ขอเพียงเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ก็จะไม่มีผู้ใดไม่เข้าใจประโยชน์ของการตระหนักรู้ได้ในทันที การตระหนักรู้ได้ในทันทีดีกว่าการตบะสิบปี ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องลมปากอย่างแน่นอน
หากสามารถเข้าสู่สภาวะการตระหนักรู้ได้ในทันทีบ่อย ๆ เช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นการยกระดับผลการฝึกตนหรือแดนยุทธ์ก็จะข้ามขั้นได้เร็วอย่างน่าทึ่ง มีการก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้ต้นเทวหยกโลหิตก็ถูกเรียกว่าต้นกายสิทธิ์สำนึกเช่นกัน ทันทีที่ข่าวคราวเรื่องมันปรากฏอยู่ ณ ที่แห่งนี้แพร่งพรายออกไป ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพจำนวนมากยังต้องเบียดเสียดกันมาแข่งกันแย่งชิง
หลัวซิวก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าตัวเองจะโชคดีเช่นนี้ ทันทีที่เหยียบย่ำลงบนดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ดวงนี้ ก็ค้นพบหินหยกกายสิทธิ์เช่นนี้เลยอย่างนั้นหรือ
ในขณะที่หลัวซิวคิดที่จะขุดต้นเทวหยกโลหิตต้นนี้ไปอยู่นั้น ก็มีลำแสงหน่ึงลำแสงบินมาจากที่ไกล ๆ ความเร็วนั้นรวดเร็วมาก ๆ มาถึงภายในชั่วลมหายใจเดียว
“เจ้าเองหรือ?”
ผู้ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือชายวัยกลางคนที่มาเจรจาหารือกับเขาหลังเขาฆ่าคนบนเรืออนัตตาในเมื่อนั้นนั่นเอง
ชายวัยกลางคนผู้นี้สวมใส่ชุดคลุมยาวเงิน มีตำแหน่งเป็นผู้ดูแลบนเรืออนัตตา ในตำแหน่งทั้งหมดนี้ยังมีผู้คุมกฎ รวมไปถึงผู้อาวุโสที่ปกปักรักษาอยู่บนเรืออนัตตาด้วย
ผู้ดูแลใส่ชุดคลุมยาวเงิน ผู้คุมกฎใส่ชุดคลุมยาวทอง ผู้อาวุโสใส่ชุดคลุมยาวม่วง
ผู้ที่มีกฎผนึกตรานั่น คือชายวัยกลางคนชุดม่วงที่ทันทีที่ลงมือก็ผนึกแหวนเก็บของของคนนับหมื่น และเขาก็คือผู้อาวุโสที่ปกปักรักษาอยู่บนเรืออนัตตายอดอัมพรหมายเลข 3 นั่นเอง
ผู้ดูแลชุดคลุมยาวเงินผู้นี้จำหน้าหลัวซิวได้ในทันที อย่างไร้เสียเมื่อครู่คนดังกล่าวเพิ่งฆ่าคนบนเรือไป คนประเภทนี้หากไม่ใช่สมองมีปัญหา ก็คือคนที่ศักยภาพแข็งแกร่งมาก ๆ
ในมุมมองของผู้ดูแลชุดคลุมยาวเงิน คนดังกล่าวน่าจะเป็นคนประเภทหลัง เล่ากันว่าขณะที่สังหารราชาเทพขั้น 9 ผู้นี้ เขาสังหารภายในกระบวนท่าเดียวไม่ว่า อีกทั้งยังไม่มีคลื่นพลังงานใด ๆ แผ่กระจายออกไปอีกด้วย ไม่สร้างความเสียหายให้แก่เรืออนัตตาเลยแม้แต่น้อย
“ต้นเทวหยกโลหิต?”
