มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1082
บรรลุกฎเกณฑ์ คือการข้ามแดนสูงสุดขั้นหนึ่ง เป็นการท้าทายความสามารถของตนเอง เพราะว่าสิ่งที่จะต้องข้ามไปให้ได้นั้นคือการสั่งสมที่มากมายมหาศาลของตนเอง
เมื่อใดก็ตามที่บรรลุได้ ก็เหมือนปลาที่กระโดดข้ามประตูมังกร ข้ามไปยังระดับแดนใหม่แดนหนึ่ง มีการสัมผัสรู้มากมายไม่มีที่สิ้นสิ้นสุดปรากฏขึ้น
วินาทีที่ประตูแห่งกฎเกณฑ์ถูกเปิดออก หลัวซิวก็รู้สึกได้ถึงแดนของตนเองที่ทรงพลังมากขึ้นตามไปด้วย เกิดแสงวูบวาบต่าง ๆ นานาการสัมผัสรู้ไม่มีจุดสิ้นสุดปะทุขึ้นมา
กฎชีวิตแดนบรรลุผล กฎความตายแดนบรรลุผล โซนกฎแดนสำเร็จน้อย!
“เวิง!”
ผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นหนึ่งได้สำเร็จ ทันใดนั้นใจแห่งศุภรก็บินออกมาจากหว่างคิ้วของเขา ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความลึกลับเล็กน้อยของกฎเวลาอย่างเลือนราง
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง……”
หลัวซิวลืมตาขึ้นมาทันใด ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดตลอดมาตนจึงไม่สามารถสัมผัสรู้ถึงความลึกลับของกฎเวลาได้ เมื่อย้อนกลับมาสู่พื้นฐานนั่นก็เพราะผลการฝึกตนก่อนหน้านี้ของเขาต่ำเกินไป ภายในใจแห่งศุภรเต็มไปด้วยความลึกลับ อย่างน้อยที่สุดก็จำเป็นต้องเป็นระดับแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ จึงจะสามารถสัมผัสรู้ถึงหลักการอันลึกซึ้งบาง ๆ ที่แฝงอยู่ในนั้น
ใจแห่งศุภร คือสิ่งล้ำค่าที่ถูกกลั่นแปรออกมาโดยกฎเวลาดั้งเดิม ภายในนั้นแฝงไปด้วยกฎหลักการระดับสูงอันลึกซึ้งมากมาย ถึงแม้จะตระหนักรู้ถึงหลักการอันลึกซึ้งเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้หลัวซิวได้ประโยชน์อย่างไม่รู้จบ
“ข้าคือมหาจักรพรรดิ!”
หลายวันต่อมา หลัวซิวค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน นัยน์ตาของเขาลึกราวกับเหวลึก ในส่วนลึกของนัยน์ตา ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหลักการอันลึกซึ้งไม่มีที่สิ้นสุด เพียงพริบตาถือกำเนิดสรรพสิ่ง เพียงดับสูญชั่วนิรันดร์
หลังจากผลการฝึกตนบรรลุแล้ว หลัวซิวก็ไม่ได้รีบร้อนจากไปไหน แต่กลับอยู่ภายในวิชาห้ามค่ายกลของตนต่อไป เพื่อจัดการกับการสัมผัสรู้ที่ได้รับมาของตน
การบรรลุประตูแห่งกฎเกณฑ์ครั้งนี้ได้ข้ามมาถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ในสมองของเขามีการสัมผัสรู้มากมายปะทุขึ้นมา จำเป็นต้องใช้เวลาในการจัดการให้เข้าที่เข้าทาง
ก่อนอื่นเขาหยิบเอาใจแห่งศุภรออกมา คริสตัลใสที่ไม่กลมมนนี้ไม่ใช่สิ่งล้ำค่าดั้งเดิมทั้งหมด แต่เป็นเพียงเศษเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งของใจแห่งศุภรเท่านั้น
ด้วยออร่าแห่งการบรรลุผล สัมผัสรู้ถึงกฎเวลาบาง ๆ ที่แฝงอยู่ภายใน ทำให้ในทที่สุดเขาก็สามารถใช้งานคุณสมบัติบางประการจากเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ของใจแห่งศุภรชิ้นนี้ได้
การกระตุ้นใจแห่งศุภรสามารถเกิดเป็นโลกาศุภร การไหลของเวลาภายในช้ากว่าภายนอกสิบเท่า เช่นนี้ก็หมายความว่า หากฝึกตนอยู่ภายในโลกาศุภรสิบปี ก็เท่ากับฝึกตนแล้วหนึ่งร้อยปี!
ที่น่ากลัวก็คือ อัตราความเร็วการไหลเวียนของเวลานี้ ตามการยกระดับแดนกฎของหลัวซิว ก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างเช่นแดนกฎเวลาของเขาก็เพิ่งจะตระหนักรู้ สามารถทำได้เพียงกระตุ้นสิ่งพื้นฐานที่สุดคือเวลาช้าลงสิบเท่า ถ้าหากสามารถบบลุถึงควบคุมแดนกฎ ก็จะสามารถยกระดับให้ช้าลงเป็นยี่สิบเท่าของเวลาได้
แดนกฎยิ่งสูง การลดความเร็วของเวลาก็ยิ่งมากขึ้น เป็นหลักการเช่นนี้
คุณสมบัติที่เป็นเหมือนกบฏต่อสวรรค์เช่นนี้ ทำให้หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าประทับใจ เพราะว่าเขาต้องการที่จะตามผู้แข็งแกร่งแดนเทพมารที่ฝึกตนมาอย่างยาวนานหลายหมื่นปีให้ทัน สิ่งที่ขาดแคลนที่สุดนั่นคือเวลา
แต่ในเมื่อได้ครอบครองพลังการลดความเร็วของเวลาของโลกาศุภรแล้ว ก็สามารถทำให้เวลาในการเพิ่มพลังของเขาลดลง เดิมแล้วที่จำเป็นต้องใช้เวลาราวร้อยปีจึงจะสามารถบรรลุแดนได้ กลับใช้เวลาแค่เพียงสิบปีก็สามารถทำได้แล้ว!
“สมแล้วที่เป็นสิ่งล้ำค่าดั้งเดิม ถึงแม้จะเป็นแค่เพียงคุณสมบัติของเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งก็ยังสามารถทำเรื่องกบฏได้อย่างน่าหวั่นใจเช่นนี้” หลัวซิวประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม
เขาเก็บใจแห่งศุภรเข้าไปภายในตัวหยั่งรู้ที่อยู่ในหว่างคิ้วอีกครั้ง ทันในนั้นในใจก็พลันเต็มไปด้วยความปลื้มปริ่ม
ในเมื่อมีลูกแก้วความเป็นตายและใจแห่งศุภรไว้ครอบครอง เขามั่นใจว่าใช้เวลาเพียงไม่นาน พลังของเขาก็จะต้องได้รับการยกระดับขึ้นไปยังแดนใหม่อีกครั้งเป็นแน่
“ในเมื่อผลการฝึกตนของข้าบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว มีเรื่องบางเรื่องที่ควรจะเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าได้แล้ว”
เขาโบกมือขึ้นขจัดวิชาห้ามค่ายกลที่จัดวางเอาไว้จนหมดไป หลัวซิวมือหนึ่งไขว้เอาไว้ด้านหลัง ปากก็พึมพำพูดกับตัวเอง