เซียวจื่อเจี้ยนพาหลัวซิวเทเลพอร์ต วินาทีต่อไปพวกเขาก็ปรากฏอยู่ในตำหนักที่สูงตระหง่านแล้ว
แสงเทียนที่อยู่ภายในอ่อนพริ้ว พื้นที่ของตำหนักหลังนี้กว้างใหญ่มาก ๆ แต่แสงที่อยู่ภายในกลับมืดสลัว
เซียวจื่อเจี้ยนก็อยู่ที่นี่ด้วย ปีศาจเก้าของหุบเขาปีศาจเก้าต่างรวมกันอยู่ที่นี่
“หื้ม? ท่านพี่ทั้งหลายกลับมาฝึกตนปิดขังกันมิใช่หรือ เหตุใดถึงออกมาทั้งหมดแล้วล่ะ?”เซียวจื่อเจี้ยนถามอย่างรู้สึกสงสัย
“ท่านพี่ใหญ่ให้พวกเราออกมา ข้าก็มิทราบเช่นกันว่าเป็นเพราะเหตุใด”ปีศาจสองเซี่ยหลงเทียนส่ายหน้าพลางตอบกลับ
ภายในชั่วพริบตา สายตาของทุกคนก็จ้องมองไปทางปีศาจยักษ์ที่นั่งอยู่บนตำแหน่งที่สูงสุด บนตัวเขามีชุดคลุมยาวสีแดงหม่นคลุมอยู่ ใบหน้าค่อนข้างขาวซีดคล้ายคนป่วย สีหน้าท่าทางเรียบนิ่ง ไม่มีความรู้สึกใด ๆ ปรากฏบนใบหน้า
“เมื่อไม่นานมานี้ข้าสัมผัสได้ว่ามีพลังออร่าหนึ่งที่แข็งแกร่งมาก ๆ ย่างกรายมาในโลกาอสูรฟ้า ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมาก ๆ ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่มาจากพิภพอื่น”ปีศาจยักษ์พูดกดเสียงต่ำ
“ผู้แข็งแกร่งจากพิภพอื่น?”ปีศาจยักษ์ทั้งหลายที่นั่งอยู่ต่างทำหน้าอึ้งทึ่ง
จากความเข้าใจของพวกเขาที่มีต่อปีศาจยักษ์ ต้องทราบเป็นธรรมดาอยู่แล้วว่าการที่สามารถทำให้เขาบอกว่าเป็นพลังออร่าที่แข็งแกร่งมาก ๆ นั้น พอจะเห็นได้เลยว่าประวัติความเป็นมาของฝ่ายตรงข้ามไม่ธรรมดา อย่างน้อยก็ระดับเจ้านภา!
“ข้ามีลางสังหรณ์ว่ามีภัยพิบัติครั้งใหญ่กำลังจะมาเยือนหุบเขาปีศาจเก้าของเรา เพราะฉะนั้นข้าถึงได้ให้น้องทุกท่านออกจากการปิดขังพร้อมกัน”
ปีศาจยักษ์ค่อย ๆ เอ่ยปากพูด นำสายตาจับจ้องไปทางหลัวซิว“น้องชายสามารถอยู่ในเหวมรณะได้เป็นครึ่งปี อีกทั้งยังมีชีวิตรอดกลับมาได้ด้วย สิ่งนี้เพียงพอที่จะทำให้เห็นแล้วว่าเจ้าก็เป็นผู้ที่มีโอกาสยิ่งใหญ่ อนาคตของเจ้าต้องไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน!”
“หากเรื่องนี้เกิดขึ้นในอดีต ข้าหวังว่าเจ้าจะได้กลายเป็นปีศาจสิบของหุบเขาปีศาจเก้า เมื่อมีการชี้แนะและชะเง้อจากพวกเราเทพฟ้าทั้งเก้าคน เส้นทางในอนาคตของเจ้าต้องสว่างไสว การกลายเป็นเทพฟ้าหรือเจ้านภานั้นก็ไม่มีปัญหา!”
