มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1308
“โครม!”
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีหนึ่งของผู้แข็งแกร่งเทพฟ้า หลัวซิวปล่อยหมัดออกไปอย่างสิ้นหวัง การโจมตีที่ดูธรรมดาเรียบง่าย แต่ทว่าภายในการโจมตีนี้กลับมีท่วงทำนองของหลักการอันยิ่งใหญ่ที่เรียบง่ายอย่างที่สุดซ่อนแฝงอยู่
สกิลยุทธ์หมัดกระบี่!
วินาทีนี้ กำปั้นของเขาเหมือนดังกระบี่เล่มหนึ่ง เฉียบคมเป็นเลิศ เฉือนอากาศที่ว่างเปล่าจนดับหาย!
หมื่นจักรวาลไร้รูปวิวัฒนาการมาจากสกิลยุทธ์หมัดกระบี่ จากการที่หลัวซิวปรับพลังอมตะนี้ให้สมบูรณ์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง สกิลยุทธ์หมัดกระบี่จึงกลับมาอีกครั้ง และพลานุภาพของมันก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวด้วย
สกิลยุทธ์หมัดกระบี่ในอดีตถูกช่าจื่อเยียนประมาณค่าว่าเป็นต้นแบบของพลังอมตะ แต่สกิลยุทธ์หมัดกระบี่ในตอนนี้กลับไม่ใช่ต้นแบบอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นพลังที่สามารถเทียบทัดกับพลังอมตะแท้จริงได้!
โดยทั่วไปแล้วมีเพียงเทพฟ้าเท่านั้นถึงจะสามารถสร้างพลังอมตะขึ้นมาได้ แต่ผลการฝึกตนของหลัวซิวกลับอยู่เพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์ ก็สามารถปรับให้พลังอมตะหนึ่งกลับมาสมบูรณ์ครบถ้วน อยู่ในระดับที่เทียบทัดกับพลังอมตะแท้จริงได้!
ซึ่งนี่ก็หมายความว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวยังอยู่ห่างไกลจากเทพฟ้ามาก ๆ แต่การตระหนักรู้ในแดนยุทธ์ของเขากลับสามารถเทียบทัดกับเทพฟ้าขั้นสุดยอดได้แล้ว!
แสงสีดำนั่นแตกสลายเป็นฝุ่นผงไปด้วยหมัดเดียวของเขา ร่างเนื้อของเขาแข็งแกร่งมากจนไม่อาจเปรียบเทียบได้ ทำให้อากาศที่ว่างเปล่าบริเวณรอบ ๆ ถูกกดอัดจนผิดรูป
“ร่างเนื้อแข็งแกร่งเช่นนี้เลยหรือ?”
สีหน้าของซือถูเจิ้งเจี้ยนดูหวาดกลัว เห็นได้ชัดเจนเลยว่าผลการฝึกตนของฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์ แต่ร่างเนื้อกลับสามารถเทียบทัดกับร่างยุทธ์เทพฟ้าได้อย่างนั้นหรือ?
มาตรแม้นว่าอยู่ในมหาโลกายอดอัมพร ก็ไม่มีอัจฉริยะผู้ใดสามารถทำถึงขั้นนี้ได้ การถ่ายทอดสืบสานและทรัพยากรของโลกามนุษย์อ่อนมากจนไม่มีค่าให้พูดถึง แล้วเขาทำถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?
