มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1372
ปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิวแววตาเปล่งประกาย เขาสามารถรับรู้ได้ ซิวหลัวในวินาทีนี้กับซิวหลัวก่อนที่จะเข้าไปในแดนปริศนา มีกลิ่นอายที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
หากเปรียบว่า ก่อนจะเข้าไปในแดนปริศนาเบญจธาตุ ออร่าของซิวหลัวราวกับกระบี่ที่กำลังจะออกจากฝัก ตอนที่สงบนิ่งเหมือนกับผิวน้ำบนผืนทะเลสาบ เมื่อเคลื่อนไหวก็ราวกับภูเขาไฟที่กำลังระเบิด
แต่ซิวหลัวในเวลานี้ กลับเหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันกว้างใหญ่ ต่อให้เป็นแดนจ้าวนภาอย่างเขา ก็ยังเป็นการยากที่จะมองเขาให้ทะลุ ราวกับห้วงลึกไร้ที่สิ้นสุด เต็มไปด้วยความลึกลับ
ไม่ต้องสงสัย เจ้าหนุ่มผู้นี้ตอนที่อยู่ในแดนปริศนาเบญจธาตุต้องได้รับโอกาสที่ดีบางอย่างมาอีกเป็นแน่
“เจ้าหนูในที่สุดก็ออกมาเสียที”
เซียวจื่อเจี้ยนเมื่อเห็นหลัวซิวปรากฏตัว ในใจก็พลันผ่อนคลายคงทันที เดินเข้ามาพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
“ให้ผู้อาวุโสทุกท่านต้องรอเสียนานเลย” หลัวซิวยิ้มบาง ๆ
สำหรับปีศาจทั้งเก้าแห่งหุบเขาปีศาจเก้า หลัวซิวค่อนข้างระมัดระวังตัวต่อปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิวซึ่งเป็นผู้นำอยู่บ้าง นับตั้งแต่ผ่านเรื่องของเฟิ่งหวูซิน เขาก็ไม่ยินยอมที่จะไว้ใจใครง่าย ๆ อีกต่อไป
ในตอนนั้นเฟิ่งหวูซินก็ออกโรงช่วยเหลือตนที่เมืองแห่งแก้วเทว แต่ภายหลังเมื่อรู้ถึงความลับในตัวเขา ก็กลับลงมืออย่างไร้ความปราณี เกือบจะทำให้เขาตายตกอยู่ในอนัตตาไม่สิ้น
แต่ปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิว ถึงแม้จะรักษาความเป็นศัตรูระหว่างตนกับซือถูเจิ้งเจี้ยน แต่คนผู้นี้ก็มีเป้าหมายของตนเองเช่นกัน นั่นก็เพื่อให้เขาเข้าไปฝ่าด่านในแดนปริศนาเบญจธาตุ และเอาวิชาหยางมหาเบญจธาตุเล่มที่เหลือออกมา
คนพวกที่นี่สามารถฝึกตนถึงแดนจ้าวนภา แต่ละคนต่างก็เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์และกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม จิตใจยากที่จะหยั่งถึง จำเป็นต้องป้องกันตนเอาไว้
ที่โชคดีก็คือ เขาได้รับประโยชน์อย่างมากในครั้งนี้ โดยเฉพาะเมื่อเปิดใช้งานจุดลมปราณที่หนึ่งหล่อเลี้ยงโลกดาราแห่งหนึ่งแล้ว ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับปีศาจยักษ์โดยตรง เขาก็ไม่เกรงกลัว
พลังก็คือความมั่นใจ ไม่เหมือนก่อนที่ราวกับกำลังเดินบนพื้นน้ำแข็งบาง ๆ
หลายคนก็พากันก้าวไปข้างหน้าเพื่อถามไถ่ เรื่องที่ให้ความสนใจที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นวิชาหยางมหาเบญจธาตุ
“ผู้น้อยปฏิบัติภารกิจลุล่วง ฝ่าด่านสุดท้ายแห่งแดนปริศนาเบญจธาตุ ได้รับทั้งหมดของวรยุทธ์นี้”
หลัวซิวไม่ได้ลังเลใจแม้แต่น้อย ส่งต่อวิชาหยางมหาเบญจธาตุทั้งหมดที่ตนได้รับ สลักเอาไว้ในม้วนหยกม้วนหนึ่ง
ในตอนที่ม้วนหยกนี้ตกลงบนมือของปีศาจยักษ์ จิตใจที่สงบนิ่งของเขาก็สั่นไหวเล็กน้อย
ตัวสำนึกสำรวจเข้าไปด้านใน ด้วยความเข้าใจของเขาต่อวิชาหยางมหาเบญจธาตุ ย่อมสามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งที่อยู่ในม้วนหยกนี้เป็นของจริงหรือไม่
“เป็นวิชาหยางมหาเบญจธาตุทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย!”
หลังจากยืนยันแล้ว นัยน์ตาของปีศาจยักษ์ก็สั่นไหว มองไปทางหลัวซิว “ขอบใจน้องชายมาก หากน้องชายไม่รังเกียจ พวกเราปีศาจเก้าแห่งหุบเขาปีศาจเก้า ยินดีที่จะรับเจ้าเป็นพี่น้องต่างสายเลือด นับแต่นี้ไป เจ้าคือปีศาจสิบแห่งหุบเขาปีศาจเก้าของพวกเรา!”
“เพียงแค่ผู้อาวุโสทุกท่านไม่รังเกียจผลการฝึกตนอันต่ำต้อยของผู้น้อยก็นับว่าเป็นเกียรติแล้ว” หลัวซิวพูดพร้อมรอยยิ้ม
“เจ้าในตอนนี้ถึงแม้จะมีผลการฝึกตนต่ำต้อย แต่ต่อไปในภายหน้าต้องเป็นผู้ที่มีผลการฝึกตนสูงที่สุดในบรรดาพวกเรา เป็นผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด!” ปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิวหัวเราะดังลั่น เขารู้ดีว่าซิวหลัวผู้นี้สามารถฝ่าด่านแดนปริศนาเบญจธาตุได้ คุณสมบัติพรสวรรค์ของเขาเกินกว่าทุกคนในบรรดาพวกเขาปีศาจทั้งเก้า!
“พี่ใหญ่ เจ้าหนุ่มผู้นี้ประหลาดยิ่งนัก ไม่แปลกถ้าเพียงแค่มีพรสวรรค์สูง บนตัวของเขาจะต้องมีความลับซ่อนอยู่เป็นแน่ ไม่แน่สำหรับพี่น้องของพวกเรา อาจจะเป็นโอกาสอันดี โชคลาภมหาศาล!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นในหูของปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิว หางตาเขารี่ลงเล็กน้อย ก็สามารถรับรู้ได้ว่าผู้ที่ส่งเสียงนั้นคือหนึ่งในปีศาจทั้งเก้า ปีศาจสามกุ่ยเชียนโฉ
นอกจากกุ่ยเชียนโฉ ปีศาจแปดเยียนหวูมิ่งก็ส่งเสียงแบบเดียวกันมาถึงเขา คาดเดาว่าบนตัวของหลัวซิวนั้นต้องมีความลับอันยิ่งใหญ่แฝงอยู่
ปีศาจทั้งเก้าแห่งหุบเขาปีศาจเก้า ถึงแม้จะฝึกตนด้วยวิชาหยางมหาเบญจธาตุ แต่เส้นทางการฝึกยุทธ์ที่แต่ละคนเลือกนั้นแตกต่างกัน จิตใจก็พฃันแตกต่างกันออกไป