมารแดง’ แห่งภูเขาทองแดงปล้นยามไปแลกเปลี่ยนสินค้าที่ทะเลประหัตมาร ไม่เพียงปล้นทรัพย์สินทั้งหมดบนตัวเฒ่าคุน ยังชิงตัวป๋ออันบุตรชายของเฒ่าคุนไปด้วย

ก็ไม่รู้ว่าจอมมรรคมารแดงได้ข่าวมาจากไหน ขู่ว่าภายในสิบปีหากเฒ่าคุนไม่นำกระดูกบริสุทธิ์ของบรรพจารย์คุนมาส่งถึงมือเขา ก็จะสังหารป๋ออันบุตรชายของเฒ่าคุนเสีย

หลังกลับจากทะเลประหัตมาร เฒ่าคุนก็พะวงกับเรื่องนี้มาตลอด สุดท้ายจึงตัดสินใจนำกระดูกบริสุทธิ์บรรพจารย์คุนไปแลกกับชีวิตของบุตรชาย!

เพียงแต่เฒ่าคุนได้รับบาดเจ็บสาหัส ฐานมรรคพังเสียหายร้ายแรง ไม่สามารถข้ามทะเลประหัตมารได้อีก ดังนั้นจึงฝากฝังหน้าที่สำคัญนี้ให้กับหวั่นโหรว

จากนั้นจึงมีการเดินทางมุ่งหน้าสู่ทะเลประหัตมารในครั้งนี้

หลังทำเข้าใจเรื่องเหล่านี้หลินสวินถึงเข้าใจกระจ่าง เอ่ยว่า “เจ้าอยากขอให้ข้าลงมือ ช่วยป๋ออันน้องชายเจ้าจากเงื้อมมือจอมมรรคมารแดงนั่นหรือ”

หวั่นโหรวพยักหน้า “แม้จะสลายเคราะห์สังหารจากตระกูลเหิงแล้ว แต่ข้ากังวลว่าเมื่อถึงยามแลกเปลี่ยนที่ภูเขาทองแดงกับจอมมรรคมารแดง หากอีกฝ่ายกลับคำ ผลที่ตามมาต้องเลวร้ายแน่…”

หลินสวินกล่าว “บิดาเจ้าไม่ได้ให้คำแนะนำเจ้าเลยหรือ”

หวั่นโหรวเอ่ย “ท่านพ่อมอบไพ่ตายชิ้นหนึ่งให้ลุงเจียว สามารถทำให้จอมมรรคมารแดงไม่กล้ายุ่มย่าม แต่ข้าก็ยังกังวลใจมากอยู่ดี ถึงอย่างไรชีวิตของน้องชายข้ายังอยู่ในเงื้อมมือจอมมารผู้นี้ ถ้าเกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย เกรงว่าอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตเขา นี่คือสิ่งที่ข้าไม่อยากเห็น”

หลินสวินกล่าวเสียงขรึม “เรื่องนี้ลุงเจียวมีความเห็นอย่างไรบ้าง”

เมื่อพูดถึงลุงเจียว หวั่นโหรวอดยิ้มขื่นไม่ได้ “ตอนนี้ลุงเจียวบาดเจ็บสาหัส เกรงว่าไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้อีกแล้ว ภายใต้ความจนใจ ข้า… ข้ามีแต่ต้องมาขอความช่วยเหลือจากคุณชายเท่านั้น”

หลินสวินกล่าว “เจ้าเองก็รู้ดี จุดประสงค์ที่ข้ามุ่งหน้าสู่ทะเลประหัตมารก็เพื่อตามหาคนผู้หนึ่ง แต่ข้าไม่รู้สถานการณ์ของทะเลประหัตมารแม้แต่น้อย…”