“หึ ต่อให้ร่างเนื้อแข็งแกร่งมากแล้วอย่างไร? ข้าก็สามารถอาศัยความแตกต่างของผลการฝึกตนมายับยั้งเจ้าได้อยู่ดี”จิตที่จะฆ่าของซือถูเจิ้งเจี้ยนเดือดพล่าน
หลัวซิวหัวเราะเยือกเย็นอย่างเหยียดหยาม“อาศัยร่างผันเทพฟ้าขั้น 3 กระจอก ๆ ยังไม่มีสิทธิ์สังหารข้า เจ้าเป็นถึงผู้แข็งแกร่งราชาเทพที่สง่างาม นึกไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีแม้กระทั่งความกล้าในการเอาร่างแท้ลงมาในโลกามนุษย์”
“การจะฆ่าหมูจำเป็นต้องใช้มีดฆ่าวัวด้วยหรือ? แค่ผู้น้อยมหาจักรพรรดิยุทธ์กระจอก ๆ มาตรแม้นว่ามีปัญญาความสามารถหน่อยแต่ก็ไม่ควรจองหองพองขนเช่นนี้ ร่างผันเทพฟ้าของข้าก็เพียงพอที่จะยับยั้งเจ้าได้อย่างสบาย ๆ แล้ว จากนั้นค่อยชักวิญญาณเจ้าออกมา ทำให้เจ้าตายไปพร้อมกับความเจ็บปวดที่ทุกข์ทรมาน!”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนตะคอกเสียงดังลั่น นิ้วทั้งสองนิ้วประกบกันเป็นรูปกระบี่ แทงนิ้วออกไป พลังกฎความตายรวมตัวกันจนกลายเป็นแสงสีดำดวงหนึ่ง พุ่งตรงไปทางจุดตันเถียนของหลัวซิวด้วยพลังแห่งนิพพานที่สามารถทำลายล้างสรรพสิ่งนับหมื่นได้
ถึงแม้ซือถูเจิ้งเจี้ยนในตอนนี้จะเป็นเพียงร่านผันเทพฟ้าหนึ่งร่าง แต่การควบคุมพลังกฎของเขากลับเป็นผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพ!
การโจมตีในครั้งนี้มีห้วงนิพพานที่สามารถทำลายล้างสรรพสิ่งนับหมื่นแฝงซ่อนอยู่ ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเจ้านภาก็ใช่ว่าจะสามารถต้านทานการโจมตีในครั้งนี้ได้
สีหน้าอารมณ์ของหลัวซิวดูตึงเครียดอย่างมาก ซือถูเจิ้งเจี้ยนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นเพียงร่างผันร่างหนึ่ง กลับเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดที่เขาเคยพบเจอ ร่างผันเทพฟ้าขั้น 3 ร่างหนึ่ง แต่ศักยภาพกลับแข็งแกร่งกว่าเจ้านภาทั่วไปเล็กน้อย เป็นตัวแทนของผู้แข็งแกร่งที่มีศักยภาพสูงสุดในพิภพกลาง!
“นัดเดียวนิพพาน!”
หลัวซิวกำหอกบังอยู่ตรงหน้าอกแล้วแทกหอกออกไป ยกระดับกฎความตายที่ตนตระหนักรู้และยึดกุมให้ถึงขั้นที่สูงที่สุด
แสงหอกที่แวววาวแยงตาเหมือนดังดาวตกหนึ่งดวง ปลดปล่อยออร่าการทำลายล้างที่เงียบสงัดจนน่าขนลุกออกมา
“ตู้มม!”
หอกของหลัวซิวและดรรชนีกระบี่ของซือถูเจิ้งเจี้ยนปะทะเข้าด้วยกัน เกิดการระเบิดที่รุนแรงในชั่วพริบตาเดียว คลื่นพลังม้วนซัดออกไป ทำให้พลังกฎอันเข้มข้นที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ถูกบีดจนแยกออก กลายเป็นเขตสุญญากาศเขตหนึ่ง
หลัวซิวสัมผัสได้แค่ว่ามีพลังที่น่าสยดสยองอย่างไร้ขอบเขตพรั่งพรูออกมา ระดับของพลังกฎที่แฝงซ่อนอยู่ในดรรชนีกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามกดอัดพลังกฎของเขาไปได้อย่างง่ายดาย หอกแสงที่รวมตัวกันจากนัดเดียวนิพพานก็พังทลายจนดังสะเทือนเลือนลั่น!
แสงสีดำที่น่ากลัวได้พังทลายแสงหอกไป มันยังคงพุ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วสูง พลังของแสงสีดำนั่นไม่ลดหลั่นลงไปเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าวินาทีต่อไปมันก็จะยิงทะลวงจุดตันเถียนของหลัวซิวแล้ว