มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1347
ผู้อาวุโสชุดคลุมหยินหยางนี้เป็นบุคคลระดับผู้อาวุโสในสำนักหยินหยางแดนกฎของเขาสูงมาก สุดถึงขั้นที่หลัวซิวไม่สามารถคาดคะเนได้ แต่ทว่าเมื่ออาศัยพลังอมตะอย่างหมื่นจักรวาลไร้รูปมาวิวัฒนาการวิชาแห่งสรรพสิ่งแล้ว เขาก็ถึงกับจับแก่นสารที่อยู่ในค่ายกระบี่มหาเบญจธาตุได้เล็กน้อย!
การค้นพบนี้ทำให้หลัวซิวรู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างมาก จากการที่เขาปรับแก้พลังอมตะอย่างหมื่นจักรวาลไร้รูปให้สมบูรณ์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนจะเริ่มมีแนวโน้มวิวัฒนาการห้วงของสรรพวิชาออกมาได้เล็กน้อยแล้ว!
วินาทีนี้ เขาจึงใช้หนึ่งจักรวาลไร้รูปมาวิวัฒนาการความเร้นลับของค่ายกระบี่มหาเบญจธาตุนี้!
ขอเพียงสามารถทำความเข้าใจกับความเร้นลับของค่ายกระบี่ค่ายนี้ได้ หากเป็นเช่นนั้น เขาไม่เพียงสามารถอดทนอยู่ในค่ายกระบี่ได้นานขึ้น การจะทำลายค่ายกลนี้นั้น ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!
ร่องรอยกฎถูกหลัวซิวไล่จับได้ทีละน้อย จากนั้นภายใต้การวิวัฒนาการของหมื่นจักรวาลไร้รูป ก็กลายเป็นการตระหนักรู้ของเขาที่มีต่อกฎ
วินาทีนี้เขาเหมือนผู้ขโมยคัดลอกวิชาของผู้อื่นยังไงอย่างนั้น จากการใช้พลังอมตะอย่างหมื่นจักรวาลไร้รูป ขโมยคัดลอกการตระหนักรู้กฎที่ผู้อาวุโสชุดคลุมหยินหยางผู้นี้ร่ายเข้าไปในค่ายกระบี่มหาเบญจธาตุ
หลัวซิวสัมผัสได้ลาง ๆ ว่าหากปรับแก้หมื่นจักรวาลไร้รูปให้สมบูรณ์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาก็จะสามารถวิวัฒนาการสรรพวิชาออกมาได้จริง ๆ เช่นกันก็เท่ากับว่าตนไม่จำเป็นต้องตระหนักรู้กฎเบญจธาตุอย่างสุดความสามารถ ก็สามารถยึดกุมกฎเบญจธาตุผ่านหมื่นจักรวาลไร้รูป?
ตัวเขาเองเริ่มฝึกตนและตระหนักรู้กฎชั้นยอดทั้งสี่อย่างการเวียนว่ายตายเกิดและห้วงเวลาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หากฝึกกฎเบญจธาตุเพิ่ม และอาศัยกฎทั้งปวงนี้มาวิวัฒนาการหยินหยาง ตรีภพ เช่นนั้นเขาก็แทบจะยึดกุมกฎธรรมฟ้าดินทั้งหมดในโลกนี้เลยสิ!
เป็นคนหนึ่งที่แทบจะยึดกุมกฎธรรมฟ้าดินทั้งปวงในโลกนี้ นี่จึงทำให้หลัวซิวรู้สึกเหมือนตัวเองเปิดประตูบานแรกที่มุ่งสู่แดนสูงสุดในโลกยุทธ์ออกแล้ว และพลังอมตะอย่างหมื่นจักรวาลไร้รูป ก็คือกุญแจที่ใช้เปิดประตูบานใหญ่นี้นั่นเอง!
“ค่ายกระบี่มหาเบญจธาตุ!”
