มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1228
“สำนักเต๋าเสวียนเทียน!”
มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในสมอง หลัวซิวเดาออกว่าประตูหลุมดำนี้เป็นผลที่ออกมาของการใช้วิชาพลังอมตะสำนักเต๋าเสวียนเทียน
แม้ว่าหลุมดำในขณะนี้จะดูไม่เหมือนสำนักเต๋า แต่ก็เห็นได้ชัดว่าจงใจซ่อนไว้
“สำนักเต๋าเสวียนเทียนเป็นวิชาพลังอมตะระดับสูงสุดของสำนักศักดิ์สิทธิ์ เฉพาะศิษย์โดยตรงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะฝึกฝนได้ ใครกันที่จะจัดการข้า?”
หลัวซิวขมวดคิ้ว ข้อมูลของคนอื่นๆแวบเข้ามาในสมอง แต่ในหมู่ศิษย์สายตรงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนจะไม่มีใครที่มีความแค้นกับเขา
“นอกเหนือจากพี่จื่อเยียนและเสี่ยวเจียงหมิงแล้ว มีเพียงเหล่าผู้อาวุโสเทพมารในตำหนักเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์และเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวูซินเท่านั้นที่รู้ว่าข้ากำลังจะเข้าสู่อนัตตาไม่สิ้นเพื่อไปยังพิภพอื่น”
หลัวซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยและวิเคราะห์ “คนที่ทำเช่นนี้ไม่ใช่พี่จื่อเยียน มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินที่เชี่ยวชาญในวิชาพลังอมต!”
“หรือว่าจะเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ เฟิ่งหวูซิน?” หลัวซิวนึกไปนึกมา รู้สึกว่าเฟิ่งหวูซินเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด
แต่สิ่งที่ทำให้เขาสงสัยก็คือในเมื่อเฟิ่งหวูซินต้องการจะจัดการกับเขา เหตุใดต้องยุ่งยากเช่นนี้?
“บูม!”
ในขณะนี้ มือใหญ่ยื่นออกมาจากหลุมดำแล้วจับไปที่หลัวซิว
นี่คือมือใหญ่ที่ส่องประกายด้วยแสงสีเงินเจิดจ้า ซึ่งประกอบด้วยลมปราณกฎปริภูมิดั้งเดิม ในขณะเดียวกันก็แสดงแรงกดดันอันแข็งแกร่งของผู้แข็งแกร่งระดับเทพฟ้า
สีหน้าของหลัวซิวเปลี่ยนไปทันที “ข้าอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องใช้ร่างกลวัฏสงสารเท่านั้น”
ขณะที่เขาคิดเช่นนี้ คิ้วของเขาก็เปิดออก ร่างกลวัฏสงสารก็บินออกจากตัวหยั่งรู้ กระตุ้นเกราะเทพเวหากาล ลมปราณพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เทพสงครามไร้เทียมทาน!”
“พลังแปรเสวียนเทียน!”
กระตุ้นสองวิชาพลังอมตะแข็งแกร่งพร้อมกัน ลมปราณของร่างกลวัฏสงสารแข็งแกร่งขึ้นเกือบจะเหนือกว่าเทพฟ้าธรรมดาทั่วไป
เมื่อลมปราณมาถึงจุดสูงสุด ร่างกลวัฏสงสารก็ใช้ตราเปิดฟ้า แสงขวานสีทองเจิดจ้าพุ่งออกไป สร้างโลก
“อัก!”
ทันทีที่แสงขวานฟันออกไป มือใหญ่ที่จะจะบเขาก็ถูกตัดขาด จากนั้นแสงขวานก็กระแทกเข้าที่ใจกลางของหลุมดำ พลังที่รุนแรงโหมกระหน่ำเหมือนทะเลที่มีพายุ ได้ฟันหลุมดำให้แตกสลาย
…
ในตำหนักเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน ดวงตาของเฟิ่งหวูซินเป็นประกายทันที
“เป็นเจ้านั่นเอง เจ้ามีความลับอะไรกันนะ?”
หลุมดำที่ปรากฏขึ้นในอนัตตาไม่สิ้นนั้น พราะเขารู้สึกได้ว่าหลัวซิวได้เข้าไปในอนัตตาไม่สิ้น ดังนั้นเขาจึงลงมือ
“ชายหนุ่มที่มาจากพิภพล่างที่ฝึกฝนมาไม่ถึงร้อยปี สามารถมีกำลังต่อสู้กับเทพฟ้าได้…”
เหตุผลที่เฟิ่งหวูซินโจมตีหลัวซิวนั้นง่ายมาก นั่นก็คือเขาอยากรู้ว่าความลับของหลัวซิวคืออะไร
แม้เขาจะบอกคนอื่นว่าไม่สนใจความลับบนร่างของหลัวซิว แต่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้แข็งแกร่งอย่างเขา ต้องการจะก้าวไปต่อได้ไกลกว่านี้ และมีโอกาสมากว่าชีวิตนี้เขาจะหยุดที่แดนจ้าวนภา หลังจากผ่านไปหนึ่งแสนปี จะเสียชีวิตไป ทุกอย่างจะจบลง
เฟิ่งหวูซินกลับไม่ยอม จนกระทั่งหลัวซิวปรากฏตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาได้ฆ่าเทียนหวูเชว เขาเริ่มสงสัยความลับบนร่างของหลัวซิว
ตอนนี้เขาได้ทดสอบด้วยตัวเองแล้ว เขาได้รู้ว่าเหตุผลที่ผู้อาวุโสไท่ซ่างเหยียนโหมวของสำนักเซียนไร้เจตสิกได้รับบาดเจ็บสาหัส เห็นได้ชัดว่าถูกทำร้ายจากหลัวซิว แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่ง สามารถทำร้ายเทพฟ้าได้ นี่เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก!
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับหลัวซิว ก็เป็นไปได้
“อย่างนี้แล้ว สมบัติของเทพสงครามเอกภพก็ต้องตกไปอยู่ในมือของเขาด้วย เขาดีต่อเสี่ยวเจียงหมิงและจื่อเยียนก็เพื่อชดเชยการถูกทำลายของสำนักเทียนช่าหรือ?”
เฟิ่งหวูซินฉลาดและมีความรู้ หลังจากค้นพบความแข็งแกร่งที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ของหลัวซิว เขาได้เชื่อมโยงความสงสัยทั้งหมดก่อนและหลังขึ้นมาทั้งหมด