ตำหนักแห่งนี้ ไม่ได้มีชื่อว่าตำหนักปีศาจเพลิง แต่เป็นตำหนักปีศาจหลอม เป็นของขลังจ้าวมหาเทพที่จักรพรรดิเทพมหาวาลกลั่นออกมาตอนที่ยังไม่บรรลุมรรคผล
อาศัยคุณธรรมพิเศษของวังมหาวาล นางสามารถควบคุมเศษเสี้ยวของพลังจากตำหนักปีศาจหลอมได้ มีความเป็นไปได้เล็กน้อยที่จะผนึกคนผู้นี้ไว้ในตำหนักปีศาจหลอม
เหตุผลที่นางลังเล ก็เป็นเพราะเสิ่นปิงหยูไม่แน่ใจ เพราะระดับของตำหนักปีศาจหลอมนั้นสูงเกินไป พลังของนางมีจำกัด เมื่อใดก็ตามที่ล้มเหลว เย่ห้าวหรานต้องเอาคืนเป็นแน่ บางทีนางอาจจะตายอยู่ที่นี่ก็เป็นได้
เสิ่นปิงหยูเป็นผู้หญิงที่ฉลาด นางรู้ดีว่าแม้ในอนาคตนางจะกลายเป็นเทพธิดา ก็ยังต้องสร้างกองกำลังผู้สืบทอดโดยตรงภายในวังมหาวาล เช่นเดียวกับที่นางเลือกจู้เทียนหลงตอนที่อยู่นอกตำหนักปีศาจเพลิง นั่นก็เพื่อฝึกฝนให้เป็นกองกำลังของตนเอง
แต่เย่ห้าวหรานนี้ช่างลึกลับยิ่งนัก ถ้าสามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้ บางทีเขาอาจจะช่วยตนเองได้ในอนาคต
ต่างจากอัจฉริยะอื่น ๆ ที่ลงมาจากโลกาชั้นฟ้า เสิ่นปิงหยูไม่เคยประเมินคนอื่นต่ำเกินไป ต่อให้เป็นนักยุทธ์แห่งโลกามนุษย์ ไม่จำเป็นว่าจะมีระดับการดำรงอยู่ที่แตกต่างกัน
ในขณะที่เสิ่นปิงหยูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลัวซิวผลักประตูและเดินออกไป ในเวลานี้หากนางต้องการต่อสู้ต่อไป ก็สายเกินไปแล้ว
นางถอนหายใจและพูดกับตัวเองว่า “หวังว่าการเลือกของข้าในวันนี้จะไม่ใช่ความผิดพลาด”
เธอไม่ได้เดินออกไป แต่ทำมือทั้งสองเป็นตราประทับ ใช้เคล็ดฟ้าดินมหาวาลสำแดงวิชาอาถรรพณ์วิชาหนึ่ง วางแผนที่จะเก็บตำหนักปีศาจหลอมนี้ไป
เหตุผลหนึ่งที่นางไม่ได้ลงมือไป ก็รวมเรื่องที่เย่ห้าวหรานรู้เกี่ยวกับเคล็ดฟ้าดินมหาวาลด้วย เพราะในตอนที่มีเย่ห้าวหรานอยู่ นางไม่กล้าผลีผลามใช้วิชาอาธรรพ์นี้
วิชาอาถรรพณ์นี้บันทึกอยู่ในวังมหาวาล เป็นคุณธรรมพิเศษที่ควบคุมตำหนักปีศาจหลอม
“โครม……”
ทางหลัวซิวที่เพิ่งเดินออกมาจากตำหนักปีศาจเพลิง ก็สัมผัสได้ถึงตำหนักที่สูงตระหง่านด้านหลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เขามองย้อนกลับไป เห็นฉากที่ทำให้คนค่อนข้างน่าประหลาดใจ เห็นเพียงตำหนักปีศาจเพลิงกำลังหดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งหายไปอย่างไร้ร่องรอย จมลงไปภายในจุดตันเถียนของเสิ่นปิงหยู
“ตำหนักปีศาจหลอมแห่งนี้คือของขลังที่อาจารย์ปู่มหาวาลทิ้งเอาไว้” เสิ่นปิงหยูอธิบายเสียงเรียบ
ถึงแม้ว่าเสิ่นปิงหยูจะไม่ได้พูดอะไรมาก แต่หลัวซิวกลับสามารถมองออก นางกับลังบอกกับตน วังมหาวาลต่างหากที่เป็นมรดกของจักรพรรดิเทพมหาวาล ถึงแม้ว่านางจะฝึกตนเคล็ดฟ้าดินมหาวาล แต่เมื่อเทียบกับวังมหาวาลแล้ว ที่ได้ครอบครองนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น
“อ้อ? เหตุใดเจ้าจึงไม่โจมตีข้า?” หลัวซิวด้วยรอยยิ้ม
“เพราะข้าไม่มั่นใจ การมีศัตรูมากไม่ดีเท่ามีมิตรเพิ่มอีกคนหนึ่ง” เสิ่นปิงหยูตอบตามความจริง
การสนทนาระหว่างทั้งสองไม่ได้ดำเนินต่อไป เพราะเจตนาฆ่าอันแรงกล้า มันห่อหุ้มพวกเขาไว้อย่างท่วมท้นแล้ว
ในช่วงเวลานี้ เหวไร้สิ้นสุดได้รวมตัวกันของยอดฝีมือจากกองกำลังต่าง ๆ จำนวนมาก เมื่อเห็นคนเดินออกมาจากด้านในของตำหนักปีศาจเพลิง ผู้หญิงคนนั้นถึงกับเอาตำหนักปีศาจเพลิงไปด้วย ต่อให้คนเหล่านี้จะโง่เง่ามากกว่านี้สักเพียงใด ย่อมต้องรู้ได้อย่างแน่นอนว่าโอกาสในตำหนักปีศาจเพลิงที่ตั้งอยู่ในเหวไร้สิ้นสุดได้ถูกพวกเขาเอาไปแล้ว
“ฆ่าพวกเขา!”
“พวกเราพยายามอย่างหนักมาตลอดแต่กลับไม่ได้อะไรเลย สังหารไอ้ลูกหมาสองตัวนี้เสีย!”
เพียงพริบตา ราชาเทพนับร้อยโจมตีพร้อมกัน ในจำนวนพวกเขาเหล่านั้นมีกึ่งมกุฎเทพห้าคนเป็นผู้นำ
ผู้คนในตระกูลจู้ก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหวเช่นกัน แต่ภายใต้การสั่งการของจู้เทียนหลง แต่กลับหันมาสังหารเหล่าคนที่โจมตีเสิ่นปิงหยูแทน
“เทพธิดา เชิญทางนี้!”
คนของตระกูลจู้อยู่ดี ๆ ก็ลงมือ ทำให้ทุกคนไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน วงล้อมที่ปิดล้อมโจมตีนั้นถูกเปิดออกเป็นช่องว่าง