ทะเลสายฟ้าที่ครอบคลุมทั่วอนาจักรเหนือ นี่ต้องเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ผู้คนในอาณาจักรจดจำไปตลอดชีวิตได้อย่างแน่นอน
ค่ายกลที่หลัวซิวใช้มาผนึกเขตพื้นที่บริเวณหนึ่งหมื่นไมล์ในตอนแรก ถูกสายฟ้าทำลายล้างไปภายในชั่วพริบตาเดียว แต่ทว่านักยุทธ์จำนวนมากในโลกแสงดาวกลับไม่กล้าก้าวเข้ามาเลยแม้แต่ก้าวเดียว ในทางกลับกันพวกเขากลับถอยหลังหนีอย่างต่อเนื่อง เกรงว่าจะถูกพัดโหมเข้าไปในมรสุมสายฟ้าที่บ้าคลั่งนั่น
ทุกคนต่างเบิกตากว้างอ้าปากค้างมองไปทางสายฟ้านับไม่ถ้วนที่ผ่าสลับตัดกันไปมาอยู่ระหว่างฟ้าและดิน ภาพเหตุการณ์เช่นนี้มันอยู่เหนือคำว่าเหลือเชื่อมาก ๆ ดุจภาพฝันภาพจินตนาการ
“ต่อให้เทพมารขั้นสูงบรรลุสู่เทพฟ้า ก็ไม่มีทางมีอำนาจบารมีระดับนี้อย่างแน่นอน”
“ผู้ใดกำลังข้ามผ่านทัณฑ์กันแน่ น่าสยดสยองเกินไปแล้ว!”
ในตำแหน่งที่ห่างออกไปไกลมาก ๆ ภูเขาเก่าแก่ลูกหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ในอาณาจักรเหนือมาเป็นสิบล้านปีถูกสายฟ้าผ่าจนแตกสลายเป็นฝุ่นผง
ภูเขาสูงลูกดังกล่าวผ่านพ้นการเวลามายาวนานมาก ๆ แล้ว ผ่านการขัดเกลาจากกฎฟ้าดิน ทำให้มันแข็งแรงมาก ๆ แต่ทว่าสายฟ้าสีทองแค่เฉียวผ่านเพียงเล็กน้อย อานุภาพเพียงเล็กน้อยของสายฟ้าก็ทำให้มันแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงไปแล้ว
และหลัวซิวในตอนนี้กำลังยืนอยู่กลางทะเลสายฟ้าสีทองนี่ บริเวณรอบ ๆ ของเขาล้วนเปี่ยมล้นไปด้วยสายฟ้าสีทอง สายฟ้าทุกสายล้วนเป็นดั่งกระบี่เทพที่เฉียบคม คำรามอย่างบ้าคลั่ง พุ่งโจมตีใส่ร่างเนื้อเขาอย่างต่อเนื่อง
ทุกครั้งที่ถูกพุ่งโจมตี ร่างกายของหลัวซิวก็จะสั่นสะเทือนหนึ่งครั้ง โลกาดาราที่อยู่ในจุดลมปราณแรกของเขากลายเป็นสีทองบริสุทธิ์ไปแล้ว แม้กระทั่งตราดาราบนฝ่ามือข้างซ้ายเขา ก็เปลี่ยนจากสีดำกลายเป็นสีทองแล้ว
“โลกาดาราในจุดลมปราณแรกอิ่มตัวแล้ว”
หลัวซิวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา จากนั้นภายใต้การโน้มนำอย่างรวดเร็วของเขา พลังสายฟ้าสีทองที่มากมายมหาศาลก็รวมตัวกันอยู่ที่นิ้วโป้งข้างซ้ายของเขา
แขนขาทั้ง 4 ข้างของมนุษย์สอดคล้องกับขั้วตะวันออกตะวันตก เหนือและใต้ และมีคนเล่าว่าระดับสี่ที่หมายถึงคือหยินหยางมรณะซื่อจี๋!
ขั้วตะวันตกสอดคล้องกับแขนซ้าย ในหยินหยางมรณะ สิ่งที่สอดคล้องกันคือหยินจี๋ และสิ่งที่สื่อเป็นนัยคือไท่หยิน!
