มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 1800

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1800

ดูจากข่าวกรองที่อาคารพาณิชย์แห่งนี้เสนอมา สำนักเซียนเทียนหยุนเป็นหนึ่งในกองกำลังระดับจ้าวมหาเทพในมหาโลกายอดอัมพร

เนื่องจากมหาโลกายอดอัมพรกว้างใหญ่มากเกินไปจริง ๆ ภายใต้การตกตะกอนและการสะสมจากกาลเวลาที่ยาวนาน จำนวนผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพก็มีไม่น้อยเลย

ในบรรดากองกำลังระดับจ้าวมหาเทพทั้งหลาย สำนักเซียนเทียนหยุนจัดเป็นอันดับหนึ่งในสามได้ แค่ภายนอกก็มีผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพสามคนคอยปกปักรักษาแล้ว ในจำนวนเรืออนัตตาที่ไป ๆ มา ๆ อยู่ในโลกาพิภพต่าง ๆ ก็มีสามลำที่เป็นกิจการของสำนักเซียนเทียนหยุน

และสิ่งที่หลัวซิวให้ความสนใจมากที่สุดก็คือข่าวกรองสีแดงเพียงเรื่องเดียวที่ทางอาคารพาณิชย์แห่งนี้ขาย ยังเป็นข่าวกรองที่มีความเกี่ยวข้องกับหลิวเซี่ยหานด้วย

เดิมทีหลิวเซี่ยหานคือศิษย์เจ้าอาจารย์ของสำนักเซียนเทียนหยุน เป็นผู้ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงโด่งดังในมหาโลกายอดอัมพร บรรลุสู่แดนมกุฎเทพเมื่อไม่นานมานี้ กลายเป็นเจ้าสำนักน้อยของสำนักเซียนเทียนหยุน

ส่วนเนื้อหาของข่าวกรองสีแดงนั้นคือหลิวเซี่ยหานรับลูกศิษย์คนหนึ่ง มีนามว่าหงเฟย ข่าวลือเล่ากันว่านางมีพรสวรรค์ด้านกฎเพลิงอัคคีสูงมาก ๆ ช่วงนี้เนื่องจากมีศิษย์คนหนึ่งในหอยอดอัมพรตกหลุมรักหงเฟย ด้วยเหตุนี้ระหว่างหอยอดอัมพรและสำนักเซียนเทียนหยุนจึงมีโอกาสเกี่ยวดองกันสูงมาก

ไม่ว่าจะเกี่ยวกับสำนักเซียนเทียนหยุนหรือหลิวเซี่ยหาน ล้วนไม่มีข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับพวกเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่

หลัวซิวเข้าใจดีมาก ๆ ว่าการที่เขาเสาะหาข่าวของสำนักเซียนเทียนหยุนที่นี่นั้น ในความเป็นจริงมันถือเป็นการเปิดเผยตนเองแล้ว เนื่องจากอาคารพาณิชย์แห่งนี้อาจจะนำเรื่องที่มีคนเสาะหาข่าวของสำนักเซียนเทียนหยุน แจ้งให้ผู้คนในสำนักเซียนเทียนหยุนทราบก็เป็นได้

เพราะฉะนั้นหลัวซิวจึงไม่ได้เสาะหาข่าวที่เกี่ยวข้องกับเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ มิเช่นนั้นละก็จะเท่ากับการบอกกับหลิวเซี่ยหานว่าเขาหลัวซิวมาถึงมหาโลกายอดอัมพรแล้ว

หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง ยึดตามเวลาที่ต่างฝ่ายต่างนัดหมายกันไว้ หลัวซิวย้อนกลับไปยังโรงเตี๊ยม ฉียู่หรงและหนิงหานยู่ก็กลับมาแล้วเช่นกัน

