คิดกลับไปยังตำหนักวัฏสงสาร ทำให้ในใจของหลัวซิวก็เต็มไปด้วยความสงสัยในใจเช่นกัน เขารู้สึกอย่างคลุมเครือว่า การปรากฎตัวขึ้นของตำหนักวัฏสงสาร เกี่ยวข้องกับการปรากฏตัวของเขาในโลกะอัมพรเทวไม่น้อย อีกทั้งยังมีเหวญาณปีศาจนั่นอีก ได้ยินมาว่าตำหนักวัฏสงสารก็บินออกมาจากที่แห่งนั้น
หลัวซิวส่ายศีรษะไปมา ทิ้งความสงสัยเหล่านั้นไว้ข้างหลัง ก็เหมือนกับที่เทพแห่งวัฏจักรชีวิตเคยบอกไว้ในตอนนั้น เรื่องบางเรื่องเมื่อรอให้พลังของเขามีมากเพียงพอแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นก็จะได้รู้ได้เข้าใจอย่างแน่นอน
“ปิดขังครั้งก่อน ภายในร่างของข้าก็ได้ผนึกรวมภาพมายากฎดาราสี่ดวง ในวนนี้ก็ได้รับยาเซียนระดับแปดอีกร้อยกว่าเม็ด ค่อนข้างเป็นไปได้ที่จะหลอมรวมกฎดาราสี่ดวงให้เป็นรูปธรรมได้ในคราเดียว ทำให้ผลการฝึกตนบรรลุกฎเกณฑ์ บรรลุถึงเทพฟ้าขั้นสี่”
การผสานรวมของใจแห่งศุภรถูกวางเอาไว้ข้าง ๆ ชั่วคราว หลัวซิวหันมาสนใจด้านฝึกตนของตนเองแทน
ทุกแดนใหญ่ ขั้นสามถึงขั้นสี่ ขั้นหกถึงขั้นเจ็ดล้วนเป็นอุปสรรค เมื่อใดก็ตามที่บรรลุ ความแข็งแกร่งก็จะได้รับการเปลี่ยนแปลงที่สั่นสะเทือนฟ้าดิน เป็นรองแค่เพียงการบรรลุแดนใหญ่เท่านั้น
ว่ากันตามธรรมเนียมปฏิบัติ เพราะว่าพลังของตนเองนั้นแข็งแกร่งเกินไป ดังนั้นการบรรลุแดนเล็กก็จะมีการมาเยือนของทัณฑ์สายฟ้าพิโรธ ด้วยความพิเศษของดาราแห่งกาลเวลา หลัวซิวก็ไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อทัณฑ์สายฟ้าพิโรธหรือไม่
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม โอกาสในการพัฒนาความแข็งแกร่งถูกยื่นมาอยู่ที่ปลายขนตาเช่นนี้แล้ว ไม่นานหลัวซิวก็เข้าสู่สภาวะฝึกตนเป็นที่เรียบร้อย ยาเซียนระดับแปดเม็ดแล้วเม็ดเล่าถูกเขาหยิบโยนเข้าปากและกลั่นแปร
ครั้งนี้ไม่มีโลกาศุภรเป็นตัวช่วย หลัวซิวใช้เวลาสามเดือนเต็ม ๆ จึงจะสามารถผนึกรวมกฎดาราสี่ดวงภายในจุดตันเถียนได้สำเร็จ ที่โชคดีก็คือก่อนหน้านี้เขาได้ผนึกรวมดาราทั้งสี่ดวงไปแล้วกว่าครึ่ง ไม่เช่นนั้นหากต้องการทำทั้งกระบวนการนี้ให้เสร็จสิ้น อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาเกือบสองปี
ระยะเวลาสองปีนั้นมากพอที่จะสามารถเกิดเหตุการณ์ได้มากมาย สิ่งนี้ทำให้หลัวซิวรู้สึกโชคดีที่มีชิ้นส่วนใจแห่งศุภรอยู่ในครอบครอง มิฉะนั้น หากเขาต้องการที่จะบรรลุความแข็งแกร่งผลการฝึกตนอย่างในปัจจุบัน อย่างน้อยก็จำเป็นต้องเลื่อนออกไปอีกสักหนึ่งถึงสองร้อยปีให้หลังเห็นจะได้
หลังจากผนึกรวมกฎดาราสี่ดวงสำเร็จแล้ว เคล็ดแสงดาวเทียนเต้าเล่มที่สองของหลัวซิว ก็ได้ผนึกรวมเข้ากับกฎดาราแปดดวงเรียบร้อยแล้ว
ทันใดนั้นเขาก็สามารถรู้สึกได้ถึงคอขวดกฎเกณฑ์ของผลการฝึกตนมีได้คลายตัวออกแล้ว เพียงแค่เขาต้องการ ก็สามารถที่จะทะลวงมันได้ในทุกเวลา บรรลุเป็นเทพฟ้าขั้นสี่
เขาหันกลับมามองเล็กน้อย ชิ้นส่วนใจแห่งศุภรผนึกรวมกันสำเร็จแล้ว ลักษณะยังคงเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดอยู่เช่นเคย ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมายแต่อย่างใด เพียงแค่ขนาดของชิ้นส่วนนั้นใหญ่ขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หลัวซิวยกมือขึ้นนำชิ้นส่วนใจแห่งศุภรถือเอาไว้ในมือ ภายใต้การโคจรของกฎเวลา ใจแห่งศุภรสำแดงออกมา ครอบคลุมห้องศิลาของถ้ำแห่งนี้ไว้
รู้สึกถึงกระแสไหลเวียนของเวลา สายตาของหลัวซิวก็ยิ่งเปล่งประกายมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการค้นพบที่น่าประหลาดใจของเขา หลังจากชิ้นส่วนทั้งสองผสานเข้าด้วยกัน การไหลเวียนของกระแสเวลาในโลกาศุภร ไปถึงระดับหนึ่งต่อสิบเอ็ดแล้ว!
แต่เดิมคือโลกภายนอกหนึ่งวัน เท่ากับสิบวันภายในโลกาศุภร แต่ในวันนี้มันเท่ากับสิบเอ็ดวันแล้ว
ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้มากมาย แต่หากสั่งสมวันเดือนปีไปเรื่อย ๆ ผลลัพธ์ก็จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงทีเดียว
“ดีมาก!”
ใบหน้าของหลัวซิวเผยรอยยิ้มออกมา วิวัฒนาการของชิ้นส่วนใจแห่งศุภร ทำให้เขารู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่สูญเปล่า กระทั่งมันมีความหมายมากเสียยิ่งกว่าการที่เขาได้รับกมลโลกาชั้นสูงหนึ่งชิ้นมาอย่างยากลำบากเสียอีก
ผลการฝึกตนกำลังจะบรรลุ ไม่มีเหตุผลใดที่เขาต้องอยู่ที่นี่ต่อ หลัวซิวลุกขึ้นยืนและเดินจากไป ผ่านไปได้ไม่นานเท่าใด ก็ผ่านทะลุเส้นทางของถ้ำหิน ออกมายังด้านนอก
ดาราแห่งกาลเวลายังคงเป็นดินแดนรกร้างเช่นเดิม ไม่ได้มีออร่าชีวีแต่อย่างใด และก็ไม่มีเงาร่างของผู้ใดเช่นกัน
ยืนอยู่บนทุ่งโล่งกว้าง หลัวซิวปลดปล่อยการควบคุมพลังของผลการฝึกตนออกมา พลังอำนาจเปิดออกทั้งหมด!