มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1463
เกราะป้องกันม่านแสงที่ยังไม่ค่อยเสถียรแตกสลายไปภายในชั่วพริบตาเดียว ถึงแม้จะต้านทานพลังของแสงป้อมปืนไปได้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีควันหลงบางส่วนกระทบขึ้นมาถึงบนเรือรบอยู่ดี
ต่อให้เป็นควันหลง แต่ก็เป็นควันหลงการโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพ มีเทพฟ้าสิบกว่าคนดับสลายกลายเป็นฝุ่นผงอยู่บนชั้นดาดฟ้าคาที่ ไม่เหลือแม้แต่ซากกระดูก
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง ทุกอย่างก็กลับมาสงบเหมือนเดิมอีกครั้ง มีเพียงห้วงอากาศอันว่างเปล่าบริเวณรอบ ๆ ของเรือรบดาราทั้งสองลำที่ยังอยู่ในสภาวะแตกร้าว มีกระชี่ตรีภพไหลทะลักออกมาซ้ำ ๆ
สีหน้าของจี้ซิวม่วงช้ำ เขานึกไม่ถึงเลยว่าค่ายกลบนดาราเรืองแสงจะมีประสิทธิภาพเช่นนี้ด้วย จึงทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางเหอเฟิงด้วยสายตาที่พิโรธ“เหตุใดเจ้าถึงไม่รีบบอกข้าก่อน?”
เหอเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น“ข้าก็อยากจะบอกอยู่ แต่ทว่าเจ้าเมืองน้อยไม่ยอมฟังข้าเอง”
จี้ซิวทำเสียงหึอย่างเยือกเย็น มิได้ไต่ถามถึงที่สุดว่านี่เป็นความผิดของผู้ใด แผ่ตัวสำนึกผ่านเรือรบทั้งสองลำ โชคดีที่เกราะป้องกันม่านแสงเลื่อนขึ้นมาในช่วงเวลาที่สำคัญ ถึงแม้จะถูกโจมตีจนแตกสลาย แต่ก็ทำให้ความเสียหายที่ได้รับลดทอนลงไปถึงที่สุดเช่นกัน เทพฟ้าเสียชีวิตไปร้อยกว่าคน และมีเจ้านภาบางส่วนได้รับบาดเจ็บ
และบุคคลที่สำคัญมากที่สุดก็คือเหล่ากรรมกรขุดเหมืองที่มีผลการฝึกตนเทพมาร ในทางตรงกันข้ามคนเหล่านั้นกลับยังมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยไร้ซึ่งบาดแผล และนี่ก็เป็นสิ่งที่จี้ซิวยอมทำทุกอย่างเพื่อผลลัพธ์นี้เช่นกัน เนื่องจากชีวิตของเหล่ากรรมกรขุดเหมืองล้ำค่ากว่าชีวิตของเทพฟ้าเสียอีก หากทำอะไรกับค่ายกลบนดาราเรืองแสงไม่ได้ เขายังต้องส่งกรรมกรขุดเหมืองเหล่านี้เข้าไปสำรวจภายในดวงดาวอยู่
จี้ซิวทราบอยู่ว่าการโจมตีของเรือรบไม่ส่งประสิทธิผลใด ๆ จากศักยภาพความสามารถของเขาแล้ว เขาหมดซึ่งหนทางปัญญากับค่ายกลบนดาราเรืองแสงนี้แล้วจริง ๆ
ภายใต้คำสั่งของเขา มีเทพฟ้าคนหนึ่งบินตรงไปยังดาราเรืองแสง เมื่อสัมผัสกับม่านแสงที่แผ่กระจายออกมาจากชั้นบรรยากาศของดวงดาวดังกล่าว เทพฟ้าผู้นั้นก็สัมผัสได้ถึงแรงต้านที่แข็งแกร่งอย่างมาก ไม่สามารถเข้าใกล้ได้อีกแม้แต่เล็กน้อยเดียว
ถัดจากนั้นจี้ซิวก็เปลี่ยนกรรมกรขุดเหมืองเทพมารคนหนึ่งลงไป แต่ทว่าคนดังกล่าวกลับไม่ถูกกีดกันเลยแม้แต่น้อย บินเข้าไปภายในดวงดาวอย่างรวดเร็ว
ทั้วทั่งดาราเรืองแสงรกร้างว่างเปล่า ดูแล้วเหมือนดวงดาวธรรมดาทั่วไปหนึ่งดวง ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ กำเนิดอยู่บนดวงดาวดวงนี้
แต่ทว่าเมื่อขาทั้งสองข้างเหยียบย่ำลงบนพื้นดินสีน้ำตาลดำแล้ว ก็สามารถสัมผัสได้ว่ามีพลังที่เข้มข้นและมากมายมหาศาลไหลเชี่ยวกรากอยู่ใต้เท้า
“เหมืองแก้วเทวชั้นกลาง!”
