มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1487
มีควันและฝุ่นตลบฟุ้งออกมาจากหลุมขนาดใหญ่ที่ลึกจนไม่เห็นพื้น เงาร่างหลายร่างบินออกมาจากด้านในด้วยสภาพที่ใบหน้ามอมแมม
ซึ่งคนเหล่านี้ก็คือหลัวซิวและปีศาจทั้งเก้านั่นเอง
“โลกาดาราอุดร! ดูจากตำแหน่งที่กำกับไว้บนม้วนหยกแผนที่ดาว หลังจากใช้ค่ายวาร์ฟล่องหนในเมืองฟ้าเยือกแล้ว จะถูกส่งมายังโลกาดาราอุดร……”
ปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิวพลิกมือหยิบม้วนหยกแผนที่ดาวออกมา เพื่อยืนยันตำแหน่งที่พวกเขาถูกส่งมา
“ช่างเป็นปราณทิพย์ฟ้าดินที่เข้มข้นเสียจริง และในปราณทิพย์นี้มีพลังออร่าของกฎแฝงซ่อนอยู่ด้วย”
ใบหน้าของพวกเซียวจื่อเจี้ยนเต็มเปี่ยมไปด้วยความตะลึง เป็นเพราะสภาพแวดล้อมในการฝึกตนของสถานที่แห่งนี้มันน่าทึ่งมากจริง ๆ
เมื่อเปรียบเทียบกับโลกาอสูรฟ้าแล้ว ก็แตกต่างกันราวฟ้ากับดินเลย
“มันไม่แปลกเลยที่สภาพแวดล้อมในการฝึกตนขอสถานที่แห่งนี้จะดีเลิศเช่นนี้ เพราะเล่ากันว่าโลกาดาราอุดรเป็นพิภพที่ผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพท่านหนึ่งบุกเบิกขึ้นมา!”
ราชาเทพและมกุฎเทพแตกต่างกันหนึ่งแดนใหญ่ พิภพที่บุกเบิกออกมาจึงต้องแตกต่างกันมากถึงมากที่สุดเป็นธรรมดาอยู่แล้ว กฎสมบูรณ์มากกว่า และเหมาะกับการฝึกตนสำหรับจอมยุทธ์มากกว่า
“ทุกท่าน เราจำเป็นต้องรีบตามหาจุดวาร์ปอีกจุดให้เจอโดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้นทันทีที่ถูกเจ้าเมืองเมืองฟ้าเยือกไล่ตามมา ต้องเป็นปัญหาอย่างแน่นอน”หลัวซิวเอ่ยปากพูด
ทันทีที่พ่นคำพูดนี้ออกมาจากปาก สีหน้าท่าทางของปีศาจทั้งเก้าล้วนดูเข้มงวดขึ้นมา สำหรับพวกเขาแล้ว ราชาเทพถือเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่ไกลเกินเอื้อมพวกเขามาก ๆ
ณ วินาทีนี้พวกเขากำลังอยู่ในโลกาดาราอุดร กฎเกณฑ์การกดอัดในพิภพไม่มีผลต่อราชาเทพ ไม่สามารถใช้วิธีการแบบเดียวกันกับครั้นเมื่อจัดการซือถูเจิ้งเจี้ยนมารับมือ
“แผนที่ดาวที่เราได้รับมาเมื่อครั้นนั้นก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบมากนัก กล่าวเพียงว่าในโลกาดาราอุดรมีค่ายวาร์ฟล่องหน ซึ่งสามารถส่งเราตรงไปยังโลกะอัมพรเทวได้ แต่กลับไม่ได้พูดถึงตำแหน่งที่ตั้งของค่ายวาร์ฟล่องหนนั่นเลย”
ยู่หวูฉิวส่ายหน้าไปมา โลกาดาราอุดรกว้างใหญ่มากเกินไป โลกาดาราที่มกุฎเทพบุกเบิกนั้น กว้างใหญ่กว่าโลกาอสูรฟ้าและโลกเสวียนเทียนรวมเข้าด้วยกันหลายเท่าเสียอีก
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเราทุกคนก็ทิ้งตราส่งเสียงไว้ให้กันและกันดีกว่า แยกย้ายกันไปตามหา หากผู้ใดค้นพบเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับค่ายวาร์ฟล่องหน ให้รีบส่งข่าวแจ้งคนอื่นทันที”หลัวซิวเสนอข้อคิดเห็น
