“เกรงว่าผู้เพื่อนยุทธ์จะแน่วแน่จนเอาแต่ใจเกินไปเสียแล้ว สำนักเทียนเจี้ยนของข้าสืบทอดมานานนับล้านปี ไม่ใช่ที่ที่จะยอมให้ใครมารังแกได้ง่าย ๆ” อาจารย์สำนักเทียนเจี้ยนรับรู้ถึงจิดสังหารของหลัวซิวแล้ว คำพูดและท่าทีก็พลันดูน่าเกรงขามขึ้นมา
ในฐานะที่เป็นกองกำลังใหญ่ ไม่มีทางที่จะยอมอ่อนข้อให้โดยง่าย เพราะว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องถึงหน้าตาและรากฐานที่มั่นคงของสำนัก
“ข้ายอมถอยหลังให้เจ้าก้าวหนึ่งแล้ว ผู้เพื่อนยุทธ์อย่าได้รังแกกันไปมากกว่านี้เลย” ออร่ารอบตัวของอาจารย์เทียนเจี้ยนพลันประทุขึ้นมา ราชาเทพช่วงต้นทั้งสองที่อยู่ด้านหลังเขา ก็ปลดปล่อยออร่าออกมา และตรึงหลัวซิวเอาไว้
“ในตอนที่เจ้าใช้ผลการฝึกตนขั้นสูงมากดดันรังแกผู้อื่น เคยคิดบ้างหรือไม่ว่าตนก็อาจจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกเช่นนี้บ้าง?”
หลัวซิวยิ้มเย้ยหยัน “ในวันนี้ข้ารังแกเจ้า แล้วอย่างไร? ข้าเอาแต่ใจไม่ฟังเหตุผลเช่นนี้ แล้วเจ้าจะทำสิ่งใดได้?”
ระหว่างที่พูด หลัวซิวก็ค่อย ๆ ยกมือขึ้น ค่ายเทพระดับแปดมาตรฐานนับสิบภายในหน้ากากนั้นพากันระเบิดออกมา แสงเทวะเจ็ดสีหลอมรวมเป็นกระบี่ยาวราวหลายสิบลี้ กระบี่แสงขนาดมหึมา พุ่งตรงมายังอาจารย์ราชาเทพทั้งสามของสำนักเทียนเจี้ยน
เสียงอึกทึกคึกโครมสะเทือนฟ้าดิน พลังงานมหาศาลที่โหมกระหน่ำล้นออกมา
อาจารย์ราชาเทพทั้งสามต่างกระอักเลือด ร่างกายซวนเซถอยหลังไปอย่างต่อเนื่อง สีหน้าเผยความหวาดผวาออกมา
อาจารย์เทียนเจี้ยนที่เป็นแกนนำนั้นถูกโจมตีเป็นด่านแรก รับการโจมตีส่วนใหญ่เอาไว้ ราชาแห่งศัสตราวุธในมือของเขา ในขณะที่กำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรงกลับเผยรอยแตกออกมา
“ราชาเทพช่วงปลาย!”
ในใจของเขาพลันเคร่งขรึมขึ้นมา การโจมตีของกระบี่แสงเจ็ดสีมันแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก บาดแผลจากกระบี่อันน่าสะพรึงนั้นยาวจากไหล่ร้าวไปถึงช่วงเอว กระทั่งเผยให้เห็นถึงกระดูกภายใน
แค่เพียงการฟาดฟันด้วยกระบี่ครั้งเดียว ในฐานะอาจารย์เทียนเจี้ยนราชาเทพขั้นที่หก เกือบเป็นอันตรายถึงตาย!