ไม่รอเขาพูดจบหวั่นโหรวก็รีบเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว “เรื่องนี้ข้าช่วยคุณชายได้ หลายปีมานี้ข้าและท่านพ่อเข้าออกทะเลประหัตมารบ่อยๆ พอจะรู้สถานการณ์ของทางนั้นอยู่บ้าง นอกจากนี้ท่านพ่อข้ายังเจรจาค้าขายกับทุกขุมอำนาจใหญ่ในทะเลประหัตมาร พอมีคนคุ้นเคยจำนวนหนึ่ง ถึงตอนนั้นข้าจะขอให้พวกเขามาร่วมกันช่วยเหลือ”

หลินสวินยิ้มกล่าว “เช่นนั้นข้าก็ขอบคุณแม่นางล่วงหน้าแล้ว”

เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยถาม “พอจะเล่าเรื่องจอมมรรคมารแดงผู้นี้ให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่”

นี่เรียกว่าให้ลูกท้อตอบแทนด้วยสาลี่

ในใจหวั่นโหรวเต้นระส่ำ นางรู้แล้วว่าหลินสวินตอบรับคำขอของตนแล้ว นี่ทำให้นางดีใจเหลือล้น

จากนั้นนางก็เล่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับจอมมรรคมารแดงให้หลินสวินฟัง

จอมมรรคมารแดง

จอมมารที่อาศัยบนภูเขาทองแดงในทะเลประหัตมาร ใต้อาณัติมีบริวารนับพัน ล้วนเป็นพวกโจรอันธพาลและคนอำมหิตที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่

ตัวจอมมรรคมารแดงเองก็คือเฒ่าชราที่เหยียบย่างระดับบรรพจารย์มาไม่รู้กี่ปี นิสัยเจ้าเล่ห์เหี้ยมโหด อำมหิตกระหายเลือด พลังต่อสู้กร้าวแกร่งเป็นที่สุด

ในทะเลประหัตมาร จอมมรรคมารแดงก็ค่อนข้างมีชื่อเสียง เรียกได้ว่าเป็นนายเหนือหัวผู้หนึ่ง

ลือกันว่าก่อนหน้านี้นานมาแล้ว จอมมรรคมารแดงเคยหนีรอดจากการล่าสังหารของระดับอมตะคนหนึ่ง จากจุดนี้ก็เห็นแล้วว่าจอมมารเฒ่าคนนี้ไม่ธรรมดาขนาดไหน

อันที่จริงจากที่หวั่นโหรวเล่ามา แม้ว่าขุมอำนาจน้อยใหญ่ในทะเลประหัตมารจะมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่ขุมอำนาจเล็กๆ พวกนั้นมักจะพังพินาศ สลายหายไปอยู่เป็นนิจ

สาเหตุเป็นเพราะทะเลประหัตมารวุ่นวายสุดขีด ไม่มีกฎระเบียบให้พูดถึง แทบจะมีการเข่นฆ่านองเลือดเกิดขึ้นทุกวัน

มีเพียงขุมอำนาจใหญ่ปลายยอดที่แกร่งกล้าเท่านั้นจึงจะสามารถตั้งถิ่นฐานอยู่ในทะเลประหัตมารได้ตลอด ไม่หวั่นเกรงความโกลาหลและการโจมตีนองเลือด

‘ภูเขาทองแดง’ ที่จอมมรรคมารแดงอาศัยอยู่ ไม่ถึงขั้นเป็นขุมอำนาจใหญ่ในทะเลประหัตมาร แต่ขุมอำนาจเล็กทั่วไปก็ไม่อาจเทียบชั้นได้

หลังเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ในใจหลินสวินสงบนิ่งปราศจากคลื่นลมกระเพื่อมไหว

แม้แต่ระดับอมตะสักคนยังไม่มี จะถูกเขาเก็บมาใส่ใจได้อย่างไร

แต่ท่าทีสงบนิ่งของหลินสวินกลับทำให้ในใจหวั่นโหรวเริ่มไม่เป็นสุข อดเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ “คุณชาย ท่าน… รู้สึกลำบากใจขึ้นมาแล้วใช่หรือไม่”

หลินสวินอดยิ้มไม่ได้ เอ่ยว่า “อย่ากังวลไป ถึงตอนนั้นข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้า”

หลังจากหยุดพักเป็นเวลาสองวัน ยานสมบัติก็เริ่มออกเดินทางต่อ

ไม่นานก็มาถึงเขาพิฆาตโลหิต

ภูเขานี้สูงเก้าหมื่นจั้ง ตั้งขวางกลางฟ้าดิน ธารโลหิตประดุจม่านน้ำตกนับไม่ถ้วนไหลหลั่งลงมาจากยอดเขา แผ่กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นออกมา

เขาพิฆาตโลหิตเป็นด่านแรกที่จะเข้าสู่ทะเลประหัตมาร ผลัดกันปกครองโดยเจ็ดขุมอำนาจใหญ่ในทะเลประหัตมาร

หลังจากยานสมบัติมาถึงที่นี่ มีลุงเจียวออกหน้าติดต่อกับขุมอำนาจที่ตั้งอาณาเขตอยู่บนเขาพิฆาตโลหิต และจ่าย ‘ค่าผ่านทาง’ จำนวนไม่ใช่น้อย จึงผ่านด่านอย่างราบรื่น

หลินสวินมองดูเรื่องทั้งหมดนี้โดยไม่ได้ยินดียินร้าย

ด้วยฝีมือของเขา สามารถบุกเขาพิฆาตโลหิตนี่ได้สบาย แต่หากทำเช่นนี้ต้องเกิดเรื่องวุ่นวายที่จำไม่เป็นขึ้นแน่นอน

อีกทั้งการเดินทางในยานสมบัติของหอการค้าเก้าใบ ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้น แต่เห็นชัดยิ่งว่า ‘ค่าผ่านทาง’ เป็นสิ่งที่ต้องจ่าย

ระหว่างทางหลังจากนี้ ยานสมบัติเคลื่อนผ่านแม่น้ำขุมวิญญาณ ยอดคีรีเขาแพะ เกาะแปดปีศาจไปเรื่อยๆ…

สถานที่แต่ละแห่งล้วนเรียกได้ว่าอันตรายยิ่ง ไม่เพียงมีขุมอำนาจมากหน้าหลายตาตั้งถิ่นฐานอยู่ แต่ละสถานที่ยังอันตรายสุดขีด มีภัยพิบัติตามธรรมชาติกระจายตัวอยู่มากมาย

อย่างแม่น้ำขุมวิญญาณ มีคลื่นม้วนตลบซัดสาดตลอดปี ในแม่น้ำนั่นมีพลังสังหารนับไม่หวาดไม่ไหวแฝงอยู่ หากฝืนบุกเข้าไป ต้องพบเจอการสังหารทุกย่างก้าวแน่นอน

ยังดีที่มีป้าย ‘หอการค้าเก้าใบ’ นี้ ตลอดทางพวกหลินสวินจึงไม่ได้พบความลำบากอะไร และสามารถผ่านด่านอันตรายด่านแล้วด่านเล่าได้อย่างราบรื่น

แน่นอนว่าค่าผ่านทางก็ต้องจ่ายแล้วจ่ายอีกเช่นกัน…

สำหรับเรื่องนี้ หวั่นโหรวเคยให้หลินสวินดูแล้ว ค่าผ่านทางที่ต้องจ่ายทุกครั้งยามเข้าออกทะเลประหัตมาร หากคำนวณเป็นผลึกต้นกำเนิดจักรวาล ก็มีจำนวนประมาณสามร้อยล้านกว่าก้อนทีเดียว

แต่ขอเพียงเจรจาแลกเปลี่ยนราบรื่น ทุกครั้งหอการค้าเก้าใบล้วนจะทำเงินได้สามเท่าขึ้นไปของค่าผ่านทาง!