หลัวซิวค่อย ๆ ยกมือขึ้นมา ใช้นิ้วมือทั้งห้าให้สอดคล้องกันกับเบญจธาตุทั้ง 5 วิวัฒนาการค่ายกระบี่หนึ่งค่ายขึ้นมา
ค่ายกระบี่ที่เขาวิวัฒนาการขึ้นมา ไม่ได้ยิ่งใหญ่โอ่อ่าอย่างค่ายกระบี่ของผู้อาวุโสชุดคลุมหยินหยาง แต่กลับคล้ายแก่นสารที่ข้นเหนียว มีความลึกลับและมหัศจรรย์ที่ลึกซึ้งกว่าแฝงซ่อนอยู่
“โครม!”
ค่ายกระบี่มหาเบญจธาตุที่ผู้อาวุโสชุดคลุมหยินหยางวางไว้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จากนั้นมันก็พังทลายลงไปในทันที เหลือเพียงค่ายกระบี่มหาเบญจธาตุที่หลัวซิววิวัฒนาการขึ้นมาด้วยฝ่ามือตัวเองยังคงโคจรอยู่ มีพลังออร่าที่ดุดันและเฉียบคมแผ่กระจายออกมา
“ว่าอย่างไรนะ? นี่มันล้อเล่นกันหรือ?”
พวกสวีชิงซานมองดูจนตาค้างไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้แต่หนุ่มชุดทองที่แซ่หวังผู้นั้นก็อดทนอยู่ในค่ายกระบี่ได้ครึ่งชั่วโมง แต่เขาก็ไม่ถึงขั้นที่สามารถทำลายค่ายกระบี่ได้
ถึงอย่างไรผู้อาวุโสชุดคลุมหยินหยางก็เป็นผู้อาวุโสระดับราชาเทพอยู่ การควบคุมกฎเบญจธาตุของเขาบรรลุถึงระดับที่สูงมาก ๆ มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งราชาเทพเหมือนกัน แต่การจะทำลายค่ายกระบี่ที่เขาแสดงออกมานั้นก็ทำได้ยากมาก ๆ แล้วนับประสาอะไรกับศิษย์วัยรุ่นอย่างพวกเขาล่ะ?
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกช็อกและสงสัยคือ หมอนี่เป็นเพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 7 คนหนึ่ง แต่เขากลับสามารถทำเช่นนี้ได้อย่างนั้นหรือ
แม้จะเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมาก ๆ แต่ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้กลับจริงแท้มาก เขาทำเช่นนี้ได้อย่างไรกันแน่?
ใบหน้าของหนุ่มชุดทองที่แซ่หวังผู้นั้นหม่นหมองลงไป เขาทราบอยู่แก่ใจดีว่าตนไม่มีทางทำลายค่ายกระบี่ที่ผู้อาวุโสชุดคลุมหยินหยางกระตุ้นออกมาได้แน่นอน เดิมทีคิดว่าตัวเองต้องเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดของการฝึกปรือในครั้งนี้แน่นอน แต่ทว่าจู่ ๆ บัดนี้กลับมีหมอนี่ผุดออกมาอย่างไม่คาดคิด นี่จึงทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมากถึงมากที่สุด
วินาทีนี้อย่าว่าแต่เหล่าศิษย์วัยรุ่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุเลย แม้แต่ผู้ควบคุมการประเมินผลอย่างผู้อาวุโสชุดคลุมหยินหยางก็ผงะคาที่
สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปทางหลัวซิว เขาอยู่ในชุดคลุมยาวสีดำทั้งตัว สีหน้าท่าทางเรียบนิ่ง เห็นเพียงเขายกมือขึ้นฟ้าแล้วกำมือ ค่ายกระบี่มหาเบญจธาตุก็ถูกเขาเก็บเข้าไปอย่างสบายมือ
สีหน้าท่าทางของเขาดูเรียบนิ่งมาก ๆ สีหน้าไม่มีความหยิ่งยโสถือดี ไม่เหมือนผู้ใช้อำนาจบาตรใหญ่เลยแม้แต่น้อย
“เจ้าทำดีมาก!”