ในขณะเดียวกันยังมีป้ายบัญชาการของเค่อชิงผู้คุมกฎหนึ่งชิ้นส่งมาให้หลัวซิวด้วย ซึ่งหมายความว่าเขาเป็นคนในงานประมูลอัคคีนภาแล้ว
และสิ่งที่เขาต้องทำก็คือนำยาเซียน ของขลังและผังค่ายที่เขากลั่นได้ไปทำการประมูลที่งานประมูลอัคคีนภา และทางลานประมูลจะเอาส่วนแบ่งจากการประมูล ต่างได้รับผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ร้านเขาก็ต้องปิดตัวลงเช่นกัน มิเช่นนั้นละก็หากทุกคนมาขอให้เขากลั่น ผู้ใดจะไปซื้อในงานประมูลอีกล่ะ?
เวลาล่วงเลยไปอย่างเงียบ ๆ ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว ระยะเวลาสิบวันก็ผ่านไปแล้ว อิงบูเฉิงมาเยี่ยมเยียนหลัวซิวอีกครั้ง มาเอาพระราชสาส์นมกุฎเทพกลับ
ภายในพระราชสาส์นมกุฎเทพ มีการตระหนักรู้ในแดนของผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพซ่อนแฝงอยู่ ระดับของกฎที่อยู่ภายในสูงถึงแดนดั้งเดิมขั้น 6 ถึงแม้จะไม่เกี่ยวเนื่องไปถึงกฎชั้นยอด กลับทำให้หลัวซิวรู้และเข้าใจถึงแขนงวิชาใกล้เคียงได้ด้วย ได้รับการตระหนักรู้มาอย่างมาก
ระยะเวลาสิบวันสำหรับคนทั่วไปนั้นสั้นมาก ๆ แต่หลัวซิวกลับมีโลกาศุภร ซึ่งเท่ากับว่าเขามีเวลาหนึ่งร้อยวันถ้วน เดิมทีเขาเพิ่งบรรลุถึงแดนเทพฟ้าได้ไม่นานนัก แดนกฎอยู่ที่แดนดั้งเดิมขั้น 4 ขั้นปฐมภูมิ ปัจจุบันกลับบรรลุถึงช่วงปลาย อยู่ไม่ไกลจากแดนดั้งเดิมขั้น 5 แล้ว
เนื่องจากกฎที่เขายึดกุมคือกฎชั้นยอด พลังของกฎขั้น 4 ช่วงปลายสามารถเทียบทัดพลังกฎขั้น 5 ช่วงปลายของกฎทั่วไปได้ โดยทั่วไปแล้วผู้ที่มีแดนกฎระดับนี้นั้น มีเพียงยอดฝีมือระดับกึ่งมกุฎเทพเท่านั้น!
ขณะที่อิงบูเฉิงเอาพระราชสาส์นมกุฎเทพกลับไปนั้น ในขณะเดียวกันเขาก็ได้ทิ้งแหวนเก็บของไว้ให้หลัวซิวหนึ่งวง ซึ่งภายในมียาเซียนระดับ 8 ไม่น้อยเลย รวมไปถึงวัตถุดิบในการภัณฑ์กลั่นระดับ 8 ด้วย
ในเมื่อเขาเคยตระหนักรู้พระราชสาส์นมกุฎเทพไปแล้ว จึงต้องทำอะไรเพื่องานประมูลอัคคีนภาบ้าง
หลัวซิวไม่ได้ปฏิเสธในจุดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคือในมุมมองเขา เขามองว่านี่เป็นการที่งานประมูลอัคคีนภามอบเงินให้แก่เขา
ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นยาหรือภัณฑ์กลั่น อัตราการกลั่นสำเร็จของหลัวซิวคือร้อยเปอร์เซ็นต์ ไร้ซึ่งคำว่าล้มเหลว อิงจากอัตราส่วนสามต่อหนึ่ง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าของทั้งหมดที่ทางลารประมูลให้เขา มีสองในสามที่จะตกเข้ากระเป๋าเขา
หลังจากเปิดโลกาศุภรแล้ว เขาจึงนำยาเซียนทั้งหมดกลั่นออกมาเป็นเม็ดยาเซียนอย่างรวดเร็ว บวกกับยาเซียนส่วนหนึ่งที่เหลือจากการเปิดร้านกลั่นยาให้ผู้อื่น ยาเซียนระดับ 8 ที่อยู่ในมือเขามีมากถึงร้อยกว่าเม็ดแล้ว
เมื่อมียาเซียนระดับ 8 เหล่านี้ สิ่งแรกที่หลัวซิวต้องทำก็คือฝึกเคล็ดแสงดาวเทียนเต้า!
การจะเปิดจุดลมปราณร่างเนื้อ แค่อาศัยยาเซียนระดับ 8 นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก ๆ อย่างน้อยก็ต้องใช้ยาเซียนระดับ 9 แต่การฝึกเคล็ดแสงดาวเทียนเต้ากลับไม่ได้ยากขนาดนั้น ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือขาดภาคต่อของวรยุทธ์นี้
อาศัยภูมิฐานหมื่นจักรวาลไร้รูปที่ตัวเองริเริ่ม ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา หลัวซิวไม่เคยหยุดการอนุมานเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าเลย เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าตัวเองไม่มีทางเทียบเคียงกับผู้ริเริ่มเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเขาจึงคิดค้นริเริ่มวิธีการใหม่ ใช้เคล็ดแสงดาวเทียนเต้าเป็นพื้นฐาน ใช้วรยุทธ์ชั้นยอดอย่างพลังจุติมรณะเป็นต้นแบบ รวมไปถึงบำเพ็ญพลิกทมิฬและวิชาบรรพเทพโลหิตต่าง ๆ มาอนุมานวรยุทธ์ภาคต่อที่เหมาะสมกับตัวเอง
จากการอนุมานของเขา เคล็ดแสงดาวเทียนเต้าในแดนเทพฟ้า สิ่งที่ผนึกรวมออกมาไม่ใช่เวทย๋ดาราสีทองอีกต่อไป แต่เป็นกฎดารา
อิงจากการแบ่งดารา 18 ดวงในทุกแดนใหญ่ ๆ เมื่ออยู่ในแดนเทพฟ้า เขาต้องผนึกรวมดาราสี่ดวงของกฎการเวียนว่ายตายเกิดและห้วงเวลาทั้งสี่กฎใหญ่ ส่วนอีกสองดวงที่เหลือคือการเวียนว่ายตายเกิดหนึ่งดวง และห้วงเวลาหนึ่งดวง เพื่อทำให้สี่กฎชั้นยอดต่างรักษาสมดุลอยู่เสมอ
หลังจากผนึกรวมกฎดาราได้แล้ว จากการที่แดนกฎของตัวเขาเพิ่มขึ้น กฎดาราก็จะแข็งแกร่งตามเช่นกัน เป็นเช่นเดียวกันกับการวิวัฒนาการของของขลัง