มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1237
แต่หลัวซิวกลับไม่ได้สนใจใด ๆ เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เขาเพียงแค่หยุดพักอยู่ที่ชนเผ่าของถูหมิงเป็นเวลาหนึ่งเดือน เมื่อถึงเวลาเขาก็จะจากไป
เหตุที่เขาหยุดอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือนนั้น ก็เป็นเพราะว่าบาดแผลของเขาสามารถฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์ในช่วงระยะเวลานี้ นอกจากนี้ก็เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของชนเผ่าเล็กแห่งนี้ด้วย
เขาเชื่อว่า เมื่อใดที่ข่าวนี้ถูกแพร่กระจายออกไป ชนเผ่าใหญ่เบื้องบนจะต้องออกโรงภายในเวลาหนึ่งเดือนนี้อย่างเป็นแน่
……
ชนเผ่างูยักษ์เกล็ดเขียว ก็คือชนเผ่าใหญ่ที่อยู่เบื้องบนของชนเผ่าเล็ก ๆ ของถูหมิง
ใต้บัญชาของชนเผ่างูเกล็ดเขียว ควบคุมเผ่าอสูรอสรพิษนับร้อยชนเผ่าเล็ก เหมือนกับเผ่าของถูหมิง ไม่มีค่าพอให้กล่าวถึงแต่อย่างใด
แต่ก็เป็นเพราะชนเผ่าเล็กที่ไม่เป็นที่สนใจเช่นนี้ กลับมีเทพมารจากเผ่าพันธุ์มนุษย์คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น อีกทั้งยังฆ่าทูตจากชนเผ่างูเกล็ดเขียวด้วย สิ่งนี้มากพอที่จะดึงดูดความสนใจจากชนชั้นสูงของชนเผ่างูเกล็ดเขียวได้แล้ว
ผู้นำของชนเผ่างูเกล็ดเขียวคือเทพปีศาจตนหนึ่ง ใต้บัญชายังมีผู้อาวุโสอีกสี่ตน ต่างก็เป็นเทพปีศาจ เรียกได้ว่าเป็นรากฐานที่แข็งแกร่ง
“เทพมารจากเผ่าพันธุ์มนุษย์กล้ามาท้าทายพวกเราชนเผ่างูเกล็ดเขียว รนหาที่ตายจริง ๆ!”
ผู้นำชนเผ่าโดยปกติทั่วไปนั้นน้อยมากที่จะมาถามเรื่องภายในชนเผ่า เรื่องต่าง ๆ และการตัดสินใจส่วนใหญ่ จะถูกมอบให้เป็นหน้าที่ของผู้อาวุโสทั้งสี่แทน
ผู้อาวุโสสองหุบเขาผีเขียวหลังจากได้รับข้อมูลนี้ก็เกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที จึงได้ออกโรงชนเผ่าของถูหมิงไปยังด้วยตนเองโดยไม่ลังเล
ในเวลาเดียวกัน ที่ชนเผ่าของถูหมิง ชีวิตประจำวันของหลัวซิวก็กลับมาสงบอีกครั้ง ในทุก ๆ วันนอกจากจะแนะนำเรื่องการเพ็ญตนของอะลี่ เวลาส่วนมากก็ถูกใช้ไปกับการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตนเอง
ถึงแม้จะไม่ได้ส่งทอดวรยุทธ์หรือวิชาลับใดใดให้กับอะลี่ แต่ด้วยแดนยุทธ์ของเขา การแนะนำทั่ว ๆ ไป ก็สามารถทำให้ชายหนุ่มเผ่าปีศาจได้รับประโยชน์มากมายมหาศาลอยู่แล้ว
เมื่อผลการฝึกตนและตัวสำนึกฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้ว หลัวซิวก็เปิดเตากลั่นยา เครื่องบรรณาการที่ชนเผ่าของถูหมิงเตรียมเอาไว้นั้น ไม่ได้ถูกมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งชนเผ่างูเกล็ดเขียวทั้งสองเอากลับไปด้วย หนึ่งในนั้นมียาเซียนเล็กน้อยที่ถูกหลัวซิวเก็บออกมา
เขาได้กลั่นยาเซียนระดับหนึ่งจำนวนเล็กน้อยเพื่อใช้ฟื้นฟูผลการฝึกตนและตัวหยั่งรู้ บาดแผลก็เริ่มดีขึ้นมาเรื่อย ๆ พลังก็ฟื้นฟูขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“คาดไม่ถึงว่าหลังจากถูกทำลายแล้วจะได้รับสิ่งใหม่ขึ้นมาแทน”
หลัวซิวคาดไม่ถึงว่าเมื่อผลการฝึกตนได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์แล้ว กลับบรรลุกฎเกณฑ์ จากมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสี่ยกระดับขึ้นถึงแดนขั้นที่ห้าแล้ว
การข้ามแดนเล็กหลังจากเข้าสู่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว ทุก ๆ แดนต่างก็ต้องพบกับความยากลำบาก การบรรลุถึงแดนขั้นที่ห้าในระยะเวลาที่รวดเร็วเพียงนี้ ค่อนข้างทำให้หลัวซิวรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
ในขณะที่ผลการฝึกตนได้รับการยกระดับ แดนกฎก็ได้รับการสัมผัสรู้ใหม่ทั้งหมดตามไปด้วย พลังโดยรวมถูกยกระดับขึ้นไม่ใช่แค่เพียงระดับเดียว
“ตัวสำนึกของข้าหากจะใช้ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ ยังคงต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อย”
ร่างเนื้อและผลการฝึกตนฟื้นฟูอย่างมากที่สุด ถึงกระทั่งดีขึ้นกว่าเดิม ความเร็วในการฟื้นฟูของตัวสำนึกนั้นกลับช้ากว่ามาก เมื่อครู่ฟื้นฟูถึงเทพมารขั้นหนึ่ง แต่จุดสูงสุดของตัวสำนึกและผลการฝึกตนเขา คือเทพมารขั้นสี่
ถึงอย่างไร แม้ว่าบาดแผลจะยังไม่ได้ถูกฟื้นฟูจนสมบูรณ์ แต่พลังของเขาในเวลานี้ก็แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าตอนก่อนจะได้รับบาดเจ็บอยู่ไม่น้อย ถ้าหากสามารถฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์ ก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม!
“ปัง!”
ทันใดนั้นเองเสียงระเบิดดังสนั่นก็ดังก้องขึ้นเหนือท้องฟ้าของชนเผ่า โซนถูกฉีกกระชากออกด้วยมือใหญ่ เผยให้เห็นใบหน้าขนาดมหึมา นัยน์ตาขยับไปมา ราวกับพระอาทิตย์สองดวง เปล่งประกายสีแดงอันน่าสะพรึงกลัว
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ รีบออกมาตายเสีย!”
เจ้าของใบหน้าใหญ่มหึมานั้น แน่นอนว่าต้องเป็นชนเผ่างูเกล็ดเขียว ผู้อาวุโสสองหุบเขาผีเขียว เขาใช้ปราณปีศาจหลอมรวมเป็นฝ่าเซียง มีขนาดมหึมาราวหมื่นฟุต ก้มมองลงมายังชนเผ่าของถูหมิงขนาดเล็ก
“โครมคราม……”
มือขนาดใหญ่ที่ถูกหลอมรวมขึ้นด้วยปราณปีศาจสีเขียวบดขยี้ลงมา ฝ่ามือนี้มีขนาดใหญ่จนเหนือจินตนาการ นิ้วมือทั้งห้านั้นขยับไปมา ราวกับงูยักษ์เกล็ดเขียว สยองขวัญและน่าหวาดกลัว