“น้องหญิง!”
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังเข้าไปในหู ฉียู่หรงก็พุ่งเข้ามาภายในห้องพักแล้วเช่นกัน
“ท่านพี่?”มีความรู้สึกดีใจและแปลกใจปรากฏบนใบหน้าหนิงหานยู่
“ดูดจิต ฝากให้เจ้าด้วยล่ะ”หลัวซิวตบ ๆ ศีรษะของอสูรดูดจิตโบราณที่เกาะอยู่บนไหล่พลางพูด
หลังจากกลืนกินช่องจิตระดับมกุฎเทพดวงนั้นของฉีเฉียวซานไปแล้ว ปัจจุบันอสูรดูดจิตโบราณบรรลุสู่แดนราชาเทพอย่างราบรื่นแล้ว จากความสามารถและพรสวรรค์ของอสูรดูดจิตโบราณ แทบจะสามารถเป็นผู้ไร้เทียมทานในแดนราชาเทพได้แล้ว
มีการผนึกจากค่ายกล อาศัยผลการฝึกตนสูงสุดที่ไม่เกินกึ่งมกุฎเทพของเหล่าศิษย์ตระกูลฉีที่ภายในลานบ้าน ไม่มีผู้ใดสามารถหลบหนีไปจากที่นี่ได้เลยด้วยซ้ำ
ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ศิษย์ตระกูลฉีทุกคนที่อยู่ภายในลานบ้านก็ถูกอสูรดูดจิตโบราณกลืนกินหมด และทุกอย่างที่เกิดขึ้นทางฝั่งนี้ ผู้คนโลกภายนอกสังเกตความผิดปกติใด ๆ ไม่ได้เลย
เหล่าศิษย์ตระกูลฉีทุกคนที่อยู่ภายในลานบ้าน พูดได้เลยว่าเป็นการรวบรวมเด็กรุ่นใหม่ผู้ดีเด่นของทั้งตระกูลฉีแล้ว ปัจจุบันถูกหลัวซิวกำจัดภายในทีเดียว เท่านี้ก็เพียงพอที่จะจินตนาการได้แล้วว่าพวกเฒ่าประหลาดในตระกูลฉีต้องหัวเสียจนกระอักเลือดแน่นอน
ทว่าเรื่องทั้งหมดทั้งมวลนี้มันไม่มีความเกี่ยวข้องกับหลัวซิวอีกต่อไปแล้ว หลังจากช่วยฉียู่หรงช่วยชีวิตหนิงหานยู่ออกมา เขาก็วางแผนที่จะออกจากที่นี่ มุ่งหน้าไปยังมหาโลกายอดอัมพรแล้ว
ในโลกามนุษย์มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เขาวางใจไม่ค่อยได้นั่นก็คือช่าจื่อเยียน แต่ทว่าขอบเขตของธาตุดาราหนึ่งมันกว้างใหญ่มากเกินไปจริง ๆ และเขาก็ไม่สามารถตามหาอย่างเอิกเกริกยิ่งใหญ่ได้ด้วย อีกทั้งถึงแม้จะตามหานางพบแล้ว เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าควรบอกเรื่องการตายของเสี่ยวเจียงหมิงให้นางทราบอย่างไรดี
คนกลุ่มหนึ่งออกจากเมืองคุนซาน หลัวซิวหยุดลงในพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญและปลอดภัยแห่งหนึ่ง ในเมื่อช่วยชีวิตหนิงหานยู่ออกมาแล้ว เช่นนั้นก็ถึงเวลาจากลากันแล้ว
“เจ้าวางแผนที่จะจากไปเช่นนี้เลยหรือ? แม่นางหนิงหานยู่นั่นไม่ธรรมดาเลยนะ”และในเวลานี้เองเสียงของตัวมรณาก็ปรากฏในตัวหยั่งรู้
สำหรับหนิงหานยู่นั้น ขณะที่หลัวซิวช่วยนางทำลายตัวต้องห้ามที่ผนึกผลการฝึกตนในร่างกาย เขาก็ค้นพบแล้วว่านางมีฐานร่างพิเศษอย่างหนึ่ง ซึ่งระดับที่สอดคล้องกับกฎชีวิตนั้นสูงมาก ๆ มาตั้งแต่กำเนิดแล้ว
อิงจากคำพูดของตัวมรณา เมื่อพูดถึงพรสวรรค์ด้านกฎชีวิตอย่างเดียว หนิงหานยู่สามารถทิ้งห่างหลัวซิวได้หลายพันก้าวเลย ฐานร่างอย่างหนิงหานยู่ ราวกับเป็นร่างที่อยู่เพื่อฝึกกฎชีวิตมาตั้งแต่กำเนิดยังไงอย่างนั้น
และนี่ยังเป็นเพราะไม่เคยมีผู้ใดชี้แนะด้านการฝึกกฎชีวิตให้แก่นาง และไม่มีวิธีการฝึกที่เฉพาะเจาะจงเช่นกัน มิเช่นนั้นละก็ ระดับความเร็วในการฝึกตนของนางจะก้าวหน้ารวดเร็วมาก
“อัจฉริยะเช่นนี้ ต้องเก็บไว้ข้างกายตัวเองถึงจะเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุด อย่างไรเสียถึงแม้เจ้าจะฝึกกฎชั้นยอดทั้งสี่พร้อมกัน แต่ก็ไม่มีทางจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตนเองได้อยู่ดี”
ใช่ว่าคำพูดนี้ของตัวมรณาจะไม่มีเหตุผลเสมอไป แม้ในโลกของนักยุทธ์สิ่งที่ผู้คนเชิดชูมากกว่าคือกำลังรบอันแข็งแกร่งของตัวบุคคล แต่ไม่ว่าศักยภาพของตัวบุคคลจะแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ สุดท้ายก็มีหลายครั้งมากที่ใจสู้แต่กำลังไม่สู้ เพราะฉะนั้นถึงได้มีกองกำลังตระกูลและสำนักต่าง ๆ มากมายเช่นนี้คงอยู่
ยกตัวอย่างเช่นตัวหลัวซิวเอง ศักยภาพของตัวเขานั้นแข็งแกร่งมาก ๆ แล้ว แต่ทว่าหากเขาอยากฝึกตนบรรลุ ก็จำเป็นต้องออกไปสั่งสมประสบการณ์ข้างนอก เพราะฉะนั้นเวลาที่เขาไม่อยู่ จึงถูกผู้อื่นมากวาดล้างถิ่นฐานจนพ่อแม่และญาติพี่น้องล้วนถูกจับกุมตัวไป
ครั้นเมื่อสร้างสำนักไท่เสวียน จุดประสงค์ของหลัวซิวก็คืออาศัยกองกำลังมาปกป้องญาติพี่น้องและเหล่าสหายของตน แต่จากการพัฒนาของศักยภาพและผลการฝึกตนของเขา ทำให้ศัตรูของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เพราะฉะนั้นเขาจึงมีใจสู้แต่กำลังไม่สู้มาโดยตลอด
จนบัดนี้พูดได้เลยว่าหนิงหานยู่เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมา มีฐานร่างพิเศษตั้งแต่กำเนิดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นร่างอสูรฟ้าของฮู๋ชิงชิง หรือร่างแห่งเสวียนหยินของปี้เซียนเสว่ ล้วนไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับนางได้