“ไท่หยุนตายแล้ว สายค่ายกลจะผสานรวมเป็นหนึ่งกับสายนักยุทธ์ นับแต่นี้จะไม่มีสองสายอีกต่อไป เหลือเพียงสายเดียวเท่านั้น”
“จงมอบสิ่งที่ไท่หยุนสืบทอดให้เจ้ามาออกมา ข้าจะเมตตารับเจ้าเป็นศิษย์ด้วยตนเอง ให้สถานะและตำแหน่งที่สูงส่งภายในสำนักไท่ไหลกับเจ้า มันจะสามารถมอบโชคที่ดีให้แก่เจ้า!”
ชายชราคนหนึ่งกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา ความหมายที่แสดงออกมาในคำพูดนั้นชัดเจนอยู่แล้ว ไม่แม้แต่จะปกปิดสิ่งใดแม้แต่น้อย
เป็นเวลาหลายแสนปีแล้ว สายค่ายกลทำความดีความชอบมากมายให้กับสำนักไท่ไหล แต่มันกลับเหมือนความเป็นอิสระ ตลอดมานั้นมันทำให้สายนักยุทธ์รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก แต่ด้วยศักดิ์ศรีและความสามารถของอาจารย์ไท่หยุนช่วยขัดขวางเอาไว้ จึงสามารถรักษาสถานการณ์เฉพาะหน้าไว้ได้
แต่วันนี้ไท่หยุนตายแล้ว สำหรับสายนักยุทธ์ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี หากสามารถควบคุมสายค่ายกลทั้งหมดไว้ในมือได้ เช่นนั้นการพัฒนาของสำนักไท่ไหลก็จะสามารถยกระดับขึ้นได้อีกมากโข
แต่สิ่งที่ทำให้อาจารย์ราชาเทพสายนักยุทธ์คาดไม่ถึงก็คือ หลัวซิวเพียงแค่กวาดตามองเขาด้วยสายตาเย็นชาครั้งหนึ่ง ทันใดนั้น ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อย พ่นคำสั้น ๆ คำหนึ่งออกมา ออกไป!
เสียงของเขาเบามาก แต่กลับน่าตกใจรางกับเสียงของสายฟ้าฟาด ดังก้องอยู่ในแก้วหูของอาจารย์ราชาเทพทั้งสองท่าน ทำให้เกิดเสียงอื้ออึงในหูของเขา
ออกไป!
ออกไป!
ออกไป!
……
แม้แต่เหนือท้องฟ้าทั่วทั้งสำนักไท่ไหล ก็ยังดังก้องไปด้วยเสียงนี้ ทำให้ศิษย์ทุกคนภายในสำนักต่างก็ได้ยินกันอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน
สีหน้าของอาจารย์ราชาเทพทั้งสองท่านก็พลันเหยเกขึ้นมาในทันที ในฐานะของเป็นอาจารย์ที่สูงส่งและเป็นที่นับถือของสำนักไท่ไหล ผู้น้อยคนหนึ่งกลับกล้ามาด่าตน?
“รนหาที่ตาย!”
ชายชราผอมบางตะโกนด้วยความโกรธจัด ผมสีขาวปลิวไสว ร่างกายล้อมรอบไปด้วยออร่าที่ทรงพลัง กดดันมาทางหลัวซิว
ผู้นี้คืออาจารย์ไท่ซาน อาศัยแดนกฎธาตุดินดั้งเดิมขั้นที่สี่ สำเร็จเป็นราชาเทพ
หลัวซิวสีหน้านิ่งเรียบ ภายใต้แรงกดดันของผู้แข็งแกร่งราชาเทพ มันไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อเขาเลยแม้แต่น้อย
อาจารย์ไท่ซานก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว แสงดินสีเหลืองหลอมรวมอยู่ระหว่างฝ่ามือและนิ้ว คว้าเข้ามาทางหลัวซิว
ปัง!
วินาทีนี้เอง หลัวซิวก็ก้าวเดินหน้าไปก้าวหนึ่ง ภายในแขนซ้ายพลังแห่งโลกาดารา 17 ดวงโคจรเข้าด้วยกัน
เขายกมือซ้ายขึ้นมา หมัดหนึ่งชกออกไป เป็นหมัดที่สะเทือนฟ้าดิน
ความลึกลับของจุดปราณร่างเนื้อ ตอบรับกับร่างกายมนุษย์หกส่วนใหญ่ ในวันนี้แขนซ้ายของเขาเปิดไปแล้ว 17 จุดลมปราณ พลังการโจมตีนั้น กูเหมือนจะ เรียกได้ว่าเป็นราชาแห่งศัสตราวุธ!
ถึงแม้ 18 จุดลมปราณจะยังไม่บริบูรณ์ แต่ร่างเนื้อของหลัวซิวในเวลานี้ กลับห่างไกลจากขอบเขตของเทพฟ้าไปมากทีเดียว ก้าวข้ามไปสู่ระดับของราชาเทพแล้ว
พลังเวทย์ราชาเทพ ร่างเนื้อราชาเทพ!
ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธของขลังใด ๆ ร่างเนื้อของเขาก็คือราชาแห่งศัสตราวุธ
“ปัง!”
ละอองเลือดระเบิดออกเป็นวงกว้าง ฝ่ามือของอาจารย์ไท่ซานแหลกสลายภายใต้การโจมตีด้วยหมดเดียวของหลัวซิว เลือดสดสาดกระเซ็นไปทั่ว ร่างกระเด็นลอยออกไป
ร่างยุทธ์ร่างเนื้อ ไม่ฝึกกฎ ร่างยุทธ์ระดับราชาเทพ อาศัยเพียงร่างเนื้ออสุรา ก็สามารถบดขยี้ความแข็งแกร่งของพลังแห่งกฎดั้งเดิมขั้นที่สี่ได้
“เจ้าเป็นใครกันแน่?”
อาจารย์อีกท่านหนึ่ง อาจารย์ไท่หลิงแห่งสำนักไท่ไหลมีสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที
ตามข้อมูลที่พวกเขารับรู้มานั้น เย่ห้าวหรานเข้าร่วมสำนักยังไม่ถึงสิบปี ในตอนแรกมีเพียงผลการฝึกตนแดนเจ้ายุทธจักร เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ?
สีหน้าและแววตาของอาจารย์ไท่ซานบิดเบี้ยว เลือกสดสีแดงย้อมเต็มชุดคลุมชาวบนตัวของเขา ภายใต้การโคจรของพลังแห่งกฎ ฝ่ามือข้างที่แหลกสลายไปนั้นได้งอกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ดวงตาแก่เฒ่าขุ่นมัวจ้องไปที่หลัวซิว ไม่มีการดูถูกในการแสดงออกของเขาอีกต่อไป มีแต่ความกลัวที่ฝังลึกในใจ
วิถีแห่งนักยุทธ์ แบ่งออกเป็นสามระบบใหญ่ เส้นทางที่นักยุทธ์ส่วนมากเลือกเดิน นั่นคือเพิ่มผลการฝึกตน ทำความเข้าใจกฎ บรรลุแดนแล้วแดนเล่า
มีเพียงนักยุทธ์สองประเภทที่หาได้ยาก ประเภทหนึ่งคือนักยุทธ์กลั่นร่าง อีกประเภทคือนักยุทธ์กลั่นวิญญาณ。