ในเวลาเดียวกัน หลัวซิวพบว่าเขาถูกส่งไปยังภูเขาซึ่งไม่เด่นมากในหมู่ภูเขาของสำนักไท่ไหล
มีห้องใต้หลังคามากมายบนภูเขา การปรากฏตัวหลัวซิวดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนไม่น้อย คนเหล่านี้ล้วนสวมเสื้อคลุมสีฟ้า มีรูปลายของค่ายกลดาวหกแฉกบนหน้าอกของพวกเขา
รูปลายนี้ในสำนักไท่ไหลแสดงถึงเอกลักษณ์ของศิษย์สายค่ายกล
“ยินดีต้อนรับสู่ภูเขาที่สิบแปดแห่งนอกสำนัก”
ชายหนุ่มคนหนึ่งในวัยปรามาณสามสิบปรากฏตัวต่อหน้าหลัวซิวพร้อมรอยยิ้มเจนตนาที่ดี
“ข้าเป็นผู้ดูแลของภูเขาที่สิบแปดแห่งนอกสำนัก เจ้าเรียกข้าว่าศิษย์พี่ทัง เจ้าชื่ออะไรหรือ?” ชายหนุ่มสกุลทังถามด้วยรอยยิ้ม
“ข้าชื่อเย่ห้าวหราน คารวะศิษย์พี่ทังแล้ว” หลัวซิวป้องหมัดคำนับ
ชื่อเย่ห้าวหรานนี้เป็นชื่อจริงของร่างกลวัฏสงสารสองของเขา ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาเกิดในดาราพิภพกลางที่สร้างขึ้นโดยราชาเทพ
“ศิษย์พี่เย่มาที่นี่เป็นครั้งแรก ในฐานะศิษย์พี่ ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักกับสถานการณ์ของภูเขาที่สิบแปดแห่งนอกสำนักของเรา”
ชายหนุ่มคนนี้สกุล ทังชื่อโหย่วไหล ในภูเขาที่สิบแปดแห่งนอกสำนัก สามารถอยู่ในตำแหน่งผู้ดูแลได้ จำเป็นต้องมีระดับของนักค่ายเทพระดับ 2
“สำนักไท่ไหลของเราเป็นหนึ่งในห้ากองกำลังราชาเทพ มีศิษย์มากมาย เมื่อเทียบกับกองกำลังราชาเทพอีกสี่กองกำลัง ซึ่งรับเฉพาะคนที่มีพรสวรรค์และมีความสามารถ สำนักไท่ไหลของเรามีข้อกำหนดที่ต่ำกว่าในการรับศิษย์ ดังนั้นในหมู่ห้ากองกำลังหลักจึงมีศิษย์มากที่สุด”
“ว่ากันว่าเที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะพรสวรรค์โดยกำเนิดของบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักไท่ไหลของเราไม่สูง แต่ด้วยความพยายามและโอกาสต่างๆ เขาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกาดาราอุดร ดังนั้นสำนักไท่ไหลของเรารับศิษย์อย่างกว้างขวาง เพราะได้รับอิทธิพลจากบรรพจารย์รุ่นแรก”
“ศิษย์นอกสำนักของสำนักไท่ไหลของเรามีมาก แค่สายค่ายกลของเรา มีภูเขาเจ็ดสิบหกลูกที่เป็นนอกสำนัก และบนภูเขาแต่ละลูก มีศิษย์นอกสำนักเกือบพันคน โดยทั่วไปศิษย์นอกสำนักจำนวนมากเป็นนักค่ายเทพระดับหนึ่ง”
“แต่หลังจากเป็นนักค่ายเทพ มันเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะเพิ่มระดับขึ้นไป และในนอกสำนักยากที่จะเรียนรู้การสืบทอดขั้นสูง มีน้อยคนที่สามารถเป็นนักค่ายเทพระดับ 3 ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าบรรลุระดับ 4 กลายเป็นสายค่ายกลศิษย์ในสำนัก”
“อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เจ้าสามารถบรรลุระดับ 4 ได้ เป็นศิษย์ในสำนักเหมือนกัน สถานะก็จะสูงกว่านักยุทธ์สายศิษย์ในสำนักมาก ถ้าเจ้ารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลั่นยา ภัณฑ์กลั่น ก็อยู่อย่างสบายในสำนัก”
“อย่างไรก็ตาม ในสำนักไท่ไหลของเรามีศิษย์มากมาย แต่จำนวนนักค่ายเทพระดับ 4 นั้นน้อยมาก มีเพียงไม่ถึงพันคนเท่านั้น”
ทังโหย่วไหลพาหลัวซิวไปรอบ ๆ บนภูเขาที่สิบแปดแห่งนอกสำนัก ระหว่างทางได้พบกับศิษย์นอกสำนักคนอื่น ๆ ทุกคนต่างกำหมัดเคานับ ทังโหย่วไหลและเรียกเขาว่าศิษย์พี่ทัง สามารถดูออกได้ว่าคนนี้อยู่บนภูเขาที่สิบแปดแห่งนอกสำนักก็มีชื่อเสียงมาก
ทันใดนั้น ออร่าอันทรงพลังลึกลับได้บินผ่านภูเขาที่สิบแปดแห่งนอกสำนัก ความเร็วเร็วราวกับฟ้าแลบ แล้วหายไปที่ปลายฟ้าอย่างกระทันหัน
สำนักไท่ไหลเป็นปรมาจารย์ค่ายกล มีค่ายกลมากมายในสำนัก มีไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถบินอย่างอิสระที่อย่างไม่เกรงกลัว
เมื่อเห็นหลัวซิวเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ ทังโหย่วไหลซึ่งอยู่ข้างๆเขาก็ยิ้มและกล่าวว่า “สามารถบินได้อย่างอิสระในสำนัก มีเพียงบรรพจารย์ราชาเทพเท่านั้น แม้แต่ผู้อาวุโสก็บินไม่ได้”
“ศิษย์น้องเย่ไม่รู้ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้ ไม่เพียงแต่สำนักไท่ไหลของเราเท่านั้น บรรพจารย์ราชาเทพอีกสี่กองกำลังราชาเทพก็ไปไหนมาไหนภายนอกโลกด้วย ว่ากันว่าพวกเขาทั้งหมดต่างกำลังตามหาคน ๆ หนึ่ง”