ด้วยเหตุนี้โลกาจุดลมปราณที่ถูกบุกเบิกบนแขนซ้ายของมนุษย์ สามารถเพิ่มเสริมการตระหนักรู้ด้านกฎไท่หยินให้แก่ตัวนักยุทธ์ มีพรสวรรค์ในการตระหนักรู้กฎไท่หยินเป็นอย่างดี
และนี่ก็เป็นสาเหตุที่เหตุใดฝ่ามือข้างซ้ายของหลัวซิวถึงผนึกรวมตราดวงดาวสีดำขึ้นมาได้
ฝ่ามือข้างซ้ายเป็นจุดลมปราณแรกของแขนซ้าย ถัดจากนั้นก็คือนิ้วมือทั้งห้า โดยที่มีนิ้วโป้งเป็นจุดนำ รองลงมาคือนิ้วก้อย
โลกาที่แฝงซ่อนอยู่ในนิ้วมือหนึ่งนิ้วนั้น เรียกได้เลยว่าเหลือเชื่อมาก ๆ
การเปิดจุดลมปราณในร่างกายมนุษย์ จุดที่ยากที่สุดคือจุดแรก หลังจากเปิดจุดแรกสำเร็จ ระดับความยากของการเปิด 17 จุดที่เหลือก็จะลดลงไปไม่น้อยเลย
พลานุภาพของทัณฑ์สายฟ้าพิโรธกำลังเพิ่มพูนขึ้น สายฟ้าสีทองที่แวววาวแยงตาในตอนแรกค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีทองหม่น
สายฟ้าประเภทนี้เงียบมาก ๆ ไม่มีอำนาจบารมีที่ยิ่งใหญ่อย่างสายฟ้าสีทอง แต่มันกลับน่าสยดสยองยิ่งกว่า
รูขุมขนทั้งหนึ่งแสนแปดหมื่นรูของหลัวซิวดูดและพ้นแสงสายฟ้าเข้าออกพร้อมกัน สองระดับความเป็นตายกำลังโคจรอยู่ในร่างกาย เงาลวงวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพที่อยู่ด้านหลังสั่นเทิ้มอย่างเสียงดัง
ภายในสมองเขา รูปที่ 4 ของผังกฎดั้งเดิมของพลังจุติมรณะปรากฏ ตั้งแต่ที่เขาได้รับลูกแก้วความเป็นตายมา เขาก็เริ่มฝึกวรยุทธ์ที่กำเนิดมาจากกฎดั้งเดิมนี้ทันที จวบจนปัจจุบัน เวลาก็ผ่านมาเกือบ 60 ปีแล้ว
อย่างไรก็ตามผังกดดังเดิมทั้ง 9 รูป เขากลับตระหนักรู้ถึงรูปที่ 4 เท่านั้น ระยะห่างที่เขาจะตระหนักรู้ผังกฎดั้งเดิมรูปที่ 4 ได้โดยสิ้นเชิงนั้น ยังอีกยาวไกลมาก ๆ
เขาสามารถสัมผัสได้ว่าผังกฎดั้งเดิมรูปที่ 4 ได้อธิบายความเร้นลับของกฎสองระดับความเป็นตายดั้งเดิมขั้น 1 ถึงขั้น 3 ไว้อย่างชัดเจน!
กฎดั้งเดิมแบ่งออกเป็นทั้งหมด 10 ขั้น เมื่อฝึกถึงแดนขั้น 1 จะบรรลุกลายเป็นเทพมาร ฝึกถึงขั้น 2 สามารถบรรลุกลายเป็นเทพฟ้า!
แค่ผังกฎดั้งเดิม 4 รูปก็มีความเร้นลับดั้งเดิมขั้น 3 แฝงซ่อนแล้ว หลัวซิวยากที่จะจินตนาการได้จริง ๆ ว่าถ้าเกิดเขาตระหนักรู้ผังกฎดั้งเดิมทั้ง 9 รูปได้โดยสิ้นเชิงแล้ว เขาจะบรรลุถึงแดนใดกันนะ
ลูกแก้วความเป็นตายลอยอยู่ตรงหว่างคิ้วของเขา เหมือนดวงตาดวงที่สามยังไงอย่างนั้น
