ชายชราผู้นี้ตกใจมากจนหน้าถอดสี ก่อนที่เขาจะเคลื่อนไหวร่างกาย อยากหลบการโจมตี แต่ทว่าเขากลับหยุดการเคลื่อนไหวลงอย่างกะทันหัน ราวกับเวลาของทั่วทั้งฟ้าดินได้หยุดลงในเสี้ยววินาทีนั้น
ไม่เพียงแค่เขาคนเดียว ยักษ์แก้วเทวตัวนั้นก็ถูกสะกดให้หยุดนิ่งเช่นกัน กิริยาท่าทางหยุดอยู่ ณ เสี้ยววินาทีนั้น ลักษณะรูปร่างคงอยู่ในท่าอ้าปากกว้าง
“กฎเวลา!”
ร่างกายของชายชราเทพมารไม่สามารถขยับไปที่ใดได้ แต่ทว่าความคิดของเขากลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ สัมผัสได้ถึงออร่าของกฎที่ลึกลับที่สุดในโลก
กฎในจักรวาลฟ้าดินมีนับไม่ถ้วน แต่ถ้าเป็นกฎที่ลึกลับที่สุดละก็ มันก็ต้องเป็นกฎเวลาอยู่แล้ว!
ชีวิต ความตายและปริภูมิทั้งสามกฎใหญ่ ผู้ที่ฝึกจนถึงแดนที่สูงลึกนั้นมีไม่มาก แต่อย่างน้อยคนที่ฝึกกฎทั้งสามนี้ก็มีไม่มีน้อยเช่นกัน
แต่ผู้แข็งแกร่งที่ฝึกกฎเวลานั้นกลับหาพบได้ยากมาก ๆ สาเหตุหลักนั้นเป็นเพราะกฎนี้เป็นกฎที่พิศวงลึกลับมาก และตระหนักรู้ยากที่สุด
เงาดำร่างหนึ่งปรากฏลอยอยู่ตรงหน้าเขา ชายชราเทพมารผู้นี้รู้สึกช็อกมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว เขาคิดว่าผู้ที่ใช้กฎเวลานั้นเป็นฝีมือคนอื่น แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่ากฎเวลานี้จะมาจากเจ้าหนุ่มที่ผลการฝึกตนอยู่แค่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 2 นี้!
“เวลาหยุดนิ่ง ช่างเป็นอุบายที่ยอดเยี่ยมมากนัก!”
หลัวซิวอมยิ้ม รู้สึกพึงพอใจต่อประสิทธิผลของกฎเวลามาก
เขาแทงหอกออกไป เสียงพึบดังขึ้น ทำการสังหารเทพมารคนสุดท้ายในสำนักเซียนไร้เจตสิกได้สำเร็จ ก่อนจะนำช่องจิตและแหวนเก็บของของเขามา
จากนั้นเขานำสายตาจ้องมองไปทางยักษ์แก้วเทวในทันที พลางนึกคิดในใจ: “แดนกฎเวลาของข้าไม่สูง ที่สามารถกำราบผู้แข็งแกร่งเทพมารได้นั้น ก็เป็นเพราะผลการฝึกตนของฝ่ายตรงข้ามถูกกดอัดลงมาที่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ หากฝ่ายตรงข้ามอยู่ในสภาวะที่เฟื่องสุดขีดละก็ คาดว่ากฎเวลาของข้าก็คงสร้างผลกระทบต่อฝ่ายตรงข้ามได้เพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น หรืออาจจะไม่ส่งผลกระทบอะไรเลย!”
ในระหว่างที่นึกคิดอยู่นั้น หลัวซิวกระตุ้นห้วงจิต รวมตัวสำนึกให้ประกอบเป็นรูปกระบี่ แล้วทิ่มแทงเข้าไปกลางหว่างคิ้วของยักษ์แก้วเทวเพื่อกำจัดธาตุทิพย์ของมันทิ้ง
หลังจากที่ผ่านไปพักหนึ่ง ร่างยักษ์แก้วเทวก็ล้มลงไปจนดังสะเทือนเลื่อนลั่น รัศมีเทวทั่วร่างกายค่อย ๆ จางหายไป กลายเป็นแก้วเทวขนาดใหญ่ที่มีความสูงมากกว่าสามพันเมตร
มีออร่ากฎที่เข้มข้นสุดขีดแผ่กระจายออกมาจากแก้วเทวชิ้นนี้ ระดับของพลังที่แฝงซ่อนอยู่ภายในสูงกว่าแก้วเทวชั้นล่างทั่วไปหนึ่งระดับ หากนำมันมาฝึกตน ประสิทธิผลจะดีเยี่ยมมาก ๆ
หลัวซิวเก็บเกราะเทพเวหากาลกลับเข้าที่ เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อแต่อย่างใด จัดการแหวนเก็บของที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างให้สะอาด แล้วเก็บแก้วเทวชิ้นนี้เข้าไปในแหวนเก็บของ ก่อนจะรีบจากไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
พื้นที่ภายในโลกเซียนเสวียนเทียนกว้างใหญ่ไพศาล มีสมบัตินับไม่ถ้วน สมบัติทั้งหมดที่อยู่ภายในนี้ล้วนกลายมาจากเศษพลังเทพที่ราชาเทพโบราณทิ้งไว้
หลังจากที่ผ่านมาหลายปีไม่รู้จบ ในมิตินี้ก็มียาวิเศษเจริญเติบโตขึ้นมาไม่น้อยเช่นกัน ภายใต้ผลกระทบของออร่าเซียน ระดับส่วนมากของตัวยาไม่ต่ำและมีมูลค่าสูง
หลังจากผ่านไปหลายวัน หลัวซิวก็มองเห็นยักษ์ที่สูงสามหมื่นกว่าเมตรตัวหนึ่งในตำแหน่งที่ห่างออกไปไกล นี่ก็เป็นยักษ์แก้วเทวตัวหนึ่งเช่นกัน มีสีหลากสีล้อมอยู่รอบกายมัน แก้วเทวที่อยู่บนตัวล้วนเป็นแก้วเทวชั้นกลาง
นักยุทธ์ที่มาจากข้างนอกจะถูกกดอัดเพราะกฎในโลกเซียนเสวียนเทียน แสดงผลการฝึกตนออกมาได้แค่ระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เท่านั้น แต่ทว่าอสูรจิตที่กำเนิดในโลกนี้กลับไม่ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขนี้
ยักษ์แก้วเทวสูงสามร้อยเมตรที่เขาพบเจอในก่อนหน้านี้ สามารถเทียบเคียงกับเทพมารได้ ภายใต้การโจมตีของเทพมารทั้งห้าคน ต้องใช้กลอุบายไปเยอะมาก ๆ ถึงจะสามารถกำราบมันได้อย่างยากลำบาก
ส่วนยักษ์แก้วเทวที่สูงสามหมื่นกว่าเมตรนี้กลับยิ่งสยองกว่า มันแทบจะเท่ากับการดำรงอยู่ของระดับเทพมารขั้นสูงเลย หากทุกคนที่เข้ามาในโลกเซียนเสวียนเทียนร่วมมือกันโจมตีมัน เมื่ออยู่ต่อหน้ามันแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตายเลย
หลัวซิวก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน มองไปจากตำแหน่งที่ห่างออกไปไกลรอบเดียว เขาก็จากไปอย่างเงียบ ๆ ไม่กล้าเข้าไปใกล้มัน
ต่อให้เขาใช้เกราะเทพเวหากาล สามารถได้รับแรงโจมตีที่เทียบทัดกับเทพมารขั้นสูงในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ถ้าได้ปะกับยักษ์ที่สูงสามหมื่นกว่าเมตร ต้องเป็นสภาพการณ์ที่ได้ตายอย่างเดียวแน่นอน