มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1077
ชายชุดคลุมทองคือจิตภัณฑ์อันบริสุทธิ์ แตกต่างกับหงเทียน จะไม่มีความรู้สึกนึกคิดแบบมนุษย์เลยแม้แต่น้อย
เขายกกระบี่หักในมือขึ้น เพียงแค่แสงสว่างที่ถูกปล่อยออกมาจากบนกระบี่ยุทธ์ ก็แทงทะลุร่างที่อยู่ในชุดคลุมสีดำของหลัวซิว จนทะลุเป็นรู เลือดทะลักออกมาจากบริเวณช่วงอกของเขา
ชุดคลุมสีดำบนตัวของหลัวซิวไม่ใช่ธรรมดา มันเป็นถึงสมบัติเสื้อผ้าที่ได้รับมาจากบนตัวของมหาจักรพรรดิยุทธ์แดนผู้แข็งแกร่งท่านหนึ่งในอนัตตาไม่สิ้นในตอนนั้น
ชายชุดคลุมทองยกกระบี่ขึ้นเพื่อป้องกัน แต่หอกยุทธ์มังกรดำของหลัวซิวกลับหายไปอย่างกะทันหัน พุ่งทะลุกระบี่หักของเทพฟ้า ฟาดลงไปบนร่างของชายชุดคลุมทองอย่างรุนแรงแทน
อีกฝ่ายเป็นร่างของจิตภัณฑ์ ไม่ใช่ร่างจริง เมื่อถูกหอกยุทธ์มังกรดำฟาดฟันลงไปก็พลันแตกสลาย กลายเป็นแสงสว่างสีทองกระจายเต็มท้องฟ้า
แสงสีทองเหล่านี้กำลังรวมตัวเข้าด้วยกันอีกครั้งอย่างรวดเร็ว แต่ภายในหอกยุทธ์มังกรดำกลับมีโผล่หัวมังกรดำโพล่ออกมา อ้าปากกว้าง หมายที่จะกลืนกินแสงสีทองทั้งหมดนั้นเข้าไป
“เวิง!”
กระบี่หักของเทพฟ้าฟาดฟันเข้ามา ทำให้หงเทียนตกใจ รีบหมุดศีรษะกลับเข้าไปภายในหอกรบทันที ดูดกลืนเข้าไปได้เพียงส่วนเล็กจิ๋วของแสงสีทองเท่านั้น
ร่างของชายชุดคลุมทองหลอมรวมเข้าด้วยกันอีกครั้งได้สำเร็จ ครั้งนี้ เขาผสานร่างเข้ากับกระบี่หักของเทพฟ้า ออร่าก็พลันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
เมื่อเป็นเช่นนี้ ร่างของเขาก็คือกระบี่หักของเทพฟ้า หากหลัวซิวคิดจะฟันให้แตกสลายอีกอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว
“เวิง!”
ทันใดนั้น เสียงกระบี่ประทบกันนับหมื่นเล่มก็ส่งเสียงดังออกมา ชายชุดคลุมทองโบกมือปล่อยปราณกระบี่นับไม่ถ้วน พุ่งกระหน่ำเข้าหาหลัวซิวเหมือนพายุที่โถมกระหน่ำ
หลัวซิวไม่กล้าประมาท หยิบเอาไฟเทวสว่างออกมา และปลดปล่อยแสงเทวะออกไป
อนัตตารอบ ๆ ถูกปราณกระบี่ทะลุเป็นรูพรุนนับร้อยนับพัน เสียงตึงตังดังเข้ามาในหูอย่างต่อเนื่อง จิตภัณฑ์ของกระบี่หักของเทพฟ้าน้ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ได้ครอบครองพลังเทพฟ้าเหมือนในโบราณกาล ตั้งแต่ต้นจนจบก็ยังไม่สามารถทำลายการป้องกันของไฟเทวสว่างได้
หลัวซิวใช้ไฟเทวคุ้มกันตนเอง หอกยุทธ์มังกรดำในมือพุ่งเข้าไปสังหาร หมุนเวียนหมื่นจักรวาลไร้รูป แปรเปลี่ยนเป็นพลังอมตะรูปแบบต่าง ๆ โจมตีเข้าไปเหมือนพายุที่กำลังถาโถม
ชายชุดคลุมทองสีหน้าเคร่งขรึม รับการโจมตีอันไร้ที่สิ้นสุดของหลัวซิวเอาไว้ ร่างของเขาก็คือกระบี่หักของเทพฟ้า ถึงจะต้องรับการโจมตีจำนวนมากเช่นนี้ ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเสียหายแม้แต่น้อย
“พลังแปรเสวียนเทียน!”
