มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1634
เวลานี้ ปราณโลหิตจำนวนมหาศาลหลอมรวมกัน มีการเต้นของหัวใจที่แข็งแกร่งออกมาจากภายใน ทุกจังหวะ ต่างสั่นสะเทือนฟ้าดิน สั่นสะเทือนอนัตตา
ในเวลาเดียวกัน กะโหลกที่ร่วงหล่นลงมาก็ลอยขึ้น ผสานรวมกับปราณโลหิต ภายในกะโหลกศีรษะ ตัวหยั่งรู้ที่พังไปแล้วกลับกลายเป็นการผสมรวมกันจนแยกไม่ออก ตำหนักวัฏสงสารแห่งหนึ่งลอยขึ้นอย่างสงบ เหนือตำหนักวัฏสงสาร วงล้อดำเหลืองแปลกตากำลังหมุนอยู่ เหมือนกับเป็นดาราบรรพกาลดวงหนึ่งที่ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์
หลังจากนั้น ดาราสีทองสิบแปดดวง ดาราสีดำสิบแปดดวง ดาราสามสิบหกดวงปรากฏขึ้น หมุนรอบวงล้อและตำแหน่งของตำหนักวัฏสงสาร
ตัวหยั่งรู้กลายเป็นห้วงดารา! หลัวซิวทำได้แล้ว!
วงล้อโบราณนั้น ชีวิตและความตายเป็นหนึ่งวง เวลาและปริภูมิก่อตัวเป็นฐาน กลายเป็นวงล้อ เป็นแบบจำลองของวัฏสงสาร
ภายในเต็มไปด้วยความลึกลับของชีวิตและความตาย ยังมีเวลาและปริภูมิที่ให้ตามติดอดีตสู่ปัจจุบัน มองไปยังอนาคต…
ขณะนี้ เขาสัมผัสได้ถึงความลึกลับของวัฏสงสาร แต่สิ่งที่ได้สัมผัสนั้นเป็นเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น หนทางยังอีกยาวไกล กว่าจะเข้าใจความลี้ลับของวัฏสงสารที่แท้จริง
สิ่งใดคือวัฏสงสาร? นับแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบันต่างก็มีการอธิบายที่แตกต่างกัน……
มีคนกล่าวว่า เมื่อวิญญาณได้ถือกำเนิดขึ้น ก็จะทิ้งตราประทับไว้ที่วัฏสงสาร หลังจากที่วิญญาณตายไปแล้ว ตราประทับของมันจะเกิดใหม่ผ่านวัฏสงสาร กลายเป็นวิญญาณที่เกิดใหม่
มีบางคนกล่าวว่า วัฏสงสารคือลำดับเส้นทางของจักรวาลฟ้าดิน สรรพสิ่งล้วนมีชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครสามารถหลีกหนีได้ ต่อให้เป็นอมตะเช่นจักรพรรดิเทพ สามารถดำรงอยู่ได้เป็นพันล้านปีเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่สามารถรอดพ้นจากโชคชะตาของวัฏสงสาร
มีบางคนกล่าวว่า วัฏสงสารสามารถย้อนกลับไปในอดีตและปัจจุบัน และยังสามารถมองเห็นอนาคตได้อีกด้วย
วัฏสงสารแท้จริงคือสิ่งใด นับตั้งแต่โบราณกาลมาก็ไม่ได้มีข้อสรุป เพราะยังไม่เคยมีใครเคยสัมผัสถึงระดับนี้ และไม่มีใครเคยฝึกตนกฎชีวิต ความ ตายเวลาและปริภูมิ สี่กฎใหญ่พร้อมกันในเวลาเดียว และยังสามารถฝึกตนสี่กฎใหญ่จนถึงแดนที่สูงเช่นนี้ด้วย
หลัวซิวสามารถทำได้ นับเป็นสถานการณ์พิเศษทำให้มันเป็นเช่นนั้น มันยังเกี่ยวข้องกับโอกาสมากมายที่เขาประสบด้วยตัวเอง ไม่สามารถขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปได้
“วัฏสงสารดำรงอยู่ระหว่างฟ้าดิน……”
ทันใดนั้น หลัวซิวเหมือนจะเข้าใจบางอย่าง เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ในวินาทีนี้เขาเข้าใจถึงที่ได้เห็นวัฏสงสารภายในลูกแก้วความเป็นตายแล้ว มันไม่ใช่วัฏสงสารที่แท้จริง แต่เป็นการฉายภาพของวัฏสงสาร
ภายในจักรวาล เมื่อมองในมุมเล็ก ดาราทุกดวงคือฟ้าดิน เมื่อมองมุมใหญ่ ทั่วทั้งจักรวาล ก็คือฟ้าดินแห่งหนึ่ง
วัฏสงสารอยู่ในทุกที่ ดำรงอยู่ภายในโลกดาราแต่ละใบ และยังดำรงอยู่ทั่วทั้งจักรวาล
ส่วนวัฏสงสารที่หลัวซิวฝึกตน ไม่ใช่วัฏสงสารของจักรวาลฟ้าดิน แต่เป็นวัฏสงสารของตัวเขาเอง
เขาสามารถอาศัยวัฏสงสารของตนเอง เพื่อทำความเข้าใจวัฏสงสารของฟ้าดิน
จนกระทั่งวันหนึ่ง ตัวเขาเองสามารถกลายเป็นห้วงดาราอันกว้างใหญ่ได้อย่างแท้จริง วัฏสงสารของเขาก็คือวัฏสงสารของจักรวาล เชี่ยวชาญกฎระเบียบ
ดูเหมือนเขาจะรู้สึกถึงการมีอยู่ของวัฏสงสารฟ้าดินได้อย่างคลุมเครือ เขาสามารถรู้สึกได้ว่าเขาได้รับการยอมรับจากวัฏสงสารฟ้าดิน ตำหนักวัฏสงสารและลูกแก้วความเป็นตายภายในตัวหยั่งรู้ห้วงดารา สั่นสะท้าน
วัฏสงสาร ก็คือเทียนเต้า
เทียนเต้ายอมรับ ทัณฑ์สายฟ้าสลายไป
โลกที่มืดมิดกลับมาสว่างสดใสอีกครั้ง ทัณฑ์สายฟ้าสลายไป ไม่มีหลงเหลืออยู่อีก ราวกับว่าไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นมาก่อน
ในเวลานี้เอง หลัวซิวมองออกไปยังอนัตตาที่ห่างไปกว่าแสนลี้ สายตาตกอยู่บนร่างของชายหนุ่มชุดแดงผู้นั้นที่ยืนเด่นสง่าอยู่บนดาดฟ้าของเรือรบ
“ปัง!”
เพียงแค่พริบตาเดียว อนัตตาแตกสลาย เรือรบสีทองใต้ฝ่าเท้าของชายหนุ่มชุดแดงบดขยี้ปริภูมิ ผ่านระยะทางแสนลี้ไปอย่างรวดเร็ว แทงตรงมายังห้วงจักรของหลัวซิว
“โชคของเจ้า โอกาสของเจ้า ทุกอย่างของเจ้า มันได้เป็นของข้าแล้ว!”
สีหน้าของชายหนุ่มชุดแดงเย็นชา คำพูดกลับเต็มไปด้วยน้ำเสียงแห่งการดูถูกและความเย่อหยิ่งที่หาใดเปรียบไม่ได้
ออร่าบนร่างของเขาทรงพลังมาก ออร่าของเขาทรงพลังมาก แข็งแกร่งกว่าราชาเทพทุกคนที่หลัวซิวเคยเจออย่างเทียบไม่ติด