นับตั้งแต่จักรพรรดิเทพคนล่าสุดนั่งฌาณละสังขารก็ผ่านมาล้านกว่าปีแล้ว
เพราะฉะนั้นความสูงต่ำของผลการฝึกตนจึงเป็นตัวกำหนดอายุไขของนักยุทธ์คนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้สำหรับผู้แข็งแกร่งที่บรรลุถึงเทพฟ้าหรือแม้กระทั่งเจ้านภา การบรรลุถึงแดนราชาเทพนั้น เป็นเป้าหมายที่พวกเขาไขว่คว้ามาทั้งชีวิต
ขอเพียงได้กลายเป็นราชาเทพ ก็จะมีอายุไขยืนยาวหลายล้านปี!
ด้วยเหตุนี้ พวกเขารู้ ๆ กันอยู่ว่ามีความเป็นไปได้สูงมากว่าการถ่ายทอดสืบสานของราชาเทพเสวียนเทียนอาจจะเป็นกับดัก แต่ทว่าก็ยังมีจำนวนคนไม่น้อยที่ยอมแข่งขันช่วงชิงกระโดดเข้าไปในกับดัก เพียงเพื่อให้เส้นทางแห่งการฝึกยุทธ์ของตนก้าวขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
เพราะถึงอย่างไรต่อให้พรสวรรค์ของเจ้ามีเยอะมากเพียงใด แต่ถ้าหากไม่มีวรยุทธ์พลังอมตะที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มากพอ ก็ยากที่จะฝึกตนไปถึงแดนราชาเทพได้
ซึ่งการถ่ายทอดสืบสานของราชาเทพเสวียนเทียนมีโอกาสทำเช่นนั้นได้!
แต่หลัวซิวกลับสังเกตเห็นข้อสงสัยหนึ่งจุด นั่นก็คือทุก ๆ พันปีโลกเซียนเสวียนเทียนถึงจะเปิดออกหนึ่งครั้ง กาลเวลาผ่านมายาวนานเช่นนี้ แต่กลับไม่เคยมีผู้ใดได้รับการถ่ายทอดสืบสานของราชาเทพเสวียนเทียนเลย แล้วนี่มันเป็นเพราะอะไรกันแน่?
ซุ๋นหวู่หยาจึงเอ่ยปากคลายข้อสงสัยให้แก่เขา: “ภายในวังเซียนมีสำนักเต๋าหนึ่ง จากตำนานที่เล่าขานต่อกันมา ด้านในสำนักเต๋ามีการถ่ายทอดสืบสานของราชาเทพ รวมไปถึงทรัพย์สินทั้งหมดที่ท่านเก็บสะสมมาชั่วชีวิต มีเพียงผู้ที่สามารถสยบสำนักเต๋านั่นได้เท่านั้น ถึงจะสามารถครอบครองการถ่ายทอดสืบสานและทรัพย์สินของราชาเทพ”
จากคำบอกเล่าของพี่น้องตระกูลซุ๋น สำนักเต๋าเสวียนเทียนของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน เป็นสมบัติที่อาจารย์ปู่คนหนึ่งกลั่นฝึกเซ่นขึ้นมา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการพบเห็นสำนักเต๋าที่อยู่ในวังเซียนแห่งนี้
“โครมม! ……”
และในตอนนี้เอง ประตูหินของวังราชาเทพที่ยิ่งใหญ่สูงตระหง่านก็เปิดออก มีแสงที่สว่างวิบวับสาดส่องออกมา ปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดค่อย ๆ ปรากฏขึ้น ท่ามกลางพื้นที่ที่มืดครึ้ม มีทองสำริดสำนักเต๋าที่ดูโบราณและเรียบง่ายลอยอยู่ ซึ่งไม่รู้ว่ามันคงอยู่ในห้วงนี้มานานกี่ล้านปีแล้ว
นี่ต่างหากที่เป็นสำนักเต๋าเสวียนเทียนของจริง สำนักเต๋าเสวียนเทียนนั่นในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินเป็นแค่ของเลียนแบบเท่านั้น แค่รูปร่างคล้ายคลึงแต่กลับไม่มีความหมายอะไรแฝงซ่อนอยู่
เห็นเพียงสำนักเต๋านั้นปิดไว้ เมื่อมองลอดเข้าไปผ่านซอกประตู สามารถมองเห็นได้ลาง ๆ ว่าด้านในสำนักเต๋ามีแสงเทวแผ่คลุมอย่างหนาทึบ มีร่องรอยกฎที่นับไม่ถ้วนไหลเวียนอยู่ภายใน!
ความใหญ่ของสำนักเต๋านี้ มีความยาวกว่าสามหมื่นเมตร ใหญ่จนเหลือเชื่อ ราวกับจะบรรจุฟ้าดินทั้งผืนเข้าไปในประตูบานหนึ่งยังไงอย่างนั้น
นี่ไม่ใช่สมบัติที่ราชาเทพเสวียนเทียนฝึกเซ่น แต่เป็นสมบัติวิเศษพรสวรรค์ที่กำเนิดมาจากฟ้าดิน ซึ่งมีนามว่าสำนักเต๋าเสวียนเทียน
ถึงแม้จะเป็นแค่สมบัติระดับสมบัติวิเศษ มิใช่ศัสตราวุธ แต่พลังออร่าที่ลอยตลบอยู่ภายในกลับแข็งแกร่งกว่าอัญเทพฟ้าเสียอีก!
เป็นแค่สมบัติวิเศษ แต่พลานุภาพกลับอยู่เหนืออัญเทพฟ้า หากฝึกเซ่นสำนักเต๋านี้ เพิ่มระดับให้แก่มัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพลานุภาพของมันจะสยดสยองได้ถึงแดนใด
และประเด็นที่สำคัญที่สุดคือมีโอกาสสูงมากว่าการถ่ายทอดสืบสานของราชาเทพเสวียนเทียนอาจจะซ่อนอยู่ภายในสำนักเต๋านี้ หากได้รับการถ่ายทอดสืบสาน ก็จะมีโอกาสยึดอำนาจและกลายเป็นราชาเทพ
เมื่อเปรียบเทียบกับพลังที่ยิ่งใหญ่ หรือสมบัติอาวุธที่มีพลานุภาพน่าทึ่ง สิ่งที่นักยุทธ์ที่บรรลุขึ้นมาถึงแดนนี้ต้องการมากที่สุดคือชีวิตที่ยืนยาว ถึงจะไขว่คว้าขึ้นไปถึงแดนที่สูงขึ้น หรือแม้กระทั่งตามหาวิชาอมตะนิรันดร์!
“เป็นของดีแฮะ!”
หลัวซิวมองดูจนรู้สึกเร่าร้อนมาก เขาสามารถสัมผัสได้ว่าออร่าของสำนักเต๋าเสวียนเทียนนี้เก่าแก่กว่าหอกยุทธ์มังกรดำมาก ๆ อีกทั้งยังลึกลับและทรงพลังกว่าด้วย
“ในเมื่อเป็นสมบัติวิเศษชิ้นหนึ่ง นั่นก็แสดงว่าขอเพียงเป็นนักยุทธ์ที่มีผลการฝึกตนอยู่ที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ ก็จะมีโอกาสปราบมันให้อยู่หมัดแล้วกลั่นแปรมัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้าจะทำเช่นนั้นได้หรือไม่?”แววตาของหลัวซิวเป็นประกาย มีความกระตือรือร้นที่อยากลองดูเล็กน้อย
สิ่งที่เขาให้ความสนใจไม่ใช่การถ่ายทอดสืบสานของราชาเทพเสวียนเทียน แต่เป็นตัวสำนักเต๋าเสวียนเทียน!
เขาสัมผัสได้ว่าสำนักเต๋านี้มีร่องรอยกฎปริภูมิที่ลึกซึ้งแฝงซ่อนอยู่ หากได้ครอบครองมันละก็ สิ่งที่ได้รับจะไม่ได้มีเพียงสมบัติที่มีอานุภาพล้ำเลิศที่สุดเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสามารถตระหนักร่องรอยกฎที่อยู่ในสำนักเต๋านี้ เพื่อยกระดับแดนกฎปริภูมิของตน