นอกจากนี้ยังมีสถานที่ต้องห้ามบางแห่งถูกคนค้นพบ สถานที่เหล่านั้นล้วนปิดผนึกไว้ด้วยค่ายต้องห้ามอันแข็งแกร่ง ทันทีที่มีคนเข้าไปใกล้ ก็จะถูกโจมตีจนกลายเป็นผุยผง ตายอย่างไร้ที่ฝังศพ
ร่างของหลัวซิวได้มาถึงที่ประตูของห้องแห่งหนึ่ง ประตูใหญ่ของห้องแห่งนี้ปิดสนิท ม่านแสงแวววาว มีค่ายต้องห้ามอันแข็งแกร่งอยู่
เมื่อสักครู่นี้เขาพึ่งเห็นคนลองบุกเข้าไป สุดท้ายแล้วพึ่งจะเข้าใกล้ ก็สลายหายไปไปภายในพริบตา ไม่เหลือแม้แต่เถ้าถ่าน
แต่ว่าอยู่ตรงนี้ หลัวซิวสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของลูกแก้วความเป็นตาย
“พรึ่บ!”
ลำแสงสายหนึ่งลอยออกมาจากจากตรงกลางระหว่างคิ้วของเขา ลูกแก้วความเป็นตายเป็นเหมือนดั่งกุญแจดอกหนึ่ง ม่านแสงค่ายต้องห้ามแยกออกหนึ่งรูภายในพริบตา ประตูใหญ่เก่าแก่นั้นได้เปิดออกตาม
ความรู้สึกร้องเรียกหาลอยออกมาจากในห้อง ทำให้หลัวซิวก้าวเดินไปข้างหน้าโดยห้ามไม่ได้
เมื่อเขาได้เดินเข้าไป กลิ่นอายของกฎอันเข้มข้นได้พุ่งเข้ามากระทบหน้า เขาต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า ภายในห้องนั้นแผ่ซ่านไปด้วยกฎที่ไม่สิ้นสุด มากมายหลากหลายสีสัน ดูพิลึกกึกกือ
ในห้องนั้นมีขนาดกว้างขวาง พลุ่งพล่านไปด้วยกลิ่นอายเก่าแก่นิรันดร์กาล มีสภาพเหมือนตอนที่จักรวาลเปิดเป็นครั้งแรก
กฎในที่แห่งนี้มีลำดับขั้น อยู่ในระดับล่างสุดนั้นคือกฎเบญจธาตุ ทองไม้น้ำไฟดิน
สูงกว่าเบญจธาตุขึ้นมา ก็จะเป็นอัสนีวายุ แต่ในความเป็นจริงแล้วอัสนีวายุนั้นก็เกิดมาจากเบญจธาตุ รวมทั้งหยินหยางด้วย
เหนือหยินหยางขึ้นมา เป็นตรีภพ เหนือตรีภพ เป็นวงล้อที่เกิดจากการผสมกันของความเป็นตาย และยังมีปริภูมิผสมรวมเข้าด้วย กลับเป็นตัวอักษร ‘กลับ’
อักษรตัวหนึ่งนั้นดูง่ายมาก กลับแฝงไปด้วยความมหัศจรรย์ไร้ที่สิ้นสุดของเวลาและปริภูมิ
อยู่ในที่แห่งนี้ เหมือนดั่งได้อยู่ในทะเลแห่งกฎ ทำให้หลัวซิวรู้สึกว่าทุกรูขุมขนบนร่างกายกำลังถูกซะล้างจากกฎดั้งเดิม
ไม่เพียงเท่านั้น กฎในที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่ในเพียงแดนเดียวเท่านั้น เขาสัมผัสได้ถึงความมหัศจรรย์ของบ่อเกิดแห่งกฎขั้นหนึ่ง และสัมผัสได้ถึงความมหัศจรรย์ของบ่อเกิดแห่งกฎขั้นสี่ หรือแม้กระทั่งสัมผัสได้ถึงแดนของกฎในระดับที่สูงยิ่งกว่า
“อยู่ที่นี่ สามารถทำให้ข้าเปิดจุดลมปราณที่สิบแปดของแขนซ้ายได้!”
รูม่านตาของหลัวซิวหดลงในทันที ดวงดาวสีดำได้ปรากฏขึ้นมาที่แขนข้างซ้ายของเขาดวงแล้วดวงเล่า
ดวงดาวสีดำพวกนี้ประทับอยู่บนแขนซ้ายของเขา ตามการจัดเรียงด้วยกฎเกณฑ์ที่แปลกประหลาด ที่ตรงกลางของดวงดาวทั้งสิบแปดดวง มีวังวนปรากฏขึ้น เป็นจุดลมปราณที่สิบแปดนั่นเอง!
เพียงแค่ฝึกฝนจุดลมปราณนี้ให้บริบูรณ์ เช่นนั้นจุดลมปราณแขนขวาของทั้งหกจุดใหญ่ของร่างกายก็จะฝึกฝนได้เสร็จสมบูรณ์ เขาจะได้รับการเติมเต็มจากบ่อเกิดพลังชีวิตอย่างไร้ขีดสุด พลังการต่อสู้เพิ่มขึ้นมาในอีกระดับหนึ่ง!
ครืนนนน…….
กฎที่อยู่รอบ ๆ ได้สั่นสะเทือนขึ้นมา จากนั้นพลังแห่งกฎดั้งเดิมก็ได้ถูกวังวนจุดลมปราณที่สิบแปดบนแขนซ้ายของหลัวซิวดูดกลืน มันดูดลงไปอย่างบ้าคลั่ง
เพียงชั่วพริบตา แม้กระทั่งร่างกายของเขาเองก็ได้ถูกทับถมลงไปด้วย วินาทีนี้เอง ร่างกายของหลัวซิวได้พังทลายลงอย่างแปลกประหลาด กลายเป็นห้วงดารา
ในขณะที่ร่างกายของเขากลายเป็นห้วงดารานั้น ดวงจิตของเขากะพริบไปด้วยแสงสีขาวดำ ควบแน่นความเป็นตาย รวบรวมห้วงเวลา
ช่องจิตเป็นเหมือนดั่งดวงดาว ยืนหยัดอยู่ตรงกลางห้วงดารา เหมือนดั่งดาวดวงหลักที่มีเพียงหนึ่งเดียวในห้วงดาราในจักรวาลแห่งนี้
ห้วงความคิดของเขาควบแน่นอยู่ในช่องจิต มองดูทั้งหมดนี้อย่างชัดเจน วิวัฒนาการวิถียุทธ์ของตนเองออกมา
ร่างกายเป็นเสมือนดั่งฟ้าดิน สามารถเปลี่ยนเป็นห้วงดารา รองรับวัฏจักร……
ช่องจิตของเขาผนึกรวมความเป็นตาย รวบรวมห้วงกาลเวลา ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นวัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิด ได้มีโครงร่างของวัฏจักรขึ้นมาแล้ว
ดวงดาวสีทองสิบแปดดวงปรากฏขึ้น ลอยล้อมรอบอยู่บริเวณใกล้เคียงดาวช่องจิต จากนั้นดวงดาวสีดำสิบเจ็ดดวงก็ได้ปรากฏขึ้นตามมา และยังมีเงาเลือนรางของดวงดาวสีดำดวงที่สิบแปด กำลังค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ในห้วงดาราที่เกิดจากการวิวัฒนาการของร่างกายแห่งนี้ หลัวซิวรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้อยู่เหนือสิ่งใด ๆ กฎและกฎเกณฑ์ทั้งหมดล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
