มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1360
อย่าว่าแต่สังหารคู่ต่อสู้ 15 คนภายในเวลาครึ่งชั่วโมงเลย การที่สามารถสังหารคู่ต่อสู้คนที่ 15 ภายในเวลาครึ่งชั่วโมงได้นั้น ก็ถือว่าคนดังกล่าวเก่งมาก ๆ แล้ว
แต่ทว่าหลัวซิวผู้นี้กลับเอาชนะคู่ต่อสู้ที่อยู่ในค่ายเสวียนหยินหยางได้เรื่อย ๆ ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงครึ่งชั่วโมงก็สังหารคู่ต่อสู้ไปแล้ว 15 คน นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?
หยุนจื่อซูรู้สึกเหลือเชื่อมาก ๆ แม้นว่าเป็นอาจารย์นักพรตของสำนักหยินหยางครั้นเมื่อยังเป็นวัยรุ่นเขาก็ไม่มีทางมีศักยภาพที่แข็งแกร่งเช่นนี้อย่างแน่นอน ประวัติความเป็นมาของหมอนี่เป็นอย่างไรกันแน่?
ศิษย์สนิทสายผู้อาวุโสต่าง ๆ กำลังวิพากษ์วิจารณ์อยู่ข้าง ๆ โดยเฉพาะหวางยู่ซวน สีหน้าของเขาม่วงช้ำมากถึงขั้นสุด เมื่อครู่นี้เขายังแอบถากถางหลัวซิวอยู่เลยว่าเป็นผู้ไม่ประมาณตน แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับใช้ผลการประเมินที่แท้จริงมาตบหน้าเขาแรง ๆ
“เจ้าทำดีมาก”
หยุนจื่อซูเดินออกมาจากกลุ่มคน นำสายตาจับจ้องไปทางหลัวซิว ในแววตามีความต้องการต่อสู้แวววาวเล็กน้อย
เดิมทีฐานหยินหยางฝึกปรือในครั้งนี้ เขาไม่เคยนำผู้ใดมาไว้ในสายตาเลยแม้แต่ผู้เดียว มาตรแม้นว่าเป็นเหล่าศิษย์ของผู้อาวุโสที่มีพรสวรรค์เป็นเลิศอย่างหวางยู่ซวน เมื่ออยู่ในสายตาเขา คุณค่าของหวางยู่ซวนก็มีเท่านั้นแหละ
เพราะฉะนั้นสีหน้าอารมณ์ของเขาจึงดูสุขุมมาโดยตลอด เนื่องจากเขาไม่นึกว่าจะมีผู้ใดสามารถอยู่เหนือตัวเองได้
อย่างไรก็ตามวินาทีนี้กลับมีม้ามืดตัวหนึ่งผุดออกมากลางคัน ไม่เพียงระดับฝีมือด้านกฎเบญจธาตุสูง แต่ยังได้รับคำชมจากผู้อาวุโสหวูด้วย ดูเหมือนกับว่ากฎหยินหยางของฝ่ายตรงข้ามก็มีความคืบหน้าไม่น้อยเช่นกัน มิเช่นนั้นเขาไม่มีทางสังหารคู่ต่อสู้ 15 คนในค่ายเสวียนหยินหยางได้อย่างแน่นอน
และประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ ผลการฝึกตนของฝ่ายตรงข้ามยังอยู่ต่ำกว่าตัวเองด้วย!
ฝึกจนบรรลุขึ้นมาถึงแดนเทพมารด้วยอายุกระดูกเพียง 50 กว่าปี หยุนจื่อซูมีท่าทางที่โอหังอวดดีของตัวเอง เขาจะไม่อนุญาตให้ตัวเองพ่ายแพ้ให้กับผู้ที่มีฐานะสังคมและผลการฝึกตนต่ำกว่าตัวเองเด็ดขาด
เดิมทีเขาแค่วางแผนจะมาเล่นในฐานหยินหยางฝึกปรืออย่างสบาย ๆ แต่ทว่าวินาทีนี้ เขาจริงจังขึ้นมาแล้ว!
