ตอนที่8คนน่าสงสาร
สาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าสวมชุดสีเขียวมองชูเชี่ยด้วย สายตาดูหมิ่นนางพูดอย่างเย็นชา “สิ่งที่หม่อมฉันพูดนั้นเป็น ความจริงทั้งหมดพระชายารองมีน้ำใจแต่พระชายาเอก ไม่รับและตบหน้าพระชายารองด้วยพวกหม่อนฉันเห็นกัน หมดและรู้สึกไม่ยุติธรรมต่อพระชายารองที่จริงพระชายา รองไม่อยากให้พวกหม่อมฉันแจ้งเรื่องนี้ให้กับท่านอ๋อง เพียงแค่พวกหม่อมฉันอดทนไม่ได้เท่านั้น”
ชูเซียตอบว่า”ถ้าเรื่องเกิดขึ้นจริงอย่างที่พวกหล่อนพูดข้า ก็รู้สึกเห็นใจแทนพระชายารองเมื่อกี้หล่อนบอกว่าข้าตบ หน้าพระชายารองแล้วข้าถามหน่อยว่าข้าตบด้วยมือข้าง ไหน”
“มือขวาเจ้าค่ะ”สาวใช้นั้นรีบตอบกลับ
ชูเซียยกขวามือขึ้นใช้แรงตบไปหน้าของสาวใช้คนนั้น และถามอย่างอ่อนโยน “ตบอย่างนี้ใช่ไหม”
สาวใช้นั้นโดนตบหน้ามองซูเซี่ยด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว แต่กลับเห็นรอยยิ้มของชูเซี่ยหายไปหมดแถมแววตามีประกายเย็นชานางตกใจมาก
ในเวลาที่คนทำผิดและกลัวจะเป็นเวลาที่เผยข้อบกพร่อง
ได้ง่ายที่สุด
ชูเซี่ยยกมือขึ้นเล็กน้อยถามต่อว่า”ข้าถามหล่อนเมื่อกี้ข้า ตบหน้าพระชายารองอย่างนั้นใช่ไหม”
สาวใช้กัดฟันมองไปที่มี่เหอแต่ใบหน้ามีเหอไม่แสดง อารมณ์อะไรแค่มองกลับนางด้วยสายตาเย็นชาสาวใช้นั้น อดทนความน้อยใจและความโกรธพูดว่า”ใช่เจ้าค่ะ”
ชูเซี่ยเลิกคิ้วและพูดว่า “เมื่อกี้ข้าแค่ตบหน้าหล่อนหนึ่ง ที่ใบหน้าหล่อนก็บวมขึ้นทันทีถ้าข้าตบใบหน้าพระชายา รองรุนแรงอย่างที่บอกทำไมใบหน้านางยังนุ่มนิ่มละเอียด เหมือนเดิมไม่มีรอยนิ้วมือแม้แต่นิดเดียวหรือว่าใบหน้านาง ยังหนากว่าใบหน้าพวกสาวใช้หรือ”
สาวใช้นั้นตอบกลับอย่างโกรธจัด”หม่อมฉันไม่รู้แต่หม่อน ฉันสาบานกับท้องฟ้าได้ว่าไม่ได้โกหก”
“ดีหล่อนไม่รู้ว่าทำไมเป็นแบบนี้งั้นข้ามีแต่ทำการทดสอบ อีกครั้ง”นางเดินเข้ามาหามี่เหอยิ้มเล็กน้อย “น้องสาวถ้ายืนยันได้ว่าพี่เคยตบหน้าน้องจริงพี่ถึง ยอมรับการลงโทษ”พูดจบนางก็ยกมือตบใบหน้าละเอียด สวยงามของมีเหอหลี่เฉินเย่นเห็นเธอจะตบหน้านางจึงรีบ ยื่นมือเพื่อจับแขนนางไว้แต่ก็สายแล้วมือชูเซี่ยตบลงบน ใบหน้ามีเหอพร้อวเสียงเพี้ยะ!!!มีเหอล้มลงพื้นทันทีบน ใบหน้าของนางมีรอยนิ้วมือขึ้นมาอย่างชัดเจน
ทุกคนตกใจหมดเสี่ยวจี้กับแม่นมตกใจจนตัวสั่นเมื่อก่อน แค่พูดไม่ดีกับท่านอ๋องก็โดนลงโทษหนักขนาดนั้นแล้ว ตอนนี้ตบหน้าพระชายารองที่รักที่สุดของท่านอ๋องคิดไม่ ออกว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร
มีเหอร้องไห้ออกมาชูเซี่ยหมอบตัวลงแล้วประคองนาง ลุกขึ้นมาพูดว่า”ขอโทษนะน้องสาวพี่ก็แค่ทำการทดสอบ ต่อหน้าท่านอ๋องเท่านั้นเพื่อยืนยันสิ่งที่สาวใช้แจ้งนั้นไม่ จริงสาวใช้ตั้งใจจะทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน โชคดีที่น้องช่วยการทดสอบการใส่ร้ายของสาวใช้จึงไม่ สำเร็จแต่ไม่ทราบว่าหล่อนได้รับคำสั่งจากใครถึงคิดที่จะ ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเราหล่อนเป็นคนของน้องงั้น ให้น้องจัดการทุกอย่างเลยพี่เชื่อว่าน้องจะให้คำตอบที่ดี ให้กับพี่และยังคืนความเงียบสงบให้กับตำหนักอ๋องด้วยใช่ หรือไม่”
มีเหอลุกขึ้นมองเธอด้วยสายตาเย็นชากัดฟันว่า”โชคดี ที่ท่านพี่ฉลาดไม่งั้นพี่กับข้าสองคนต้องโดนอีสาวใช้เลว หลอกไปแล้วแน่นอน”
หลี่เฉินเย่นเห็นท่าทีตอนนี้ก็รู้เรื่องหมดแล้วเขามองไปยัง มีเธออย่างไม่พอใจ”คนที่อยู่ข้างๆเจ้าสมควรที่จะสั่งสอน ให้ดีกว่านี้”พูดจบก็มองไปที่สาวใช้คนนั้นและพูดอย่าง รังเกียจ”ยังไม่ไสหัวไปอีกหรือ!!”
สาวใช้นั้นหวาดกลัวจนตัวสั่นรีบก้มกราบแล้วถอยตัวออก
ไปนอกหน้าประตู
หลี่เฉินเย่นมองชูเซี่ยด้วยสายตาสงสัยนางดูเหมือนแตก ต่างกับเมื่อก่อนไปแล้วในอดีตเวลานางมองเขาสายตานาง มักมีความรักอย่างบ้าคลั่งอยู่ตลอดไม่ว่าเขาไปไหนสายตา นางก็ติดตามไปด้วยแต่ตอนนี้เห็นสายตานางที่ไม่แยแส ความรักอย่างบ้าคลั่งหายไปหมดและนิสัยที่ชอบหาเรื่องก็ เปลี่ยนเป็นสุภาพเรียบร้อยไปหมด
ชูเซียเห็นหลี่เฉินเย่นจ้องตัวเองอยู่รู้สึกตกใจเล็กน้อยแต่ ก็รีบปรับตัวเองให้เป็นปกตินางรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ตัวจริงของ ร่างกายนี้แต่จิตวิญญาณของนางอยู่ในร่างนี้แม้จะนิสัย เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแต่ถ้านางไม่บอกใครจะสงสัยนาง ได้แม้ว่ามีคนสงสัยนางแต่นางไม่ยอมรับใครจะมาทำอะไรนางได้
แม้ว่าวิธีเมื่อกี้จะอันตรายมากแต่นางก็นึกวิธีอื่นไม่ได้อีก
แล้ว
นางกำลังพนันอยู่แม้ท่านอ๋องนี้จะเกลียดนางแต่ในฐานะ เจ้านายของตำหนักนี้เขาก็ไม่อยากเห็นเรื่องคนในตำหนัก รังแกคนที่ต่ำต้อยกว่าแล้วปกปิดเบื้องบน
เพราะทำเช่นนี้ก็เหมือนมองเขาเป็นคนโง่
เมื่อนางเห็นใบหน้าของหลี่เฉินเย่นความโกรธค่อยๆหาย ไปเหลือแค่ความสงสัยนางก็รู้ว่าครั้งนี้นางชนะพนันแล้ว