มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1475
“ไม่!”
“ช่วยข้าด้วย!”
เสียงกรีดร้องโหยหวนอันน่าเวทนาดังขึ้น ๆ ลง ๆ ทุกคนที่ถูกวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพดูดเข้าไปล้วนดับสลายกลายเป็นฝุ่นผงอย่างรวดเร็ว ผลการฝึกตนทั้งชีวิตและพลังวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในช่องจิตล้วนถูกวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพกลั่นแปร จนกลายเป็นพลังบริสุทธิ์ที่มหาศาล ไหลเข้าไปในร่างกายหลัวซิว
ในขณะเดียวกัน ในห้วงจักรหยั่งรู้ของหลัวซิว เขาเริ่มทำการดูดซับกฎที่อยู่ในกมลโลกาชั้นล่าง วางแผนใช้โอกาสนี้โหมเปิดจุดลมปราณที่สองบนแขนซ้ายออกรวดเดียว!
“โครมคราม……”
มีเสียงดังปานฟ้าร้องขึ้นมาในร่างกายเขา ภายในวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพที่อยู่ด้านหลังเขา มีเงาลวงที่เลือนลางของดวงดาวดวงหนึ่งปรากฏ ทันทีที่เงาลวงนั่นรวมกันจนเป็นเงาแท้ นั่นก็หมายความว่าการเปิดจุดลมปราณที่สองของเขาจะสำเร็จลุล่วง
เขาได้รับกมลโลกาชั้นล่างใบนี้จากโลกแสงดาวมาระยะหนึ่งแล้ว สาเหตุที่หลัวซิวไม่ลงมือเปิดจุดลมปราณที่สองตั้งแต่แรกนั้น เป็นเพราะกมลโลกาชั้นล่างใบเดียว ยังมีพลังไม่มากพอที่จะทำให้เขาเปิดจุดลมปราณที่สองได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่ทว่าเมื่อมีการเพิ่มเสริมผลการฝึกตนอันบริสุทธิ์จากผู้แข็งแกร่งเทพฟ้านับพันคน รวมไปถึงผู้แข็งแกร่งเจ้านภาสิบกว่าคนแล้ว ก็จะสามารถทดแทนจุดขาดตกบกพร่องของกมลโลกาได้
นี่เป็นการบดขยี้ที่ความได้เปรียบเอนไปทางหลัวซิวอยู่ฝ่ายเดียว ไม่มีผู้ใดที่เป็นคู่ต่อสู้ของหลัวซิวเลยแม้แต่ผู้เดียว มาตรแม้นว่าผู้แข็งแกร่งเจ้านภาจะต้านทานการดูดกลืนของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพได้ แต่ทว่าหลัวซิวแค่สั่นกระพือปีกเทพมังกรครามยักษ์ที่อยู่ด้านหลัง ก็สามารถไล่ตามฝ่ายตรงข้ามได้ในชั่วพริบตาแล้ว ใช้พลังอำนาจกำจัดฝ่ายตรงข้ามทิ้ง และใช้วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพกลั่นแปรพลังชีวิตและผลการฝึกตนของคนเหล่านั้น
เมื่อจี้ซิวและเหอเฟิงเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว พวกเขาก็กลัวสุดขีดโดยสิ้นเชิง นั่นมันเทพฟ้านับพันคนและเจ้านภาสิบกว่าคนเลยนะนั่น ศักยภาพของคนทั้งหมดนี้เพียงพอที่จะสังหารกึ่งราชาเทพคนหนึ่งได้อย่างง่ายดายแล้ว หลัวซิวนี่มันเป็นตัวประหลาดอะไรกันแน่?
“หนี!”