“บางทีข้าอาจจะไม่สามารถสังหารคู่ต่อสู้ 15 คนภายในเวลาครึ่งชั่วโมงอย่างเจ้าได้ แต่อย่างน้อยข้าสามารถสังหารคู่ต่อสู้ในค่ายเสวียนได้ 20 คน!”
หยุนจื่อซูมั่นใจในตัวเองมาก ๆ เหมือนกำลังพูดเรื่องที่เล็กน้อยมากจนไม่มีค่าให้พูดถึงยังไงอย่างนั้น
สำหรับคำพูดดังกล่าว หลัวซิวแค่ยิ้มตอบ เนื่องจากเขาไม่ได้มาเพื่อเปรียบเทียบกับผู้ใดในนี้อยู่แล้ว
พรสวรรค์ของหยุนจื่อซูผู้นี้ หากมองในมุมมหาโลกาใบหนึ่ง ในบรรดาพรสวรรค์ขั้นสุดยอดทั้งหมด เขาก็เป็นเพียงผู้ที่ความสามารถค่อนข้างธรรมดาเท่านั้น และเขตพื้นที่ของมหาโลกาใบหนึ่งนั้นกว้างใหญ่มากเพียงใด พิภพต่ำนับร้อยรวมกันยังไม่กว้างใหญ่เท่ามหาโลกาใบหนึ่งเลย
ภายในฟ้าดินที่กว้างใหญ่เช่นนี้ อัตราการกำเนิดอัจฉริยะสูงมาก ๆ อย่างน้อยอัจฉริยะขั้นสุดยอดในมหาโลกาใบหนึ่งก็มีไม่ต่ำกว่าหมื่นคน
และทั่วทั้งจักรวาลมีมหาโลกาสามพันใบ อย่างน้อยจำนวนอัจฉริยะขั้นสุดยอดทั้งหมดในจักรวาลนี้ก็มีสามแสนคน!
หากรวมอัจฉริยะขั้นสุดยอดในแปดโลกมหาพิภพด้วย หรือผู้ที่แข็งแกร่งมากกว่า ผู้ที่เก่งกาจดุจปีศาจขั้นไร้เทียมทาน จำนวนอัจฉริยะขั้นสุดยอดอาจจะทะลุถึงหลักร้อยล้านได้เลยด้วยซ้ำ!
อัจฉริยะขั้นสุดยอดหลักร้อยล้านนั้นมีความหมายว่าอย่างไร? เมื่อมองในมุมทั่วทั้งจักรวาลแล้ว คนระดับอย่างหยุนจื่อซูก็น้อยนิดมากจนไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึงด้วยซ้ำ
จักรวาลยิ่งใหญ่ จำนวนอัจฉริยะมีมากดั่งเม็ดทราย โลกทรรศของหลัวซิวไม่ได้จำกัดอยู่แค่นี้เท่านั้น ฐานหยินหยางสำหรับเขาก็เป็นเพียงจุดพักที่ใช้เพื่อยืนยันกฎความตายเท่านั้น
หยุนจื่อซูเดินเข้าไปในค่ายเสวียน เขาจะทุ่มสุดกำลังสามารถในค่ายเสวียนหยินหยาง ใช้ผลการประเมินที่โดดเด่นมากดทับทุกคนไว้ด้านล่าง
หลัวซิวหันมองไปทางผู้อาวุโสหวู“ท่านผู้อาวุโสขอรับ ไม่ทราบว่าหลังจากที่การประเมินผลในครั้งนี้จบลงแล้ว ยังมีการจัดการอื่น ๆ อีกหรือไม่ขอรับ?”
“ผู้ที่ผ่านการประเมินค่ายเสวียนหยินหยาง จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าไปฝึกตนในขั้นตอนแรกของฐานหยินหยางเป็นเวลาหนึ่งเดือน เจ้าสามารถเลือกที่จะปิดขังก่อนระยะหนึ่งค่อยไป หรือจะเลือกไปบัดนี้เลยก็ย่อมได้”ผู้อาวุโสหวูตอบกลับเช่นนี้