มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1290
มังกรดำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างใหญ่โตของมันพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า รูขนาดใหญ่สองรูที่อยู่บนร่างได้กลับคืนสู่ปกติอย่างรวดเร็วจากการซ่อมแซมของกฎความตาย
มันคือวิญญาณมรณะ ไม่ใช่มีสิ่งมีชีวิตที่มีเลือดเนื้อ แต่เป็นดวงจิตอย่างหนึ่ง แม้ว่าการโจมตีของพลังงานแห่งกฎจะสามารถทำร้ายมันได้ แต่ก็ไม่มีอันตรายถึงชีวิต
“ไล่ล่าเจ้าปลาลูกผสมนั่นไม่ได้รีบร้อนอะไรนัก จัดการกับวิญญาณมรณะก่อนค่อยว่า” ชายวัยกลางคนชุดเขียวหยุดฝีเท้าลง แววตาอันโหดเหี้ยมได้ตกอยู่บนร่างของวิญญาณมรณะ
“ฮึ่ม!”
กระแสพลังแห่งกรดอันแรงกล้าเคลื่อนไหววนไปอยู่ในเหวมรณะ ที่นี่เป็นสถานที่ต้องห้ามของเทพมาร แต่ไหนแต่ไรมามีเพียงผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าเท่านั้นที่กล้าเข้ามาสำรวจถึงตรงนี้ แต่ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปลึกกว่านี้อีก
ทว่าในเวลานี้กลับมีการดำรงอยู่ที่น่าเหลือเชื่อสองท่านกำลังต่อสู้กันอยู่ในที่นี่ ความรุนแรงในการต่อสู้นั้นเป็นที่น่าตกตะลึงยิ่งนัก
การต่อสู้ในครั้งนี้ได้เกิดขึ้นในจุดที่ลึกลงไปประมาณหมื่นลี้ในสมุทรมรณะ!
“วิญญาณมรณะ!”
เงาร่างของหลัวซิวได้หยุดลง เงยหน้าขึ้นไปดู เหวมรณะ ที่มืดมิดสามารถบดบังการมองเห็นของเขาได้ แต่กลับไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อกระแสสัมผัสของเขาเลยสักนิด จากการรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกฎความตายในที่แห่งนี้ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงการต่อสู้ทั้งหมด
เป็นที่ประจักษ์ ชายวัยกลางคนชุดเขียวนั้นต้องการที่จะปราบปรามควบคุมวิญญาณมรณะก่อน จากนั้นค่อยมาสังหารตนเอง
ในตอนนี้เอง กระแสพลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่สุดไม่ได้ก็ได้ปรากฏขึ้น ทำให้หัวใจของหลัวซิวสั่นสะท้าน เงาร่างใหญ่โตมโหฬารได้ปรากฏขึ้นในสถานที่ที่ห่างออกไป ลอยตัวอยู่ในสมุทรมรณะ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเข้าไปยัง สถานที่ที่ชายวัยกลางคนชุดเขียวและวิญญาณมรณะกำลังต่อสู้กันอยู่
“เป็นอสูรจิตที่กำเนิดขึ้นมาจากสมุทรมรณะ!”
ก็เหมือนกับที่ว่าจุดสิ้นสุดของชีวิตคือความตาย จุดสิ้นสุดของความตายคือชีวิต ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความตายเช่นนี้ ก็จะก่อกำเนิดอสูรจิตที่แข็งแกร่งขึ้นมาเช่นเดียวกัน
สิ่งมีชีวิตชนิดนี้อาศัยอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตาย จึงแข็งแกร่งเนื้อธรรมดา
ไม่เพียงเท่านี้ อสูรจิตที่กำเนิดขึ้นมาไหนเหวมรณะ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกลิ่นอายของราชาเทพ ทุกตนล้วนเป็นชนิดพิเศษ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งเทพฟ้ายังต้องหลบเลี่ยง
วินาทีต่อมา กระแสสัมผัสของหลัวซิวได้เพ่งเล็งไปที่เงาร่างมหึมา ร่างของมันอย่าสิบกว่าลี้ มีเกล็ดสีดำสนิทไปอยู่ทั้งตัว รูปร่างเป็นเหมือนดั่งจระเข้ยักษ์ บนหลังมีขนแหลมคมอยู่ในลักษณะกลับหัว บนศีรษะมีลูกตาขนาดใหญ่อยู่รูปหนึ่ง แฝงไปด้วยกลิ่นอายของปีศาจ
จระเข้ยักษ์เนตรปีศาจ!
นี่คืออสูรร้ายชนิดหนึ่ง เป็นเผ่าพันธุ์มารที่ไม่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ มีพลังอันแข็งแกร่งมาตั้งแต่กำเนิด จระเข้ยักษ์เนตรปีศาจในวัยเยาว์สามารถทัดเทียมได้กับเทพมาร จระเข้ยักษ์เนตรปีศาจในวัยหนุ่มสาวสามารถทัดเทียมได้กับจ้าวนภา!
จระเข้ยักษ์เนตรปีศาจเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ได้เข้ามาใกล้สนามต่อสู้
สีหน้าของชายวัยกลางคนชุดเขียวเปลี่ยนไปในทันที แม้ว่าร่างแห่งปีศาจกระบี่ที่แสดงออกมานั้นจะอยู่ในสภาววะที่แข็งแกร่งที่สุด เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากความตายอันหนักหน่วง
จนถึงตอนนี้เขาถึงพลันเข้าใจขึ้นมา เหวมรณะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายที่แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวนภายังต้องระมัดระวังเมื่อเผชิญหน้า เขาลงมืออยู่ที่นี่อย่างไม่เกรงกลัวใด ๆ หากรบกวนถึงการดำรงอยู่อันน่ากลัวที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ มันเท่ากับเป็นการรนหาที่ตายโดยแน่แท้
ไม่ใช่เพียงแค่เขา การปรากฏตัวขึ้นของจระเข้ยักษ์เนตรปีศาจ ทำให้แม้แต่วิญญาณมรณะยังรู้สึกถึงอันตรายใหญ่หลวง แม้ว่ามันจะไม่เป็นสองรองใครในเหวมรณะ แต่อย่างไรเสียมันก็เพิ่งจะตื่นขึ้นมา ความสามารถอยู่ในระดับนักยุทธ์ที่พึ่งบรรลุถึงแดนเทพฟ้าเท่านั้น สำหรับอสูรร้ายที่กำเนิดจากกฎความตายอย่างจระเข้ยักษ์เนตรปีศาจ ถือเป็นยาบำรุงที่หาได้ยาก
วิญญาณมรณะเลือกที่จะหลบหนีไปโดยไม่ลังเล อยู่ที่นี่มันเป็นเหมือนดั่งปลาได้น้ำ สามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกฎความตายได้ ต่อให้สู้ จระเข้ยักษ์เนตรปีศาจไม่ได้ หลบหนีไปนั้นไม่นับเป็นปัญหาอะไร
“สวบ!”
ชายวัยกลางชุดเขียวเองก็อยากจะหลบหนีเหมือนกัน แต่ลำแสงสีดำสายหนึ่งได้พุ่งออกมาจากดวงตาปีศาจทั้งสองข้างของจระเข้ยักษ์ เป็นเหมือนดั่งเชือกเส้นหนึ่ง ที่ผูกรัดเขาเอาไว้แน่น
“อ้าก!……”
เขาส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ลำแสงสีดำที่มัดเขาเอาไว้ได้ดูดเอาพลังชีวิตของเขาไปอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเขาดูผอมแห้งแก่ลงไปอย่างรวดเร็ว