“แต่บัดนี้ข้ากลับมีลางสังหรณ์ว่ากำลังมีภัยพิบัติมาเยือน หากเจ้าไม่อยากมีฐานความผิดฆ่าคนติดตัว สามารถจากไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้”
ในขณะที่พูดทั้งหมดนี้อยู่นั้น จ้าวนภาปีศาจยักษ์คนนี้ก็ยังคงสุขุมเรียบนิ่งอยู่เช่นเคย ราวกับถึงแม้หุบเขาปีศาจเก้าจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่ทำให้หุบเขาปีศาจเก้าล่มสลาย ก็ไม่สามารถทำให้เขาสะเทือนอารมณ์ได้เลยแม้แต่น้อย
มุมปากของหลัวซิวกระตุกครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าจ้าวนภาปีศาจยักษ์นี้เป็นผู้ที่ลึกซึ้งมากจนมิอาจคาดเดาได้ ฝ่ายตรงข้ามถึงกับสามารถสัมผัสได้ถึงชะตากรรมของหุบเขาปีศาจเก้าอย่างเหลือเชื่อ ทราบว่ากำลังจะมีภัยพิบัติมาเยือน
แต่ทว่าหลัวซิวกลับเข้าใจดีมาก ๆ ว่าการที่เขาหนีมาหุบเขาปีศาจเก้า ภัยพิบัติที่กล่าวมานั้น แท้จริงแล้วเขาเป็นคนนำพามาเอง!
จ้าวนภาปีศาจยักษ์ไม่อยากให้เขาถูกภัยพิบัติในครั้งนี้กระทบ ให้เขาจากไป หากพวกเขาทราบว่าภัยพิบัติดังกล่าวเป็นภัยที่เขานำพามา ก็ไม่ทราบเช่นกันว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร?
หลังจากที่หลัวซิวมาถึงหุบเขาปีศาจเก้าได้ไม่นาน ในตำแหน่งที่ห่างจากหุบเขาปีศาจเก้าประมาณหลายแสนไมล์ เรือรบลำหนึ่งกำลังบินลอยตรงมาอยู่บนนภา
ปริมาตรของเรือรบลำนี้ใหญ่มาก ๆ ตัวเรือกลั่นมากจากร่างเนื้อของอสูรโหดนิรนาม ลักษณะภายนอกดูดุร้ายน่าเกรงขาม
ส่วนศีรษะของอสูรโหด ถูกประกอบเป็นชั้นดาดฟ้าของเรือรบ ซือถูเจิ้งเจี้ยนไขว่มือทั้งสองข้างไว้ด้านหลังพลางแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น“หุบเขาปีศาจเก้า?”
จ้าวนภาปีศาจนรก จ้าวปีศาจเขาเดียวรวมไปถึงเทพฟ้าทั้งสี่ต่างยืนอยู่ด้านหลังซือถูเจิ้งเจี้ยน ก่อนหน้านี้ซือถูเจิ้งเจี้ยนเคยกล่าวแล้วว่า การเดินทางมาหุบเขาปีศาจเก้าในครั้งนี้ มาเพื่อสังหารคนคนหนึ่ง
แต่ทว่ารายละเอียดเรื่องที่ว่ามาสังหารผู้ใดนั้น ซือถูเจิ้งเจี้ยนไม่ได้บอก พวกเขาจึงไม่ทราบเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
“หรือว่าผู้ที่ราชาเทพซือถูจะสังหารคือปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิว?”จ้าวนภาปีศาจนรกขมวดคิ้วลงเล็กน้อย
เป็นเจ้านภาเหมือนกัน ศักยภาพเจ้านภาก็มีการแบ่งระดับสูงต่ำเช่นกัน เจ้านภาในโลกาอสูรฟ้ามีประมาณเจ็ดแปดคน อันดับศักยภาพของจ้าวนภาปีศาจนรกถือว่าอยู่ค่อนข้างท้าย ส่วนปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิวจากหุบเขาปีศาจเก้ากลับเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีศักยภาพมากพอที่จะอยู่อันดับหนึ่งในสามได้
“แฮะ ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าปีศาจยักษ์จะรุกรานราชาเทพซือถู ถึงแม้ผลการฝึกตนของราชาเทพจะถูกกดอัดลงมาที่แดนเจ้านภาเมื่อลงมาในโลกามนุษย์ แต่ทว่าเป็นเจ้านภาเหมือนกัน ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของราชาเทพซือถู”