มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1294
ขึ้นมาถึงตรงนี้ หลัวซิวกลับไม่รีบที่จะสำรวจเข้าไปในเหวมรณะ ที่ลึกลงไปกว่านี้อีก และหยุดอยู่ตรงนี้เพื่อดูดซับพลังงานกฎมาพัฒนาความสามารถของตัวเอง
เพราะความสามารถของตัวเองถึงเป็นรากฐานของทุกอย่าง ความสามารถแข็งแกร่ง ก็จะยิ่งมีความมั่นใจที่จะไปสำรวจเหวมรณะมากขึ้น
เขาระมัดระวัง ทุกครั้งเขาดูดซับพลังงานกดเข้าไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนอื่นเขาได้ เพิ่มระดับผลการฝึกตนของตนเองขึ้นมาถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเจ็ดระดับสูงสุด จากนั้นก็ได้หยุดการฝึกตกลง ไม่ไปทะลวงประตูพันธนาการ
เนื่องจากเขายังบรรลุมาได้ไม่นาน ความสัมผัสรู้ที่มีต่อแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นเจ็ดยังไม่ถึงขั้นที่สมบูรณ์แบบ
เขามุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกแดนอยู่ในจุดที่สมบูรณ์แบบถึงขีดสุด เช่นนี้แล้วถึงจะทำให้มีรากฐานที่มั่นคงแข็งแรงได้ และสามารถเดินบนเส้นทางแห่งโลกยุทธ์ได้ไกลยิ่งขึ้น
จากนั้นพลังงานกฎที่เขาได้ดูดซับเข้ามาล้วนใช้เพื่อชุบร่างเนื้อและตัวสำนึก ภายในเลือดเนื้อ และกระดูกของเขา ได้ค่อย ๆ ปรากฏลายเส้นร่องรอยแห่งกฎที่ลึกลับมหัศจรรย์ยากที่จะเข้าใจขึ้นมา
ในสถานที่ที่แสนอันตรายอย่างเหวมรณะ หลัวซิวไม่กล้าที่จะทำตนให้อยู่ในสภาวะฝึกตน โดยทั้งหมด เขาได้แยกตัวสำนึกออกมาเล็กน้อย รวมเป็นหนึ่งเดียวกับกฎความตายที่อยู่โดยรอบ คอยสังเกตความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
และเขาก็ไม่กล้าใช้โลกาศุภรอยู่ในที่แห่งนี้ เพราะทันทีที่ชิ้นส่วนใจแห่งศุภรถูกนำออกมา ก็จะแผ่ซ่านรัศมีของกฎเวลาออกไป สร้างความรบกวนให้กับอสูรร้ายที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ได้โดยง่าย
สำหรับเรื่องสร้างค่ายกล ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะในทุกช่องอากาศล้วนกระจายไปด้วยพลังงานกฎที่เหนือกว่าระดับจ้าวนภา
……
“เหตุใดถึงยังไม่ออกมาอีก?”
ชายชราร่างผอมเล็กและผู้แข็งแกร่งเทพมารขั้นเจ็ดระดับสูงสุดทั้งเจ็ดคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ที่ได้รออยู่ที่ขอบแดนเหวมรณะ ต่างก็มีท่าทางเคร่งเครียด
“เมื่อสักครู่ได้เกิดการเคลื่อนไหวขึ้นอย่างรุนแรง จะต้องเป็นเพราะเกิดการต่อสู้ที่ด้านในอย่างแน่นอน ผ่านไปนานเช่นนี้แล้ว หรือว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น?”
ชายชราร่างผอมเล็กเองก็เป็นเทพฟ้าท่านหนึ่งของเขาปีศาจนรก ผลการฝึกตนของเขาอยู่ที่เทพฟ้าขั้นสอง ในบรรดาผู้แข็งแกร่งที่มานับได้ว่าเป็นธรรมดาเท่านั้น
แต่ต่อให้เป็นเทพฟ้าที่อ่อนแอที่สุด ก็ยังคงมีสถานะเป็นที่เคารพนับถือในพิภพกลาง สามารถสังหารเทพมารจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย
ทันใดนั้นเอง ชายชราร่างผอมเล็กก็ได้ขมวด และพลิกมือเอาป้ายบัญชาการชิ้นหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บของ
พบเพียงว่ามีไอมารสายหนึ่งได้พุ่งออกมาจากด้านในป้ายบัญชาการ ไอมารแปรผัน กลายเป็นใบหน้าของชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง ได้ตวาดกล่าว: “ซ่างกวนเจี้ยนตายแล้ว!”
“อะไรนะ?”
ชายชราร่างผอมเล็กสีหน้าเปลี่ยนไป “ศิษย์พี่ซ่างกวนมีผลการฝึกตนในระดับเทพฟ้าช่วงกลาง จะตายได้อย่างไร?”
“เจ้าอยู่ด้วยกันกับซ่างกวนเจี้ยน เจ้ามาถามข้า แล้วข้าจะไปถามใคร?” ใบหน้าของชายวัยกลางคนที่เกิดจากไอมารได้ตวาดออกมาอย่างเยือกเย็น: “กงเหยซุน บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
กงเหยซุน ร่างสั่นสะท้าน จากนั้นก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับชายวัยกลางคนคนนั้นฟัง
ชายวัยกลางคนผู้นี้ ก็คือจ้าวนภาแห่งเขาปีศาจนรก จ้าวนภาปีศาจนรก เป็นหนึ่งในจ้าวนภาที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้
“ข้าได้ใช้เคล็ดวิชารับหาตำแหน่งของเขา เทพฟ้าสามคน เทพมารระดับสูงสุดเจ็ดคนตามล่ามหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่ง ยังปล่อยให้มันหนีเข้าไปในเหวมรณะได้?”
จ้าวนภาปีศาจนรก ตวาดด้วยความโมโห: “ผู้อาวุโสตวนมู่สิ้นชีพไปก่อน ตอนนี้เขาปีศาจนรกของข้าก็ยังมาสูญเสียเทพฟ้าอีกคนไปอีก แถมยังเป็นเทพฟ้าช่วงกลางที่เป็นกำลังสำคัญ รากฐานโดยรวมของเขาปีศาจนรกของข้า เท่ากับได้ย้อนกลับไปแสนปีภายในชั่วพริบตา!”
“กงเหยซุน เจ้าคอยเฝ้าดูอยู่ที่นั่น ข้าจะไปที่นั่นเอง หากเจ้าหนุ่มคนนั้นหนีไปได้ ข้าจะเอาชีวิตเจ้าเสีย!”
เพิ่งพูดจบไปไม่ทันขาดคำ ไม่รอให้กงเหยซุน มีโอกาสได้พูด จ้าวนภาปีศาจนรก ก็ได้ตัดการติดต่อไปในทันที