หลัวซิวตรพโกนเสียงดัง พลังรบพลันเพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบสี่เท่าภายในชั่วพริบตา หอกยุทธ์มังกรดำปล่อยพลังออกไป ฉีกกระฉากทุกสิ่งอย่าง ให้กลายเป็นผุยผงไร้สิ่งกีดขวาง
เสียงดังปังเกิดขึ้น ชายชุดคลุมทองถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป แสงสว่างที่ส่องประกายอยู่บนเรือนร่างเพียงพริบตาเดียวก็พลันรี่ลงทันที
ร่างเดิมของเขาคือกระบี่หักของเทพฟ้า แต่พลังก็ยังคงไร้ที่สิ้นสุดอยู่ดี ด้วยพลังแปรเสวียนเทียนสำแดงการโจมตียี่สิบสี่เท่า ในที่สุดก็สามารถทำให้เขาได้รับบาดเจ็บบ้างแล้ว
เพียงแต่พลังแปรเสวียนเทียนที่ถูกปล่อยออกมานั้น แต่เดิมมันก็แข็งแกร่งอย่างมากอยู่แล้ว แต่การใช้พลังในการโจมตีนี้ ก็เท่ากับการสูญเสียพลังยี่สิบสี่เท่า อีกทั้งหลัวซิวยังอยู่ในสภาวะการต่อสู้แบบข้ามแดน ย่อมไม่สามารถที่จะโจมตีในสภาวะเช่นนี้ได้เป็นอย่างยาวนาน
“เวิง!”
ร่างของชายชุดคลุมทองก็พลันเลือนราง กลายเป็นร่างเดิมของกระบี่หักของเทพฟ้า รูปร่างของแสงกระบี่ยาวเกือบพันลี้ เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวบดขยี้ลงไปบนร่างของหลัวซิว
“กร๊อบ!”
ไฟเทวสว่างยากจะที่รับมือกับการโจมตีเช่นนี้ได้ บนม่านแสงของไฟเทว แตกออกเป็นรอยร้าว
หลัวซิวหน้าเปลี่ยนสี จากนั้นก็ขับเคลื่อนเกราะเทพเวหากาล
“ปัง!”
แสงประกายเจิดจรัสเปล่งออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เกราะเทพเวหากาลลอยขึ้นมา ป้องกันเอาไว้รอบตัว ทำให้พลังของหลัวซิวพุงสูงขึ้นถึงระดับเทพมารขั้นสูงในพริบตาเดียว
เขายกมือขึ้นมา จับแสงกระบี่ที่ยาวราวพันลี้เอาไว้ในมือ ทำให้แสงกระบี่นี้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงแต่กลับไม่สามารถฟาดลงมาได้
จากนั้นเขาก็พลิกตัวปล่อยตราธรรมจุติมรณะออกมา แสงกระบี่พันลี้ก็พันแตกสลาย กลับมารวมเป็นร่างเดิมของกระบี่หักของเทพฟ้าอีกครั้ง
ในเวลานี้พลังของหลัวซิวสูงเสียดฟ้า จิตภัณฑ์ของกระบี่หักเทพฟ้าดูเหมือนจะรู้สึกถึงวิกฤต ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นลำแสงวาบและกำลังจะหนีไปในทันที