สาเหตุเป็นเพราะในทะเลประหัตมารขาดแคลนทรัพยากรรุนแรง สถานที่แห่งนั้นปั่นป่วนโกลาหล วุ่นวายนองเลือด ทรัพยากรฝึกปราณที่มีจำกัดเหล่านั้น ไม่สามารถสนองความต้องการของผู้แข็งแกร่งพวกนั้นได้สักนิด

เป็นผลให้ทรัพยากรฝึกปราณบางส่วนที่พบเห็นได้ทั่วไปในโลกภายนอก มักจะขายในทะเลประหัตมารได้ราคาสิบเท่าร้อยเท่า เรียกได้ว่ากำไรเหลือแหล่

แน่นอน ในทะเลประหัตมารก็อุดมไปด้วยทรัพยากรฝึกปราณบางส่วนที่ไม่มีในโลกภายนอกเช่นกัน อย่างเช่นเจตวัตถุและวัตถุดิบเทพหายากบางอย่าง

หลังจากทรัพยากรฝึกปราณเหล่านี้ถูกหอการค้าเก้าใบรับซื้อ ก็เอามาวางจำหน่ายในโลกภายนอก ทั้งยังขายได้ในราคาสิบเท่าร้อยเท่าอีกด้วย!

เมื่อรับรู้เรื่องพวกนี้หลินสวินยังอดตกใจไม่ได้ การซื้อขายเช่นนี้เท่ากับมีราคาส่วนต่างจากทั้งสองฝั่ง ได้กำไรมหาศาล!

แน่นอนว่ายิ่งเป็นการซื้อขายที่กำไรงาม ความเสี่ยงก็ยิ่งมาก ต่อให้เป็นขุมอำนาจที่เข้าออกทะเลประหัตมารมานานปีอย่างหอการค้าเก้าใบ ทุกครั้งที่ทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายก็ยังเสี่ยงอันตรายอย่างมากเช่นกัน

เหมือนอย่างหลายปีก่อน เฒ่าคุนถูกจอมมรรคมารแดงลอบโจมตีจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แม้จะโชคดีพ้นเคราะห์มาได้ แต่บุตรชายของเขากลับถูกจับไปเป็นตัวประกัน…

หอการค้าเก้าใบยังขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงผู้อื่นเลย

“หอการค้าเก้าใบของพวกเราเทียบเผ่าจักรพรรดิอมตะพวกนั้นไม่ติด ที่หลายปีนี้สามารถเข้าออกทะเลประหัตมารได้ ล้วนเป็นท่านพ่อข้าฟันฝ่าออกมาทั้งนั้น หากไม่มีเขา เกรงว่าหอการค้าเก้าใบนี้คงไม่มีตัวตนไปนานแล้ว…”

บางคราวหวั่นโหรวจะทอดถอนใจ เจือแววเศร้าสลดและกังวลเช่นนี้

เพราะเฒ่าคุนในตอนนี้อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้จะฟื้นฟูกลับมาเมื่อไหร่ กอปรกับตอนนี้ยังไปล่วงเกินตระกูลเหิงอีก…

กล่าวได้ว่าสถานการณ์ของหอการค้าเก้าใบเข้าขั้นวิกฤตร้ายแรงแล้ว

สำหรับเรื่องนี้หลินสวินก็ไม่สะดวกพูดมากความอะไร

กระทั่งครึ่งเดือนต่อมา

ในที่สุดยานสมบัติก็มาถึงทะเลประหัตมาร!

ทอดสายตามองไป นั่นคือมหาสมุทรสีดำผืนหนึ่ง ไกลสุดลูกหูลูกตา กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต เวิ้งฟ้าเหนือผืนทะเลก็มืดสลัวทั้งแถบเช่นเดียวกัน มองไม่เห็นดวงดาวและสุริยันจันทรา ทำให้คนรู้สึกกดดัน

“ระเบียบห้วงอากาศของทะเลประหัตมารปั่นป่วนไร้ที่เปรียบ ทิศเหนือใต้ออกตกของที่นี่… ทุกทิศล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทะเลประหัตมารเปรียบดั่งโลกเขาวงกตโดยธรรมชาติ คนที่ไม่คุ้นเคยต้องหลงทางอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน”

บนดาดฟ้ายานสมบัติ หวั่นโหรวเอ่ยขึ้นเสียงเบา

“เป็นเช่นนี้จริงๆ”

หลินสวินพินิจรอบๆ ครู่หนึ่ง ก็พบว่าพลังห้วงอากาศกลางฟ้าดินนี้ปั่นป่วนถึงขีดสุด ประดุจแรกกำเนิด ประสบการณ์ระบุทิศทางที่ผ่านมาใช้ไม่ได้ผลกับที่นี่

“แล้วพวกเจ้าระบุทิศทางได้อย่างไร” หลินสวินถาม

“เข็มทิศสนามแม่เหล็ก”

หวั่นโหรวกล่าวพลางหยิบเข็มทิศขนาดราวฝ่ามือที่สร้างขึ้นจากหินสีดำออกมา บนเข็มทิศมีเข็มชี้เรียวเล็กเล่มหนึ่งลอยอยู่

“สิ่งนี้สร้างขึ้นจาก ‘เหล็กเทพพลังแม่เหล็ก’ เจตวัตถุชนิดหนึ่งที่มีเฉพาะในทะเลประหัตมาร หาไม่ได้ในโลกภายนอก อย่างเข็มทิศสนามแม่เหล็กนี่ มีมูลค่าถึงหนึ่งร้อยล้านผลึกต้นกำเนิดจักรวาล ซ้ำยังหาซื้อได้ยากอีกด้วย”

หวั่นโหรวเอ่ยพลางยื่นเข็มทิศสนามแม่เหล็กในมือให้หลินสวิน “คุณชาย ท่านโปรดรับของเล่นชิ้นนี้ไว้ด้วย ถือว่าเป็นน้ำใจจากข้า”

“แล้วเจ้าล่ะ” หลินสวินกล่าว

“ข้าย่อมมีอีกอยู่แล้ว” หวั่นโหรวทอยิ้ม

หลินสวินก็ยกยิ้มเช่นกัน รับเอาไว้ไม่ได้ปฏิเสธอีก

“พูดถึงเข็มทิศสนามแม่เหล็กนี้แล้ว ย่อมไม่อาจไม่พูดถึงภูเขาเทพสนามแม่เหล็ก ว่ากันว่าในทะเลประหัตมารแห่งนี้มีเขตผนึกใหญ่สามแห่ง หนึ่งก็คือ ‘เขตลมสนามแม่เหล็ก’ ที่อยู่ในภูเขาเทพสนามแม่เหล็ก ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมา ผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไหร่ต่างใฝ่ฝันอยากมุ่งหน้าไปภูเขาเทพสนามแม่เหล็ก เพื่อไปหลอมพลังสนามแม่เหล็กมาเก็บไว้ใช้สอยส่วนตัว แต่แทบประสบเคราะห์กันหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น”

หวั่นโหรวกล่าว “สาเหตุเป็นเพราะภายในเขตลมสนามแม่เหล็กเต็มไปด้วยระเบียบห้วงอากาศที่แปลกพิสดารหาใดเปรียบ ลือกันว่าขนาดระดับอมตะเข้าไป ยังถูกพายุกระโชกที่แปลงมาจากระเบียบห้วงอากาศฉีกทึ้งยับเยินในพริบตา”

“ทุกๆ ช่วงเวลาหนึ่ง ในเขตลมสนามแม่เหล็กจะปะทุกระแสพลังออกมา ตอนนั้นจะมีเหล็กเทพพลังแม่เหล็กส่วนหนึ่งถูกซัดออกมาด้วย เมื่อถูกคนรวบรวมไปก็จะสามารถหลอมออกมาเป็นเข็มทิศสนามแม่เหล็กได้”

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท