มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1088
“ช่วยบอกบรรดาแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ แทนข้าด้วย ผู้ที่ต้องการแก้ไขความคับแค้นกับข้า สามารถไปที่สำนักไท่เสวียนของข้าที่โลกแสงดาว ถ้าไม่ยินยอม ข้าจะไปเยี่ยมถึงที่ และจัดการด้วยตัวเอง !”
ตำหนักดารานภาเป็นหนึ่งในแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุด หลัวซิวเองก็ขี้เกียจจะไปแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ อีกแล้ว ก็เลยฝากคำพูดไว้กับพวกเขา เชื่อว่าหลังจากที่บรรดาแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ทราบข่าวแล้ว พวกเขาต้องชั่งน้ำหนักอย่างรอบคอบด้วยว่าตนมีทุนมากพอที่จะแข่งขันหรือไม่
หลังจากที่หลัวซิวไปแล้ว อาจารย์สี่ท่านของตำหนักดารานภาต่างก็โล่งใจ สีหน้าท่าทางทอดถอนใจ
“เมื่อหวนคิดว่าตำหนักดารานภาของเราทำให้โลกต้องตกใจกลัวมาเป็นระยะเวลานับแสนปี ผลสุดท้ายแม้แต่เด็กหนุ่มคนเดียวก็ไม่สามารถขัดขวางไว้ได้ มันน่าขำจริง ๆ !”
“จะว่าไปแล้ว จากอดีตสู่ปัจจุบันไม่มีการสืบสานที่คงทนถาวร ที่ตำหนักดารานภาประสบภัยพิบัติในครั้งนี้ มันยังเป็นบทเรียนสอนเราด้วย เราต้องไม่ดูถูกวีรบุรุษบนพื้นพิภพ
…………
ไม่กี่วันต่อมา หลัวซิวกลับไปที่โลกแสงดาว เปิดทางเหนือนภา ทะลุผ่านโลกแสงดาวเกณฑ์กฎ จนมาถึงภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ผ่านไปกว่าครึ่งปี เขากลับมาที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง แต่กลับไม่เจอพวกของช่าจื่อเยียน
“หลัวซิว เทวทูตผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามท่านกลับโลกเสวียนเทียนไปแล้ว เทวทูตจื่อเยียนทิ้งม้วนหยกไว้ให้เจ้า” เทพมารตนหนึ่งมาอยู่ตรงหน้าหลัวซิว แล้วยื่นม้วนหยกให้เขา
“กลับไปแล้ว ?” หลัวซิวขมวดคิ้ว ใช้ตัวสำนึกสำรวจในม้วนหยก สีหน้าท่าทางเคร่งขรึมมากขึ้น
“ที่แท้เกิดเรื่องขึ้นแล้วนี่เอง”
…………….
ม้วนหยกที่เทวทูตจื่อเยียนทิ้งไว้ให้พูดเกี่ยวกับ ที่นางกลับไปที่โลกาชั้นฟ้ าในครานี้ เนื่องมาจากเผ่าปีศาจมารทูลทัณฑ์? ได้เอาข่าวเกี่ยวกับสมบัติชิ้นนั้นของเทพสงครามเอกภพที่หายไปถ่ายทอดต่อเบื้องบน อีกทั้งได้ส่งต่อไปถึงหูของราชาเทพของมหาโลกายอดอัมพรท่านนั้น
เศษเสี้ยวใจแห่งศุภรเป็นเรื่องสำคัญ โลกาชั้นฟ้าได้ออกคำสั่ง ให้ช่าจื่อเยียนและเทพมารทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนางและผู้ที่ร่วมออกค้นหากลับไปให้ครบถ้วน เพื่อรับการสอบสวน !
ไม่เพียงแต่ฝ่ายของช่าจื่อเยียน ยังมีเทพมารที่ออกค้นหาแดนปริศนาเทพสงครามของเผ่าปีศาจมารเหล่านั้นก็ให้กลับไปรับการสอบสวนด้วย
มีเพียงหลัวซิวผู้เดียวที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะเขาเป็นเพียงแค่ชายหนุ่มที่ไม่มีแม้แต่แดนเทพมาร ไม่มีใครคิดว่าเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของสมบัติชิ้นนั้น
แม้ตอนที่เผ่าปีศาจมารทูลทัณฑ์ ก็ไม่ได้พูดเรื่องที่เกี่ยวกับเขา
“พูดได้ว่าผู้อาวุโสจื่อเยียนได้รับผลกระทบเพราะข้า หวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับนาง” หลัวซิวคิดในใจ
นอกจากเรื่องนี้แล้ว ในม้วนหยกช่าจื่อเยียนยังกล่าวอีกว่า ภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีแท่นบูชาส่งต่อ ด้วยพลังของเทพมารสามารถเปิดทางเหนือนภาและส่งต่อไปยังโลกเสวียนเทียนได้
นางหวังว่าหลัวซิวจะพยายามฝึกตนภายในโลกแสงดาว หากหลังจากที่มีพลังที่มากเพียงพอแล้ว สามารถไปเข้าร่วมสำนักเทียนช่าที่โลกเสวียนเทียน
สำหรับช่าจื่อเยียน หลัวซิวรู้สึกผิด เพราะเขาเป็นคนเอาเศษเสี้ยวใจแห่งศุภรไป
ออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างทางไปสำนักไท่เสวียนอาณาจักรใต้ จู่ ๆ หลัวซิวก็รู้สึกอะไรบางอย่างในใจ
เขาหยุดฝีเท้า เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เห็นเมฆครึ้มอยู่ในความว่างเปล่าเป็นสิบ ๆ ลี้ อัสนีผสาน
ทัณฑ์สวรรค์ !
การก้าวข้ามจากเจ้ายุทธจักรไปถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ สายฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุดตกลงมาโดยไม่มีลางบอก สายฟ้าทุกเส้นหนาเหมือนถังน้ำ ทรงพลัง และฉีกขาดความว่างเปล่า
หลัวซิวไม่เคยประสบทัณฑ์สวรรค์ แต่ข้างกายเขามีผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ไม่น้อย ภายใต้การได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่ได้เห็นได้ยินอยู่เป็นประจำ ทำให้รู้ว่าทัณฑ์สวรรค์ของมหาจักรพรรดิยุทธ์ เป็นเพียงทัณฑ์สวรรค์ครั้งแรกที่นักยุทธ์
ต้องเผชิญ