มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1353
“หลังจากตระหนักรู้กฎหยินหยางครบสิบวัน จะมีการประเมินผลหนึ่งครั้ง หลังจากผ่านการประเมินผล สามารถอยู่ตระหนักรู้ในฐานหยินหยางต่อได้ ข้าต้องคว้าโอกาสในครั้งนี้ไว้ให้ได้”
หลัวซิวคิดเช่นนี้อยู่ในใจ เขาอยู่ภายใต้แสงสว่างอันโชติช่วงที่เปล่งประกายออกมาจากบัญชาหยินหยาง ถูกส่งออกมาในตำหนักเมื่อครู่นี้
เขาแหงนหน้าขึ้นไปมอง พบว่าคนอื่น ๆ ก็ถูกส่งออกมาเช่นกัน สีหน้าของทุกคนดูไม่ค่อยพอใจ เพราะถึงอย่างไรไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่ถูกขัดขณะการตระหนักรู้ ก็ต้องรู้สึกไม่พอใจกันทั้งนั้น
“ทุกคนตามข้ามา”
ผู้รับผิดชอบการประเมินยังคงเป็นผู้อาวุโสชุดคลุมหยินหยางผู้นั้นเช่นเคย คนดังกล่าวแซ่หวู เป็นผู้อาวุโสราชาเทพคนหนึ่งของสำนักหยินหยาง
ภายใต้การนำพาของผู้อาวุโสหวู คนกลุ่มหนึ่งมาถึงห้องลับที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ห้องหนึ่ง
ตรงกลางห้องลับมีค่ายกลหนึ่งที่มีแสงสว่างงดงามเปล่งประกาย จากระดับความสามารถทางค่ายกลของหลัวซิว เขาก็ดูระดับของค่ายกลดังกล่าวไม่ออกเช่นกัน ยืนยันได้เพียงนี่คือค่ายเสวียนค่ายหนึ่ง
“ค่ายเสวียนค่ายมีนามว่าค่ายใหญ่ฝึกปรือหยินหยาง เมื่อเดินเข้าไปในค่ายเสวียน พวกเจ้าก็จะจมดิ่งสู่ภาพมายา ต้องเข่นฆ่ากับศัตรูที่ปรากฏในภาพมายา แต่สิ่งที่ข้าจะบอกพวกเจ้าคือหากได้รับบาดเจ็บในภาพมายา ร่างแท้ของพวกเจ้าก็จะได้รับบาดเจ็บเช่นกัน หรือแม้กระทั่งอันตรายถึงชีวิต! เพราะฉะนั้นหากพวกเจ้าอดทนต่อไปไม่ไหว ขอเพียงตะโกนคำว่าข้าขอสละสิทธิ์ดัง ๆ ก็จะหลุดพ้นจากภาพมายา กลับมาถึงโลกความเป็นจริง!”
“นอกเหนือจากนี้แล้ว เมื่ออยู่ในภาพมายา พวกเจ้าจะโคจรได้เพียงเบญจธาตุทั้ง 5 และกฎหยินหยางเท่านั้น สังหารคู่ต่อสู้ห้าคนถือว่าผ่านด่าน สังหารคู่ต่อสู้สิบคนจะได้รับของรางวัล ยิ่งฆ่าคู่ต่อสู้มากเท่าไหร่ ของรางวัลที่ได้รับก็ยิ่งมากเท่านั้น!”
“แน่นอนอยู่แล้วว่า หากไม่สามารถสังหารคู่ต่อสู้แม้แต่ห้าคนได้ เช่นนั้นก็เท่ากับไม่ผ่านการประเมิน จะถูกยึดบัญชาหยินหยางและตกรอบไป!”