ในขณะเดียวกัน ผู้ดูแลชุดคลุมยาวเงินก็สังเกตเห็นหินหยกกายสิทธิ์ที่หลัวซิวยังไม่ทันได้ขุดไปแล้ว
หากเป็นของอย่างอื่น จากตัวตนของผู้ดูแลชุดคลุมยาวเงินเขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากเช่นนั้น แต่ทว่าต้นเทวหยกโลหิตไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ อย่างแน่นอน อย่าว่าแต่เขาเลย มาตรแม้นว่าเป็นผู้อาวุโสชุดคลุมยาวม่วงบนเรืออนัตตา ก็ต้องหวั่นไหวต่อหินหยกกายสิทธิ์อย่างแน่นอน!
“ในฐานะที่เห็นว่าเจ้าและข้ามีวาสนาเคยพบหน้ากันครั้งหนึ่ง ทิ้งต้นเทวต้นนั้นเอาไว้ พวกเจ้าไปได้ละ”ผู้ดูแลชุดคลุมยาวเงินหรี่ตาลงพลางจ้องเขม็งหลัวซิวพลางพูด
แม้ผู้ดูแลชุดคลุมยาวเงินผู้นี้จะไม่ได้ลงมือโดยตรง ทว่ากลับปลดปล่อยจิตสังหารออกมาเล็กน้อยแล้ว เขาเชื่อว่าขอเพียงฝ่ายตรงข้ามไม่โง่ ก็จะไม่เป็นศัตรูกับตัวเองด้วยซ้ำ เนื่องจากตัวเองมาจากกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังเรืออนัตตาเชียวนะ
“ของที่ข้าเจอ มีเหตุผลอันใดถึงต้องยกให้เจ้าด้วย?”หลัวซิวไม่ได้นำจิตสังหารที่ฝ่ายตรงข้ามปลดปล่อยออกมามาไว้ในสายตาด้วยซ้ำ โบกมือแล้วขุดดินเหนียวรอบต้นเทวหยกโลหิตขึ้นมา แล้วเคลื่อนย้ายต้นเทวหยกโลหิตมาที่โลกาจุดลมปราณที่อยู่ภายในฝ่ามือข้างซ้ายของตัวเอง
ถึงแม้แหวนเก็บของจะถูกผนึกไปแล้ว แต่จุดลมปราณทั้ง 28 จุดที่หลัวซิวเปิดออกมาได้ก็สามารถใช้เป็นแหวนเก็บของได้เช่นกัน มูลค่าของต้นเทวหยกโลหิตต้นนี้สูงเกินไป เขาไม่มีความคิดที่จะให้คนในเรืออนัตตารู้หรอกนะ
“เจ้ารนหาที่ตาย!”
สีหน้าของผู้ดูแลชุดคลุมยาวเงินเปลี่ยนไป นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนี่จะไม่ไว้หน้าตนเองเช่นนี้ และยิ่งขุดต้นเทวหยกโลหิตไปต่อหน้าต่อตาตัวเองด้วย
เขาคิดว่าหลัวซิวเก็บต้นเทวเข้าไปในแหวนเก็บของ หากเป็นเช่นนั้นมาตรแม้นว่าเมื่อถูกเรืออนัตตาค้นพบแล้ว มันก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตัวเองอีกเลย หากเขาได้รับต้นเทวหยกโลหิตเอง เช่นนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องส่งให้ทางเรืออนัตตาด้วยซ้ำ ถึงครานั้นแค่ส่งของอะไรก็ได้ออกมาในเชิงสัญลักษณ์ก็เพียงพอแล้ว
เสี้ยววินาทีที่จิตสังหารพรั่งพรูออกมา ผู้ดูแลชุดคลุมยาวเงินก็ลงมือโดยไม่ลังเลใจแล้ว ของขลังลักษณะพัดหนึ่งใบถูกเขาเรียกออกมา ในระหว่างที่พัดโบกพัด ก็เกิดเป็นลมที่โหมพัดกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง จนประกอบเป็นพายุหมุนปริภูมิหนึ่งลูก ผนึกร่างหลัวซิวเอาไว้