หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง อิงบูเฉิงก็เดินมาถึงห้องพักของหลัวซิว หลังจากทั้งสองพบหน้ากัน อิงบูเฉิงก็ทำท่าคารวะพลางยิ้มพลางกล่าว: “ข้าน้อยมาเยี่ยมเยียนอย่างบุ่มบ่าม หากรบกวนผู้เพื่อนยุทธ์เย่ ได้โปรดให้อภัยด้วยนะ ครั้งนี้ที่แซ่อิงมาตามหาผู้เพื่อนยุทธ์เพราะมีเรื่องหนึ่งที่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้เพื่อนยุทธ์”
“เรื่องอันใดหรือ?”หลัวซิวเอ่ยปากถาม
“ไม่ทราบว่าผู้เพื่อนยุทธ์เย่เคยได้ยินคำว่าดาราแห่งกาลเวลามาก่อนหรือไม่?”อิงบูเฉิงยิ้มพลางเอ่ยปากถาม
หลัวซิวขมวดคิ้วลงเล็กน้อย เขาไม่เคยได้ยินคำว่าดาราแห่งกาลเวลามาก่อนจริง ๆ แต่ทว่าเมื่อดูจากชื่อ บางทีมันอาจจะเป็นดาราที่มีความเกี่ยวข้องกับกฎเวลาก็เป็นได้ นี่จึงทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงดารากฎเวลาที่ผนึกรวมได้ในเมื่อครู่นี้
“ข้าน้อยปิดขังมายาวนาน ไม่เคยได้ยินดาราแห่งกาลเวลามาก่อนจริง ๆ ”หลัวซิวส่ายหน้าพลางตอบกลับ เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าในเมื่ออิงบูเฉิงมาตามหาตนเองแล้ว เขาต้องบอกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับดาราแห่งกาลเวลาให้ตนทราบอย่างแน่นอน
และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ด้วย เมื่อเห็นว่าเขาส่ายหน้า อิงบูเฉิงจึงรีบยิ้มพลางพูดต่อ: “การที่ผู้เพื่อนยุทธ์ไม่รู้จักดาราแห่งกาลเวลานั้นก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก ๆ ในโลกะดาราคุนหลุนของเรา มีเพียงกองกำลังระดับมกุฎเทพเท่านั้นถึงจะยึดกุมข่าวกรองที่เกี่ยวข้องกับดาราแห่งกาลเวลา กองกำลังทั่วไปมากสุดก็แค่เคยได้ยินมาบ้างเล็กน้อย”
“ดาราแห่งกาลเวลาคือดาราที่พิเศษดวงหนึ่ง เวลาส่วนมากมันจะอยู่ในสถานะหลบซ่อนตลอด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อตาหรือตัวสำนึก ล้วนไม่สามารถสัมผัสออร่าการคงอยู่ของมันได้ มีเพียงน้อยครั้งมาก ๆ ที่มันจะปรากฏตัวออกมาเอง”
อิงบูเฉิงค่อย ๆ เอ่ยปากพูด: “นอกพรมแดนธาตุดาราคุนหลุนและธาตุดาราอัมพรเทวที่ติดต่อกันของเรา อดีตเคยมีร่องรอยที่ชี้ให้เห็นว่าดาราแห่งกาลเวลาเคยปรากฏบริเวณนั้น จากการคิดคำนวณของอาจารย์มกุฎเทพทุกท่าน ดาราแห่งกาลเวลาจะปรากฏอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้!”
จากการบรรยายของอิงบูเฉิง หลัวซิวมีความเข้าใจต่อดาราแห่งกาลเวลามากยิ่งขึ้นแล้ว และเมื่อยิ่งเข้าใจมาก เขาก็ยิ่งค้นพบว่าลักษณะเฉพาะของดาราแห่งกาลเวลาที่กล่าวมานั้น ค่อนข้างคล้ายคลึงกับดารากฎเวลาที่เขาเพิ่งผนึกรวมได้ในจุดตันเถียนชี่ไห่
และสาเหตุที่อิงบูเฉิงบอกเล่าให้เขาฟังเยอะเช่นนี้นั้น เขาก็ต้องมีจุดประสงค์ของเขาเองอยู่แล้ว นั่นก็คือเชิญชวนหลัวซิวไปสำรวจดาราแห่งกาลเวลาด้วยกัน
เนื่องจากกฎที่อยู่บนดาราแห่งกาลเวลามหัศจรรย์ จึงมีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งกว่านั้นคือบนดาราแห่งกาลเวลาค่ายกลพรสวรรค์จำนวนมากที่วิวัฒนาการมาจากกฎฟ้าดิน ในฐานะที่หลัวซิวเป็นนักค่ายเทพระดับ 8 คนหนึ่ง หากสามารถเชิญชวนให้เขาไปสำรวจพร้อมกันได้ละก็ โอกาสที่จะทำสำเร็จก็ต้องมีมากกว่าเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็ทราบบุคคลที่สนับสนุนงานประมูลอัคคีนภาอยู่เบื้องหลังแล้วเช่นกัน แท้จริงแล้วผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็คืองานประมูลคุนหลุน งานประมูลอัคคีนภาที่เขาอยู่เป็นเพียงสาขาย่อยของงานประมูลคุนหลุน
กองกำลังที่มีผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเทพคอยปกปักรักษาจริง ๆ ก็คืองานประมูลคุนหลุน
“พวกสมบัติที่งานประมูลอัคคีนภาของเราประมูล ล้วนเป็นสมบัติที่เอามาจากฝั่งงานประมูลคุนหลุนหรือ?”หลัวซิวแกล้งถามเหมือนดูไม่ใส่ใจมาก ๆ
“ใช่บ้าง ไม่ใช่บ้าง”อิงบูเฉิงก็ไม่ได้คิดอะไรมากเช่นกัน ทว่าคำตอบของเขากลับคลุมเครือมาก
“ถ้าเกิดผู้เพื่อนยุทธ์เย่ตอบตกลงละก็ ข้าก็จะพาเจ้าไปรวมตัวกับผู้เพื่อนยุทธ์อีกคนหนึ่ง”อิงบูเฉิงลุกตัวขึ้นพลางพูด
“เหอะ ๆ ผู้ดูแลอิงมาเชื้อเชิญถึงที่ แซ่เย่จะมีเหตุผลปฏิเสธได้อย่างไรเล่า?”หลัวซิวก็ลุกตัวขึ้นเช่นกัน พลางพยักหน้าตอบรับ
“ฮ่าฮ่า มีการเข้าร่วมของผู้เพื่อนยุทธ์เย่ การเดินทางไปดาราแห่งกาลเวลาในครั้งนี้ของเราต้องได้รับดอกผลอย่างมากแน่นอน!”อิงบูเฉิงหัวเราะเสียงดังลั่น
หลังจากผ่านไป 15 นาที หลัวซิวก็มาถึงลานบ้านแห่งหนึ่งในเมืองอัคคีนภาพร้อมกับอิงบูเฉิง และได้เห็นอีกคนหนึ่งที่อิงบูเฉิงพูดถึง
สิ่งที่ทำให้หลัวซิวคาดไม่ถึงเล็กน้อยคือ บุคคลที่สามของการเดินทางในครั้งนี้ของพวกเขา เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
นางเป็นผู้บำเพ็ญเซียนหญิงที่อยู่ในกระโปรงยาวสีเขียวอ่อน ผิวพรรณขาวผ่อง รูปร่างสวยหยาดเยิ้ม ผลการฝึกตนก็อยู่ในแดนราชาเทพช่วงปลายขั้น 7 เช่นกัน