จี้ซิวมิกล้าออกจากเรือรบดาราด้วยซ้ำ ถึงแม้เขาก็มีผลการฝึกตนระดับกึ่งราชาเทพเช่นกัน แต่ทว่าเขามั่นใจอยู่ว่าหากตนออกจากการคุ้มกันของเรือรบ เขาก็ต้องได้ตายอยู่ในเงื้อมมือหลัวซิวอย่างแน่นอน
“ครั้นเมื่อมันกวาดล้างสำนักปีศาจดำในเมืองฟ้าเยือก ศักยภาพมันยังไม่แข็งแกร่งเช่นนี้นะ”เหอเฟิงก็อกสั่นขวัญเสียเช่นกัน เสียงเริ่มสั่นเทาไปด้วยแล้ว
ใช้กำลังแรงของคนคนเดียวฆ่าล้างเทพฟ้านับพัน และเจ้านภาอีกสิบกว่าคน ต่อให้ศักยภาพระดับนี้จะไม่ใช่ราชาเทพ แต่ก็เข้าใกล้ราชาเทพแล้วอย่างแน่นอน
“มีเพียงพ่อบุญธรรมเท่านั้นที่สามารถสังหารมันได้ เรามีการคุ้มกันจากเรือรบดารา เขาบุกโจมตีเข้ามาไม่ได้หรอก!”จี้ซิวออกคำสั่งให้นักค่ายเทพที่อยู่ใต้การบังคับบัญชากระตุ้นค่ายกลเรือรบ
และแล้วในเวลานี้เอง จู่ ๆ นักค่ายเทพคนหนึ่งที่ทางสมาคมจรัสนภารับสมัครมาก็ปะทุออกมา ทำให้เหล่านักค่ายเทพที่อยู่บนเรือรบลำเดียวกันกับจี้ซิวและเหอเฟิงล้วนบาดเจ็บสาหัส!
“รนหาที่ตาย!”
สีหน้าของพวกจี้ซิวเปลี่ยนไปเยอะมาก พวกเขารีบพากันลงมือโจมตีกลับในทันที จะทำการสังหารนักค่ายเทพผู้นั้น
นักค่ายเทพที่ปะทุออกมาแล้วทำร้ายคนอื่นนั้น ต้องเป็นร่างกลวัฏสงสารที่สองของหลัวซิวอยู่แล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีจากผู้แข็งแกร่งกึ่งราชาเทพทั้งสองอย่างจี้ซิวและเหอเฟิง เขากระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ร่างกายกลายเป็นลำแสงลำแสงหนึ่ง หายวับไปจากเรือรบในพริบตาเดียว ก่อนจะบินตรงไปทางหลัวซิวอย่างรวดเร็ว
เมื่อจี้ซิวและเหอเฟิงเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว พวกเขาจะยังไม่เข้าใจอีกได้อย่างไร นักค่ายเทพผู้มีนามว่าเย่ห้าวหรานนั่น เป็นร่างผันร่างหนึ่งของหลัวซิว!
นักค่ายเทพทั้งหลายล้วนบาดเจ็บสาหัส เวลานี้จึงไม่มีผู้ใดสามารถกระตุ้นเรือรบได้ พลังออร่าแห่งความตายหนึ่งได้ครอบคลุมพวกจี้ซิวเอาไว้ในชั่วพริบตาเดียว
ปีกเทพครามทั้งสามคู่ที่อยู่ด้านหลังสยายออก วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพที่ใหญ่โตมหึมาลอยอยู่หลังศีรษะ หลัวซิวถือหอกยุทธ์มังกรดำอยู่ในมือ เท้าเหยียบอสูรดูดจิตโบราณ ดุจเทพมรณะซิวหลัวที่เดินออกมาจากคุก ประชิดใกล้เข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว
“หลัวซิวเจ้าบังอาจทำร้ายข้า พ่อบุญธรรมต้องสับศพเจ้าออกเป็นหมื่น ๆ ชิ้นอย่างแน่นอน!”จี้ซิวตวาดเสียงดัง ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งราชาเทพ วินาทีนี้เมื่อได้เผชิญหน้ากับหลัวซิว นึกไม่ถึงเลยว่าเขาไม่มีอารมณ์ที่จะต้านทานเลยแม้แต่น้อย
ศักยภาพของฝ่ายตรงข้ามน่าสยดสยองมากเกินไปจริง ๆ เทพฟ้านับพันบวกกับเจ้าหน้านภาสิบกว่าคน ล้วนถูกฝ่ายตรงข้ามฆ่าล้างไปได้อย่างง่ายดายด้วยกำลังแรงของเขาผู้เดียว