ปฏิบัติตามคำสั่งของจี้ซิว กรรมกรขุดเหมืองเทพมารผู้นี้ไม่ได้สำรวจแหล่งทรัพยากรแก้วเทวที่อยู่ด้านล่าง แต่เป็นการย้อนกลับไปยังเรือรบที่อยู่นอกห้วงดารา นำสิ่งที่เขาสัมผัสได้และภาพเหตุการณ์ที่มองเห็นบรรยายให้จี้ซิวฟัง
จี้ซิวเรียกกรรมกรขุดเหมืองเทพมารทุกคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของตนมารวมตัวกัน จากนั้นเขาก็ให้ผู้อาวุโสนักค่ายเทพระดับ 6 ที่อยู่ข้างกายตัวเองร่ายตัวต้องห้ามเข้าไปในร่างกายของกรรมกรขุดเหมืองทุกคน
ตัวต้องห้ามที่เกิดจากการร่ายของนักค่ายเทพระดับ 6 นั้น นอกเสียจากว่าเป็นนักค่ายเทพระดับเดียวกัน มิเช่นนั้นคนธรรมดาทั่วไปก็แทบจะไม่สามารถทำลายตัวต้องห้ามได้เลย
เนื่องจากความลึกลับบนดาราเรืองแสงเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ จี้ซิวไม่สามารถลงไปสำรวจได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีการเช่นนี้มาควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง
“ไม่ว่าพวกเจ้าจะพบเจอสิ่งใดบนดาราเรืองแสง หรือค้นพบบางสิ่งบางอย่างก็ตาม ข้าขอย้ำเตือนพวกเจ้าไว้ก่อนว่าอย่าเล่นลูกไม้อะไรกับข้าจะดีกว่า ข้าเพียงใช้จิตนึกคิดก็สามารถทำให้พวกเจ้าตายทั้งเป็นได้!”จี้ซิวพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
อำนาจบารมีของตำหนักหลักเมืองที่สะสมอยู่ในเมืองฟ้าเยือกนั้นลึกซึ้งมาก ๆ กรรมกรขุดเหมืองทุกคนเงียบเป็นเป่าสาก ไม่กล้ามีใจที่ไม่จงรักภักดีเลยแม้แต่น้อย
ร่างกลวัฏสงสารที่หนึ่งของหลัวซิวหลบซ่อนอยู่ในบรรดากรรมกรขุดเหมืองเทพมารเหล่านี้ จากนั้นภายใต้การนำพาของผู้แข็งแกร่งระดับเจ้านภาคนหนึ่ง พวกเขาทุกคนก็บินตรงไปทางดาราเรืองแสง
ฝั่งสมาคมจรัสนภาก็ทำเฉกเช่นเดียวกัน สีหน้าอารมณ์ของหัวหน้าแก๊งเหอเฟิงดูหม่นหมองและสิ้นหวังอยู่เล็กน้อย เดิมที่เขาคิดว่าเมื่ออาศัยภูมิฐานความสามารถของตำหนักหลักเมืองและนักค่ายเทพระดับ 6 แล้ว บางทีอาจมีโอกาสทำลายค่ายกลบนดาราเรืองแสงได้เสี้ยวหนึ่ง
แต่ผลลัพธ์สุดท้ายกลับทำให้ผู้คนรู้สึกผิดหวังมาก ๆ ไม่เพียงไม่สามารถทำลายค่ายกลบนดาราเรืองแสงได้ อีกทั้งทุกคนในตำหนักหลักเมืองยังทราบความลับที่อยู่บนดวงดาวดวงนี้ด้วย
เหอเฟิงก็เข้าใจดีเช่นกันว่านี่เป็นสิ่งที่ต้องจำใจทำ เนื่องจากหากไม่มีผลประโยชน์และเหตุผลที่เพียงพอ ทางตำหนักหลักเมืองต้องไม่มีทางยินดีทุ่มสุดแรงให้กับการปฏิบัติการในครั้งนี้อย่างแน่นอน