เสียงของผู้อาวุโสหวูเย็นชามาก อีกทั้งดุดันด้วย หลังจากเหล่าวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศได้ยินแล้วก็ต่างรู้สึกตื่นเต้น กระวนกระวายอยู่เล็กน้อย แต่ทว่าอัจฉริยะอย่างหยุนจื่อซูและหวางยู่ซวนกลับไม่เป็นเช่นนั้น เป้าหมายของพวกเขาไม่เพียงต้องผ่านการประเมินเท่านั้น แต่ต้องได้รับผลการประเมินที่ดีมากเป็นพิเศษ และได้รับของรางวัล!
ในการฝึกปรือและการประเมินผลที่ต้องแข่งขันกันเช่นนี้ สำหรับของรางวัลและการบ่มเพาะ สำนักหยินหยางไม่เคยตระหนี่ขี้เหนียวต่อศิษย์ในสำนักของตัวเองเลย
มาตรแม้นว่าเป็นผู้ที่ไม่ใช่ศิษย์ในสำนักหยินหยางอย่างหลัวซิว หากแสดงศักยภาพออกมาได้ดีมากเป็นพิเศษเมื่อฝึกปรืออยู่ในฐานหยินหยาง ก็จะได้รับรางวัลเช่นกัน ในส่วนของเรื่องที่ว่าจะเข้าร่วมสำนักหยินหยางหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของตัวเราอีกที
แต่ทว่าโดยทั่วไปแล้วคนมักจะเลือกเข้าร่วมสำนักหยินหยางเนื่องจากมีเพียงเข้าร่วมสำนักหยินหยางอนาคตเมื่อผลการฝึกตนสูงขึ้น ถึงจะมีโอกาสเข้ามาตระหนักรู้กฎหยินหยางในฐานหยินหยางได้อีกครั้ง
“ลำดับต่อไปข้าขอประกาศ การประเมินผลเริ่มต้นขึ้นแล้ว เริ่มที่เจ้าก่อนเป็นลำดับแรก!”
ผู้อาวุโสหวูใช้นิ้วชี้ไปทางวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศคนหนึ่ง คนดังกล่าวเดินเข้าไปในค่ายเสวียนด้วยสภาพจิตใจที่ไม่แน่วแน่ ยืนอยู่ตรงกลางค่ายกล จากนั้นร่างเขาก็ยืนนิ่งลงไปในทันที
เขาจมดิ่งสู่ภาพมายาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังเข่นฆ่ากับคู่ต่อสู้ที่ปรากฏในภาพมายาอยู่
นี่เป็นครั้งแรกที่เหล่าวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศทุกคนเข้าร่วมฐานหยินหยางฝึกปรือครั้งแรก ไม่มีผู้ใดทราบเลยว่าสถานการณ์ในภาพมายาของค่ายใหญ่ฝึกปรือหยินหยางเป็นอย่างไรกันแน่
การฝึกปรือในฐานหยินหยางจะเปิดให้วัยรุ่นยุคใหม่เข้าร่วมเพียงพันปีต่อหนึ่งครั้ง ซึ่งนี่ก็หมายความว่าถึงแม้จะเป็นศิษย์ของสำนักหยินหยางตราบใดที่ผลการฝึกตนยังบรรลุไม่ถึงเทพฟ้า ก็จะไม่มีโอกาสเข้ามาตระหนักรู้กฎในฐานหยินหยางได้อีก
อีกอย่างถึงแม้จะบรรลุจนกลายเป็นเทพฟ้าแล้ว หากไม่มีศักยภาพที่สามารถบรรลุสู่ราชาเทพได้ ก็จะไม่ได้รับสิทธิ์เข้ามาในฐานหยินหยางเช่นกัน
ฐานหยินหยางเป็นสถานที่บังเกิดอัจฉริยะ ทันทีที่ตกรอบ บางทีผลสำเร็จในอนาคตมากสุดก็เป็นได้เพียงเทพฟ้า เมื่อมองในมุมสรรพมหาโลกา เทพฟ้าก็เป็นเพียงเม็ดทรายเล็ก ๆ ที่ไม่มีค่าอะไรในนานามนุษย์และสรรพสัตว์