ความสามารถในการสืบเสาะข่าวคราวของหนิงหานยู่ไม่ได้ทำให้หลัวซิวรู้สึกผิดหวังจริง ๆ ทันทีที่พบหน้ากัน นางก็บอกเรื่องที่มีมูลค่าสูงมาก ๆ เรื่องหนึ่งออกมาอย่างอดใจรอไม่ไหว

“แดนเทวนิรันกาล?”ใบหน้าของหลัวซิวเปี่ยมล้นไปด้วยความสงสัย

เมื่อเห็นสีหน้าของหลัวซิว หนิงหานยู่จึงยืดอกอย่างภาคภูมิใจในตัวเองมาก ๆ แววตานั่นราวกับกำลังพูดว่าเห็นหรือยัง ข่าวคราวที่ข้าสืบเสาะมาได้แม้แต่ท่านยังไม่เคยได้ยินมาก่อน

หลัวซิวหลุดหัวเราะออกมา “เจ้าเก่งมาก พอใจหรือยัง รีบเล่าเรื่องของแดนเทวนิรันกาลสักทีเถอะว่ามันเป็นอะไรยังไงกันแน่”

“เล่ากันว่าแดนเทวนิรันกาลคืออนัตตาที่พิเศษแห่งหนึ่ง ซึ่งอนัตตาดังกล่าวไม่ถือเป็นของโลกาใดโลกาหนึ่งในมหาโลกาพันสาม ยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งตำแหน่งที่แดนเทวนิรันกาลปรากฏล้วนแตกต่างกัน ทว่าขอเพียงแดนเทวนิรันกาลปรากฏ ก็จะทำให้ทุกกองกำลังในมหาโลกาพันสามบ้าคลั่งอย่างแน่นอน”

“แดนเทวนิรันกาลมีสามสมบัติ หนึ่งดอกหนึ่งหินหนึ่งกระบี่ หนึ่งดอกนั้นหมายถึงธรรมถานฮวาหนึ่งหินนั้นหมายถึงหินนิรันดร์ ส่วนหนึ่งกระบี่นั้นหมายถึงกระบี่ตรีภพ”

เมื่อฟังทั้งหมดที่หนิงหานยู่เล่ามา หลัวซิวจึงขมวดคิ้วลงเล็กน้อย เนื่องจากของทั้งสามสิ่งนี้ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ทว่าเมื่อดูจากชื่อแล้ว ของทั้งสามสิ่งนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

“ทั้งสามอย่างนี้เป็นมหาภัณฑ์วิเศษเชียวนะ”

ในขณะที่หลัวซิวกำลังรู้สึกสงสัยอยู่นั้น เสียงของตัวมรณาก็ปรากฏในตัวหยั่งรู้

“เจ้ารู้จักหรือ?”หลัวซิวถามในทันที

“ข้าต้องรู้จักอยู่แล้วสิ ข้าแนะนำให้เจ้าไปแดนเทวนิรันกาลนี่สักเที่ยว หากมีความเป็นไปได้ จักดีที่สุดหากสามารถได้ครอบครองของทั้งสามสิ่งนั้น”ตัวมรณากล่าวเช่นนี้

หลัวซิวไต่ถามว่าสมบัติทั้งสามชิ้นนี้มันคืออะไรกันแน่ ทว่าตัวมรณากลับไม่ตอบกลับ

ในความเป็นจริงหนิงหานยู่สามารถเสาะหาข่าวที่เกี่ยวข้องกับแดนเทวนิรันกาลได้อยู่ และเป็นเพราะชื่อเสียงของแดนเทวนิรันกาลที่อยู่ในมหาโลกาพันสามนั้นโด่งดังมากเกินไป นางจึงเสาะหารายละเอียดข่าวกรองที่เกี่ยวข้องกับแดนเทวนิรันกาลไม่ได้ เนื่องจากข่าวกรองในทำนองนี้ล้วนยึดกุมอยู่ในมือกองกำลังใหญ่

หลัวซิวสลักวาดม้วนหยกหนึ่งชิ้น ภายในม้วนหยกได้พรรณนารูปร่างหน้าตาของเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่เอาไว้

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท