ทั้งสามขั้นตอนในฐานหยินหยาง สอดคล้องกับแดนกฎหยินหยางดั้งเดิม
ขั้นตอนแรกสอดคล้องกับแดนกฎดั้งเดิมขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ขั้นตอนที่ 2 สอดคล้องกับแดนขั้นที่ 3 และขั้นที่ 4 ส่วนขั้นตอนที่ 3 นั้นสอดคล้องกับขั้นที่ 5 และขั้นที่ 6
มีเพียงฝึกกฎดั้งเดิมประเภทหนึ่งให้บรรลุถึงแดนบริบูรณ์ ถึงจะสามารถบรรลุเป็นเทพฟ้าได้ การจะยึดกุมกฎดั้งเดิมขั้นที่ 2 นั้น เรื่องนี้ไม่ถือเป็นเรื่องยากสำหรับอัจฉริยะส่วนมาก
แต่ถ้าหากอยากบรรลุจากเทพฟ้าไปเป็นราชาเทพนั้น กลับจำเป็นต้องฝึกกฎดั้งเดิมประเภทหนึ่งให้บรรลุถึงขั้น 3 บริบูรณ์ หลังจากที่บรรลุเป็นราชาเทพแล้ว ก็จะยึดกุมกฎดั้งเดิมขั้น 4
ราชาเทพเป็นธรณีประตูที่อัจฉริยะจำนวนมากต่างต้องเผชิญ แดนกฎดั้งเดิมยิ่งสูงเท่าไหร่ ความยากในการตระหนักรู้ก็จะเพิ่มมากเท่านั้น ถึงแม้ผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าจะสามารถมีชีวิตยืนยาวได้หลายแสนปี แต่ก็ยังคงมีอัจฉริยะจำนวนมากไม่สามารถฝึกถึงขั้น 3 บริบูรณ์ จึงทำลายประตูแห่งกฏเกณฑ์แดนราชาเทพไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ ระยะเวลาที่บรรลุเป็นเทพมารยิ่งเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีเวลาบรรลุขึ้นไปยังแดนที่สูงกว่ามากเท่านั้น ศักยภาพในการพัฒนาก็ยิ่งมาก ซึ่งนี่เป็นมาตรฐานในการวัดระดับของอัจฉริยะ
เนื่องจากจำนวนผู้ที่เข้าไปตระหนักรู้กฎดั้งเดิมในฐานหยินหยางมีจำกัด เพราะฉะนั้นทุก ๆ หนึ่งพันปี สำนักหยินหยางถึงจะเปิดให้คนรุ่นใหม่เข้าร่วมการตระหนักรู้หนึ่งครั้ง ส่วนสิทธิ์ในการเข้าร่วมนั้น ส่วนมากจะเสนอให้แก่ผู้ที่มีความหวังบรรลุเป็นราชาเทพ หรือแม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งที่กำลังจะบรรลุถึงแดนมกุฎเทพ และผู้ที่ตระหนักรู้ความเร้นลับของกฎหยินหยางดั้งเดิมที่อยู่ในขั้นตอนที่ 2 กับขั้นตอนที่ 3
“หลังจากที่พวกเจ้าเข้าไปในขั้นตอนแรกของฐานหยินหยางแล้ว ทุกคนล้วนมีเวลาตระหนักรู้ความลึกลับและมหัศจรรย์ของกฎหยินหยางสิบวันเท่านั้น หลังจากผ่านไปสิบวัน จะมีการประเมินผลอีกครั้ง ผู้แพ้ตกรอบ ผู้ที่ผ่านการประเมินจะได้รับโอกาสตระหนักรู้กฎหยินหยางขั้นตอนแรกในฐานหยินหยางต่อไป!”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น ผู้อาวุโสชุดคลุมหยินหยางก็ยกมือขึ้นมาเสกวิชาหนึ่ง ก่อนจะปล่อยรัศมีเทวสีขาวดำที่ตัดสลับกันออกมา
“โครมคราม……”
ตรงกลางของกำแพงที่อยู่ตรงหน้าทุกคนแยกออก ก่อนที่มันจะค่อย ๆ เลื่อนไปด้านหลัง เหมือนประตูบานใหญ่กำลังเปิดออกยังไงอย่างนั้น
หลังจากที่ประตูใหญ่ถูกเปิดออกแล้ว ก็มีเส้นทางที่มืดสลัวทางหนึ่งมุ่งสู่เขตพื้นที่นิรนาม ซึ่งนี่คือฐานหยินหยางที่แท้จริง!
ชั่วพริบตาเดียว วัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศทั้ง 20 คนก็ดูตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที
ระดับของกฎหยินหยางอยู่เหนือเบญจธาตุทั้ง 5 หากมีการตระหนักรู้จากกฎหยินหยาง ยึดกุมความเร้นลับดั้งเดิมของกฎไท่หยินหรือพระอาทิตย์ เช่นนั้นประโยชน์ที่ส่งถึงตัวเราเองก็จะยิ่งเลิศมากจนไม่อาจจินตนาการได้อย่างแน่นอน
แม้แต่ตัวหลัวซิวเองก็รู้สึกตื้นตันจนสงบใจไว้ไม่อยู่ เนื่องจากกฎหยินหยางเป็นแขนงย่อยของกฎการเวียนว่ายตายเกิด หากเขาได้รับผลสำเร็จจากการตระหนักรู้ในกฎหยินหยางละก็ เขาไม่เพียงสามารถใช้ทั้งสองกฎมายืนยันกันและกัน เพื่อยกระดับการตระหนักรู้กฎความเป็นความตายของตัวเองแล้ว ยังสามารถยกระดับแดนกฎเบญจธาตุได้ด้วย เพราะหยินหยางและเบญจธาตุทั้ง 5 เชื่อมโยงถึงกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“อนาคตเป็นของวัยรุ่นอย่างพวกเจ้า คว้าโอกาสในครั้งนี้ไว้ดี ๆ ซะเถอะ!”
ผู้อาวุโสชุดคลุมหยินหยางใช้นิ้วชี้ไปทางฐานหยินหยาง จากนั้นวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศทั้ง 20 คนก็พากันเดินขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อหลัวซิวเดินเข้าไปในฐานหยินหยาง ก็สัมผัสได้ทันทีว่าห้วงเวลาบริเวณรอบ ๆ เหมือนจะบิดเบี้ยวไป
ผู้ที่เดินเข้าไปในฐานหยินหยางพร้อมกับเขาหายไปหมดแล้ว ภายในพื้นที่ที่มืดสลัว เหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น ข้างหน้าคือเส้นทางคับแคบเส้นหนึ่งที่มุ่งไปสู่เขตพื้นที่นิรนาม
เขาหันหน้ากลับไปมอง กลับพบว่าด้านหลังมืดสลัวหมด เส้นทางที่เดินผ่านมาก็หายไปแล้ว ทางเข้าของฐานหยินหยางไม่คงอยู่อีกต่อไป
“ฐานหยินหยางนี่ช่างเป็นสถานที่ที่แปลกประหลาดจริง ๆ”
หลัวซิวคาดการณ์ว่าผู้ที่เดินเข้ามาในฐานหยินหยางพร้อมกับเขา น่าจะถูกส่งไปยังพื้นที่แตกต่างกัน สิ่งเดียวที่เขาไม่สามารถยืนยันได้นั่นก็คือภาพเหตุการณ์ที่คนอื่น ๆ พบเจอเมื่ออยู่ในฐานหยินหยางจะเป็นอย่างเช่นตนหรือไม่