ในตำหนักเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ สองพี่น้องตระกูลซุ๋นมาหาเฟิ่งหวูซิน
“ศิษย์พี่ดูอะไรออกหรือไม่?” ซุ๋นหวู่หยาถาม
เฟิ่งหวูซินส่ายศีรษะและกล่าวว่า “ด้วยแดนผลฝึกตนในปัจจุบันของข้า ข้าสามารถเห็นสิ่งต่างๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วนได้ ตามหลักแล้วรุ่นเยาว์ที่มีผลการฝึกฝนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ไม่ว่าเขามีความลับอะไร ก็ไม่อาจละสายตาข้าไปได้”
“แต่หลัวซิวคนนี้ลึกลับมาก ข้ามองผลการฝึกฝนของเขาออก แต่ข้าไม่สามารถมองเห็นความแข็งแกร่งของเขาได้ โดยเฉพาะตัวหยั่งรู้ของเขา วุ่นวายปั่นป่วนมาก ยิ่งมองไม่ออกอะไรเลย”
“แม้ว่าข้าจะบังคับสอบสวนก็สามารถสังเกตสถานการณ์ในตัวหยั่งรู้ของเขาได้ หรือค้นจิตวิญญาณ สำรวจความทรงจำของเขา แต่ถ้าข้าทำเช่นนี้ จะไม่ทำให้เขาขุ่นเคืองต่อสำนักศักดิ์สิทธิ์น่ะสิ?”
“ทุกคนต่างมีความลับของตัวเอง นี่คือเส้นสำคัญที่สุด”
“แต่สำนักเทียนช่าประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่เพราะสมบัติของพิภพล่าง อาจเป็นหลัวซิวที่เอาสมบัติชิ้นนั้นไปก็ได้” ซุ๋นหวู่หยากล่าวเสียงที่ต่ำ
แม้ว่าเขาจะคาดเดา แต่ไม่มีหลักฐานใด ๆ แต่ก็ใกล้ชิดกับความจริงมากแล้ว
“ไม่แน่นอน ตอนนั้นหลัวซิวเพิ่งถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ แม้ว่าเขาจะมีความสามารถด้านค่ายกลในระดับหนึ่ง สามารถผ่านด่านกักขังของค่ายกลเทพต้องห้ามได้ แต่แรงกดดันของเทพสงคราม จะต้องมีผลการฝึกฝนเทพมารขั้นปลายถึงจะต่อต้านได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นไปบนยอดเขา” ซุนซินเหลียนส่ายศีรษะ ไม่เห็นด้วยกับการคาดเดาของเขา
เฟิ่งหวูซินมองซุ๋นหวู่หยา “เจ้าไม่จำเป็นต้องหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้มากเกินไป การล้มล้างของสำนักเทียนช่า ถูกกำหนดให้มีหายนะนี้ ตอนนี้หลัวซิวเป็นศิษย์ของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน เป็นลูกศิษย์ของเจ้า”
“พรสวรรค์ของหลัวซิวนั้นดีมาก แม้แต่ข้าในอดีตก็สู้เขาไม่ได้ เขาจะกลายเป็นเสาหลักสำนักศักดิ์สิทธิ์ของเราในอนาคต ดังนั้นอย่าคาดเดาอีกต่อไป”
“ขอรับ” ซุนหวู่หยาตอบเสียงต่ำ
“หลังจากสำนักเทียนช่าล่มสลาย สำนักเซียนไร้เจตสิกก็อยู่ไม่นิ่ง มีความคิดที่จะรวมกองกำลังอื่น ๆในโลกเสวียนเทียนเป็นของพวกเขา ความมีทะเยอทะยานอยากจะครองโลก เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือป้องกันการกระทำของสำนักเซียนไร้เจตสิก”
…
“โครม…”
ในวันนี้ ท้องฟ้าเหนือยอดเขาหลักไท่เสวียน จู่ ๆ ก็ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้ม แสงฟ้าร้องนับไม่ถ้วนผันผวนกันอยู่ในเมฆ ฉายลมผราณที่ดุร้ายรุนแรงออกมา
ศิษย์หลายคนของสำนักไท่เสวียนต่างตกใจกลัว ต่างมองไปยังเมฆ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
แม้แต่ศิษย์แข็งแกร่งของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินก็ตื่นตระหนกเช่นกัน
ทุกคนต่างทราบกันดีว่ามีเพียงแดนเจ้ายุทธจักรบรรลุแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ หรือมหาจักรพรรดิยุทธ์บรรลุแดนเทพมาร เทพมารบรรลุเทพฟ้าถึงจะเกิดทัณฑ์สายฟ้า
ตอนนี้ เกิดทัณฑ์สายฟ้าในสำนักเขาไท่เสวียน หรือว่ามีคนบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ หรือหลัวซิวบรรลุแดนกลายเป็นเทพมาร?
แสงฟ้าร้องนับไม่ถ้วนผันผวน ผนึกแน่นกลายเป็นแอ่งสายฟ้าขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนเท้องฟ้า กดดันจนผู้คนไม่สามารถหายใจได้
ในตำหนักวัฏสงสาร หลัวซิวลืมตาขึ้น “เป็นทัณฑ์สายฟ้าของข้าหรือ?”
ทัณฑ์สวรรค์อัสนีจะปรากฏหลังจากแดนเจ้ายุทธจักรบรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์เท่านั้น คนทั่วไปหลังจากที่ผ่านการทัณฑ์สวรรค์อัสนีมาแล้วครั้งหนึ่ง จะมีทัณฑ์สวรรค์อัสนีครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อบรรลุแดนเทพมาร
แต่สิ่งที่หลัวซิวไม่คาดคิดก็คือยุทธ์ผลการฝึกตนของเขาเพิ่งผ่านมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 3 ไปสู่ขั้น 4 ก็ได้รับทัณฑ์สวรรค์อัสนีครั้งที่สอง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ร่างแยกร่างหนึ่งของเขาจากมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นปฐมภูมิ บรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นปฐมภูมิขั้นกลาง ร่างแยกอีกร่างหนึ่งก็จะบรรลุตามด้วย ทัณฑ์สวรรค์อัสนีมาถึงอย่างกะทันหัน แล้วก็เป็นสองรอบในครั้งเดียวเช่นกัน!
ทัณฑ์สวรรค์อัสนีสองรอบ ความแข็งแกร่งสองเท่า ยิ่งน่ากลัวยิ่งกว่า!
“ครืน!”
ทัณฑ์สวรรค์อัสนีฝ่าลงมา ทุกอัสนีใหญ่ราวกับกระบี่เทพที่แทงลงมาจากพื้นนภา