เมื่อเห็นว่าแม้แต่อาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดยังถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัสภายในคราเดียว ศิษย์สำนักเทียนเจี้ยนที่อยู่ภายในสำนักเขาด้านล่าง ก็พลันตื่นตระหนกจนถึงขีดสุดในพริบตา หวาดผวาจนเกือบหยุดหายใจ
“คำขอของท่าน ข้าตอบรับ!” อาจารย์เทียนเจี้ยนกัดฟันพูด เลือกที่จะทำข้อตกลงแทน
แต่ทว่า หลัวซิวกลับไม่โอนเอนไปตามคำพูดนั้น ก้าวข้ามผ่านความว่างเปล่าเดินมาด้านหน้า “มารู้ว่าต้องยอมตกลงเอาป่านนี้ สายเกินไปแล้ว……”
สำหรับคนประเภทนี้ หลัวซิวรังเกียจเป็นที่สุด หากสู้ได้ก็สู้ หากสู้ไม่ไหวก็ขอทำข้อตกลงรักษาชีวิต มีสิทธิ์อะไรที่จะเอาทุกเรื่องดีในใต้หล้ามาเป็นของตนเอง?
เห็นเพียงเขายกมือขึ้นชี้ กระบี่แสงเจ็ดสียาวนับสิบลี้ก็พลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ก่อนนี้รับการโจทตีของกระบี่แสงเอาไว้คราหนึ่ง อาจารย์เทียนเจี้ยนก็บาดเจ็บสาหัสแล้ว กระบี่แสงคราที่สองนี้ ต่อให้เขาออกแรงจนหยดสุดท้าย หรือกระทั่งเผาผลาญพลังชีวี ก็ไม่สามารถรับเอาไว้ได้
พื้นที่ที่กระบี่แสงฟาดผ่านไป บนผืนแผ่นดินใหญก็พลันแตกร้าวจนเป็นหุบเหวที่ไม่มีก้นบึ้ง ทั่วทั้งสำนักเขาของสำนักเทียนเจี้ยน แทบจะถูกฟันออกเป็นสองท่อน
อาจารย์เทียนเจี้ยนแดนราชาเทพขั้นหกตายแล้ว ช่องจิตและแหวนเก็บของของเขา ตกลงไปอยู่ในมือของหลัวซิว
ช่องจิตของผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพ สำหรับอสูรดูดจิตโบราณแล้ว ถือเป็นยาบำรุงชั้นยอด สามารถทำให้มันเติบโตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ส่วนตัวของหลัวซิวเอง ในวันนี้ได้มาถึงขั้นที่ไม่จำเป็นต้องดูดกลืนกลั่นแปรช่องจิตเพื่อยกระดับแดนแล้ว นอกเสียจากจะเป็นช่องจิตของผู้แข็งแกร่งราชาเทพช่วงปลาย จึงจะมีประโยชน์สำหรับเขา
คลังสมบัติของสำนักเทียนเจี้ยนก็ถูกหลัวซิวกวาดเอามาเกินครึ่ง ห้ากองกำลังใหญ่ราชาเทพของโลกาดาราอุดรในวันนี้ เหลือเพียงแค่เขามหาเทวะที่เดียวเท่านั้นที่ยังไม่ถูกเขาปล้น
เขามหาเทวะคือกองกำลังอันดับหนึ่งไร้คู่แข็งแห่งโลกาดาราอุดร และยังเป็นสำนักที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของโลกาดาราอุดรอีกด้วย
ว่ากันว่า ท่ามกลางห้ากองกำลังใหญ่ราชาเทพ ต่อให้สี่กองกำลังใหญ่ร่วมมือกันขึ้นมา ก็ยังไม่สามารถเทียบกับเขามหาเทวะได้
แต่สำหรับหลัวซิวแล้ว เขามหาเทวะกลับเป็นภูเขาลูกใหญ่ลูกหนึ่งที่เขาจำเป็นต้องไปทำให้สั่นสะเทือน
เพราะว่าค่ายวาร์ฟล่องหนที่สามารถส่งไปถึงโลกะอัมพรเทวได้นั้น อยู่ภายในเมืองเทวะดาราอุดรแห่งเขามหาเทวะ