“วิธีการนี้ดี!”ปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิวเป็นคนแรกที่เห็นด้วย
ปัจจุบัน ศักยภาพของหลัวซิวอยู่เหนือปีศาจทั้งเก้า ปีศาจอีกแปดคนที่เหลือจึงไม่มีข้อคัดค้านใด ๆ สำหรับการตัดสินใจของเขาและปีศาจยักษ์
ในบรรดาปีศาจทั้งเก้า หลัวซิวไม่ได้ออกเดินทางไปพร้อมกับผู้ใดเลย แต่เป็นการเลือกที่จะออกเดินทางคนเดียว บินจากไปในทิศทางหนึ่ง
……
สำนักในโลกาดาราอุดรมีเยอะจนนับไม่ถ้วน สถานที่ที่มีสำนักก็มักมีการขัดแย้งระหว่างกันอยู่เสมอ สถานที่ที่มีนักยุทธ์ ก็จะมีการต่อสู้เกิดขึ้นเสมอ ซึ่งนี่เป็นกฎเกณฑ์ตายตัวที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล
ทิศใต้ของโลกาดาราอุดรมีสำนักอยู่ทั้งหมดสองสำนัก ซึ่งมีนามว่าสำนักเทียนเจี้ยนและสำนักวัชรยักษ์ เขตอำนาจของทั้ง 2 สำนักใหญ่นี้เชื่อมต่อกัน ทั้งสองต่างเป็นศัตรูต่อกัน ซึ่งต่อสู้กันมาเป็นเวลาแสนกว่าปีแล้ว
ในเขตอำนาจของทั้งสองสำนักนี้ ก็มีสำนักขนาดเล็กรวมไปถึงตระกูลขุนนางแยกย่อยเป็นจำนวนมาก ต่างเพิ่งพาทั้งสองสำนักใหญ่อาศัย
ในตำแหน่งที่อยู่ค่อนข้างใกล้กับบริเวณเขตอำนาจของสำนักวัชรยักษ์ มีหุบเขาหุบเขาหนึ่ง ซึ่งปราณทิพย์ในหุบเขาดังกล่าวนั้นเต็มอิ่มมาก ๆ ปราณทิพย์รวมตัวกันจนกลายเป็นหมอกลอยเป็นเกลียวขึ้นไปอยู่รอบหุบเขา
สำหรับเทพมารแล้ว ที่นี่ถือเป็นสถานที่ฝึกตนที่ไม่เลวเลย แต่ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสองสำนักใหญ่อย่างสำนักเทียนเจี้ยนและสำนักวัชรยักษ์แล้ว หุบเขานี้ก็ดูน้อยนิดจนไม่มีค่าพอที่ใช้พูดถึงเลย
ผู้แข็งแกร่งในสองสำนักใหญ่มีเยอะมาก ๆ แต่กองกำลังเล็ก ๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในช่องแคบระหว่างสำนักเทียนเจี้ยนและสำนักวัชรยักษ์นั้นกลับไม่เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะสำนักและตระกูลเล็ก ๆ ที่มีเทพมารเพียงคนหรือสองคนคอยคุ้มกันรักษา ยิ่งมองว่าหุบเขาเช่นนี้เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการฝึกตน
ภายในหุบเขาดังกล่าว มีตระกูลนักยุทธ์แซ่สวีอาศัยอยู่หนึ่งตระกูล ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลคือยอดฝีมือที่มีผลการฝึกตนเทพมารขั้น 4 และมีผู้อาวุโสที่มีผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเจ็ดแปดคน
ตระกูลสวีพึ่งพาอาศัยสำนักวัชรยักษ์ แม้ในวันทั่วไปพวกเขาจะมีการปะทะกับกองกำลังเล็ก ๆ ที่มีภูมิฐานอำนาจไม่ต่างกันมากนักอยู่บ่อย ๆ ตระกูลดังกล่าวสืบทอดต่อกันมาหลายหมื่นปี แต่ก็ยังสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีไมตรีสุขได้