เพียงแค่ชั่วพริบตา สีหน้าของราชาเทพชุดดำก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะว่าเขารับรู้ได้ถึงปริภูมิโดยรอบที่ถูกแช่แข็ง พวกเขาทั้งหมดทั่วทั้งสี่ทิศถูกผนึกเอาไว้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อย
ในขณะเดียวกัน จิตสังหารในแววตาของหลัวซิวก็พลันเยือกเย็นขึ้นมา โคจรหมื่นจักรวาลไร้รูป ผสานรวมกฎการเวียนว่ายตายเกิด หอกรบแทงออกไป
การโจมตีครั้งนี้ ทำให้ห้วงกาลเวลาบิดเบี้ยว นอกจากนี้ยังมีนิมิตมากมายเกิดเป็นความโกลาหล ต่างเป็นสิ่งที่หลัวซิวใช้พลังอมตะอย่างหมื่นจักรวาลไร้รูปแปรเปลี่ยนจนถึงขั้นสูงสุด
“ทำลายมัน!”
ราชาเทพชุดดำคำราม ผลการฝึกตนภายในร่างกายระเบิดออกมา ฝืนบังคับใช้ผลการฝึกตนพลังเวทย์ ทำให้ผนึกของโซนคุมขังแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ด้วยความเร่งรีบ เขาอัญเชิญโล่ชิ้นหนึ่งออกมาต้านการโจมตีจากหอกรบของหลัวซิวเอาไว้ได้ โล่แหละสลายไปในทันที ร่างของเขาซวนเซถอยหลังและกระอักเลือดออกมา
“สมกับที่เป็นราชาเทพ ฆ่ายากกว่าที่ข้าคาดคิดเอาไว้มากทีเดียว” ใช้วรยุทธ์สังหารทั้งสองครั้งติดต่อกันต่างก็สามารถฆ่าเขาให้ตายได้ แต่มันกับเป็นเพียงการโจมตีให้บาดเจ็บเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้หลัวซิวรับรู้และเข้าใจใหม่เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของตน
“ผังดาวตก!”
หลัวซิวปล่อยพลังตราประทับออกมา ผังดาราแผ่นหนึ่งกางออกบนท้องฟ้า ภายในนั้น โครงร่างของดารา 31 ดวงปรากฏขึ้น
ประกอบด้วยดาราสีทอง 18 ดวง ดาราสีดำ 13 ดวง
“ตก!”
ตามนิ้วมือของหลัวซิวที่ชี้ขึ้นไป ดาราทั้ง 31 ดวงก็พากันตกลงมา พลังที่ปลดปล่อยออกมาจากดาราทุกดวง สามารถเทียบเท่าได้กับการโจมตีเต็มกำลังของอัญเทพฟ้า
“ปัง! ปัง! ปัง! ……”
ราชาเทพชุดดำพยายามต้านอย่างสุดความสามารถ แต่เขาทำได้เพียงก้าวถอยไปเรื่อย ๆ เลือดพุ่งกระฉูดออกมาในทุกย่างก้าว ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือด เสื้อผ้าสีดำของเขาในตอนนี้ถูกย้อมเป็นสีแดงเข้มด้วยเลือด
เขาคิดที่จะหนีออกไป แต่ทุกครั้งที่กำลังจะขยับทำสิ่งใด ปริภูมิทั้งสี่ทิศก็จะถูกกักขังเอาไว้ ทำให้เขาทำได้เพียงต้องต้านการโจมตีทั้งหมดของหลัวซิว
“ดาราเหล่านี้ ก็น่าจะสามารถนำมาจัดวางค่ายกลได้”
ทันใดนั้น หลัวซิวก็ได้รู้แจ้ง ดาราทั้ง 31 ดวงไม่ได้ร่วงหล่นลงมาเฉย ๆ อีกต่อไป แต่เป็นการเรียงตามข้อกำหนดแบบพิเศษ
ดาราทั้ง 31 ดวงจัดวางเป็นค่ายสังหารระดับเจ็ดมาตรฐาน ภายใต้การควบคุมของหลัวซิวพลังอำนาจที่ระเบิดออกมานั้นยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น ทุก ๆ การโจมตีต่างเทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งราชาเทพช่วงกลางโจมตีสุดกำลัง
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกอย่างก็กลับคืนสู่ปกติ ราชาเทพชุดดำผู้นั้นไม่เหลือแม้แต่กระดูก แหวนเก็บของและช่องจิตของเขา ต่างตกลงไปอยู่ในมือของหลัวซิว
“แข็งแกร่งมากจริงเสียด้วย พลังของข้าในวันนี้ สามารถเผชิญหน้ากับราชาเทพช่วงกลางโดยตรงได้ อีกทั้งมีโอกาสไม่น้อยที่จะได้รับชัยชนะ!”
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ทำให้หลัวซิวได้เข้าใจเกี่ยวกับพลังของตนมากขึ้น เขารอคอยที่จะได้เห็นภาพหลังจากจุดลมปราณร่างเนื้อทั้งสิบแปดจุดถูกเปิดออกจนครบ หากว่าแดนกฎก็สามารถข้ามเข้าสู่ขั้นที่สี่ เช่นนั้นต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาเทพช่วงปลาย เข้าก็สามารถเอาชนะได้
“ความมั่งคั่งของผู้แข็งแกร่งราชาเทพช่างน่าทึ่งจริง ๆ มีของเหล่านี้ ข้าก็สามารถซื้อยาเซียนระดับหกได้มหาศาล นำมาใช้เพื่อกลั่นยาสำหรับเปิดจุดปราณร่างเนื้อของข้า”
ร่างของเขาเปลี่ยนไป หลบซ่อนร่างหลักเอาไว้ จากนั้นก็เผยเป็นร่างกลวัฏสงสารที่หนึ่ง
ตัวตนของร่างกลวัฏสงสารที่สองเย่ห้าวหรานจะนำออกมาใช้ง่าย ๆ ไม่ได้แล้ว เพราะว่าการสืบทอดของวิถีแห่งค่ายกลดึงดูดความสนใจของของผู้คนมากเกินไป หากนำออกไปเดินภายนอก มันจะยุ่งยากมากขึ้น
โลกาดาราอุดรมีนักยุทธ์จำนวนมากมารวมตัวกันอยู่ที่คูเมืองใหญ่ มีกองกำลังต่าง ๆ มากมายผสมปนเปกันอยู่ มีคนจำนวนมากที่มาเพื่อค้าขายยาเซียนโดยเฉพาะ
ยาเซียนระดับหกถึงแม้ว่าจะแพงมาก แต่ที่โลกาดาราอุดรมีจ้าวนภาอยู่จำนวนไม่น้อย ดังนั้นการจงใจซื้อในปริมาณมากจึงไม่ได้โดดเด่นจนเกินไป
เมื่อรวบรวมยาเซียนมาได้ครบทั้งหมด หลัวซิวเปิดถ้ำออกมา ณ เทือกเขาแห่งหนึ่ง จากนั้นก็จัดวางค่ายกลซ่อนงำเพื่อปิดบังออร่า สิ่งแรกที่จำเป็นต้องทำ นั่นก็คือกลั่นยา
พลิกมือหยิบเตายาออกมา ในใจของหลัวซิวก็พลันชะงักไปโดยไม่รู้ตัว
นับตั้งแต่ที่เขาค้นคว้าวิจัยทางด้านยาและค่ายกลภายในสำนักไท่ไหล ด้วยสถานะเจ้าสำนักน้อยของวิถีแห่งค่ายกล เตายาที่ใช้ในการกลั่นยา ย่อมไม่ใช่ระดับธรรมดาทั่วไป
