มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1040
วังเซียนนี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่กลั่นโดยผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขั้นสูง พลังผลิบาน สะเทือนฟ้าดิน เป็นอาวุธที่ปราบปรามคู่ต่อสู้ได้ดี
“โครม!”
ตำหนักสรรพดาราบดขยี้อนัตตา ร่างใหญ่ของงูมรณาจิ่วหยินถูกระงับอย่างมากในทันที ร่างกายเล็กลงตามการกดขี่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเห็นว่างูมรณาจิ่วหยินถูกปราบปรามโดยตำหนักดารา หลัวซิวก็บินไปทันที “ผู้อาวุโสข้ามาช่วยเจ้า”
สีหน้าของงูมรณาจิ่วหยินเปลี่ยนไปเล็กน้อย “อย่ามาที่นี่ ไอ้หนู หนีเอาชีวิตรอดก่อน!”
แม้ว่าความแข็งแกร่งของหลัวซิวจะสามารถแข่งขันกับเทพมารได้ แต่อย่างมากที่สุดเขาก็เทียบได้กับเทพมารทั่วไปเท่านั้น เผชิญหน้ากับเจ้าแห่งศักดิ์สิทธิ์ที่เทียบได้กับเทพมารขั้นกลางสามคน ไม่สามารถสู้ได้เด็ดขาด
“วันนี้ พวกข้าทั้งสามมาเพื่อฆ่าเจ้าเป็นพิเศษ เจ้าไม่สามารถแม้แต่จะมีโอกาสหลบหนีได้” เจ้านิกายมารศักดิ์สิทธิ์เยาะเย้ย
เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตระกูลหวูมือไขว้หลัง มองดูหลัวซิวอย่างเย็นชา “พรสวรรค์ของเจ้าดีมาก ถ้าสามารถใช้มันเพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเรา จะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งในอนาคต ถ้าเจ้ารู้รู้สึกผิด เจ้าจะยังมีโอกาสรอดอยู่บ้าง”
“จริงหรือ? ข้าคิดว่าถ้าพวกเจ้าสามคนถอยกลับไปอย่างรูกจักเจียมเนื้อเจียมตัว ข้าสามารถเหลือชีวิตพวกเจ้าได้” หลัวซิวยิ้มอย่างเย็นชา
“ใกล้ตายแล้วยังกล้าจองหองอีก?”
เจ้านิกายมารศักดิ์สิทธิ์ตะคอกอย่างโกรธจัด ยกมือขึ้นโบก หอกที่ควบแน่นโดยพลังเทพมรณะดั้งเดิม ได้ทะลุผ่านอนัตตาพุ่งไปยังหลัวซิว
สามารถฝึกฝนกฎระดับสูงสุดอย่างหนึ่งสู่แดนเทพมาร จะเห็นได้ว่าเจ้านิกายมารศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นอัจฉริยะเช่นกัน ความเชี่ยวชาญและความเข้าใจของเขานั้นสูงมาก
แต่หอกมรณะนี้ลอยไปอยู่ต่อหน้าหลัวซิว แต่จู่ ๆ มันก็พังทลาย ไม่สามารถเป็นอันตรายใดๆกับเขาได้เลย
หลัวซิวสามารถใช้สองระดับความเป็นตายสร้างพลังเทพดั้งเดิม ซึ่งประกอบด้วยความลึกลับของตวามเป็นและความตาย ทำลายการโจมตีของพลังเทพมรณะได้อย่างง่ายดาย
“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าทั้งสามจะไม่ถอยกลับไปง่ายๆแล้ว”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลัวซิวหายไปในทันที สีหน้าของเขาดูโหดเหี้ยม เขาตะคอกอย่างโกรธเคือง “ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าไปตายซะ!”
แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องประกายขึ้นมาจากร่างกายของเขา เกราะเทพเวหากาลปกป้องร่างกายของเขา ทำให้เขามีพลังอำนาจที่กดขี่ข่มเหงและน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะกลายร่างเป็นเทพแห่งสงคราม ร่างกายของเขาหายไปในชั่วพริบตา เขาต่อยวัง ตำหนักสรรพดารากระเด็นออกไป ส่งเสียงหึ่ง ๆ ออกมาพร้อมสั่นสะเทือน
“สถานการณ์เป็นอย่างไร?”
เจ้าศักดิ์สิทธิ์จักรภพและตำหนักดารามีความรู้สึกที่ด้วยกัน รู้สึกว่าตำหนักดาราถูกโจมตีอย่างรุนแรงน่าหวาดกลัว และเขาก็ได้รับผลกระทบด้วย เขากระอักเลือด เลือดไหลออกมาจากปาก
แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องประกายปดปิดออร่าของเกราะเทพ มีเพียงร่างกายของหลัวซิวที่ห่อหุ้มด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ เหมือนกับเทพแห่งสงคราม แต่มองไม่เห็นว่าเขาสามารถโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร
“พรึบ!”
เห็นร่างของหลัวซิวหายไปอีกครั้ง เงาขาวดำหนึ่งปรากฏขึ้นในทันที
“ปัง!”
ศีรษะของ เจ้าศักดิ์สิทธิ์จักรภพถูกต่อยระเบิดด้วยหมัด กลายหมอกโลหิตเต็มอากาศ แต่ไม่มีช่องจิตปรากฏออกมา จะเห็นได้ว่าช่องจิตของเขาไม่ได้อยู่ในตัวหยั่งรู้
“รีบถอยเร็ว!”
สีหน้าของเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทพมารทั้งสามเปลี่ยนไปอย่างมาก ศีรษะที่ถูกต่อยระเบิดของ เจ้าศักดิ์สิทธิ์จักรภพได้เกิดใหม่อย่างรวดเร็วและควบคุมตำหนักดาราถอยหลังด้วยความสะพรึงกลัวและตกใจ
เมื่อปราศจากการปราบปรามของตำหนักดารา งูมรณาจิ่วหยินก็ฟื้นกำลังกลับมา หางงูตวัดมา ตวัดตำหนักดารากระเด็นออกไป เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทพมารทั้งสามที่อยู่ภายในก็เวียนหัวด้วยการกระแทก
“พ่อหนุ่มหลัว เจ้าแข็งแกร่งอย่างนี้เลยหรือ?”
งูมรณาจิ่วหยินก็ตกใจมากเช่นกัน พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่หลัวซิวระเบิดออกมาในทันทีก็เพียงพอที่จะแข่งขันกับผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขั้นสูงได้แล้ว
“แข็งแกร่งที่ไหนกัน รีบหนีเอาชีวิตรอดก่อนเร็ว” หลัวซิวยื่นมือไปคว้าหางงูมรณาจิ่วหยิน ชกอนัตตาออก จากนั้นก้าวเข้าไปข้ามอนัตตาไปทันที