จากความเข้าใจของหลัวซิวที่มีต่อเหยียนเยว่เอ๋อร์ นางเป็นผู้หญิงที่มีความคิดของตัวเองสูงมาก และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ครั้นเมื่ออยู่ในโลกแสงดาว พ่อแม่ของนางถูกฆ่า ภายใต้สถานการณ์ที่ทุกคนในตระกูลเหยียนกล้ำกลืนฝืนทนและแทบจะล้มเลิกการล้างแค้น นางฝึกตนอย่างยากลำบากสามร้อยกว่าปี ยอมทรยศตระกูล แต่ก็ยึดมั่นที่จะล้างแค้นเพื่อพ่อแม่ของตน
ถึงแม้จะคาดเดาได้แล้วว่าเหยียนเยว่เอ๋อร์ ณ บัดนี้ไม่มีความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับอดีตอีกแล้วก็ตาม แต่ถึงแม้คนคนหนึ่งจะสูญเสียความทรงจำไป ทว่าอุปนิสัยของนางกลับจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก การพบหน้ากันในห้องที่นั่งพิเศษเมื่อครู่นี้ เขาได้ฝังเมล็ดพันธุ์เม็ดหนึ่งไว้ในส่วนลึกของหัวใจนาง ในขณะเดียวกันเขาก็สอบสวนข้อมูลที่ตัวเองต้องการทราบได้แล้วเช่นกัน
หลังจากออกมาจากงานประมูลแล้ว จากนั้นหลัวซิวก็ออกจากเมืองดาราจันทราด้วยความเร็วที่ไม่เร็วและไม่ช้า
ผ่านไปไม่นานนัก ตัวสำนึกที่แข็งแกร่งดวงหนึ่งก็ก้าวข้ามผ่านปริภูมิผนึกร่างตนเองเอาไว้ เงาร่างของเซียวเฟยปรากฏอยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากหลัวซิวประมาณหนึ่งหมื่นไมล์
ตัวสำนึกของหลัวซิวเทียบเท่ากึ่งมกุฎเทพ กระแสสัมผัสตัวสำนึกสามารถแผ่คลุมพื้นที่หนึ่งหมื่นไมล์ และผลการฝึกตนของเซียวเฟยก็เป็นกึ่งมกุฎเทพแต่เดิม จึงสามารถทำเช่นเดียวกันได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ณ สถานที่แห่งนี้คือถิ่นทุรกันดารแห่งหนึ่ง ซึ่งห่างจากเมืองดาราจันทราไกลมาก ๆ ต่อให้เกิดศึกการเข่นฆ่าที่ดุเดือน ก็จะไม่ถูกเหล่าผู้แข็งแกร่งที่อยูฝั่งเมืองดาราจันทราสัมผัสได้
ดังนั้นหลัวซิวจึงหยุดการเคลื่อนไหว แล้วค่อย ๆ หันหลังกลับไป จ้องเขม็งไปทางลำแสงตรงขอบฟ้าที่กำลังบินตรงเข้ามาทางตนเอง ยิ่งอยู่ยิ่งใกล้เข้ามา
ความเร็วของเซียวเฟยรวดเร็วมาก ภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ เขาก็มาถึงตรงหน้าหลัวซิวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สบตาซึ่งกันและกันโดยที่ยืนห่างกันหนึ่งร้อยเมตร
จิตสังหารที่อยู่บนตัวเซียวเฟยพรั่งพรู ทั้งร่างกายปกคลุมอยู่ภายในแสงสีเขียว เหมือนดั่งเซียนที่จุติลงมาจากสวรรค์ แสงสีเขียวที่อยู่ด้านหลังลอยขึ้น เหมือนมีไม้เซียนต้นหนึ่งกระพริบโผล่ ๆ หาย ๆ อยู่ในแสงเขียวอันไร้ขอบเขต
ซึ่งไม้เซียนต้นนี้ก็คือยอดอัมพรนั่นเอง เล่ากันว่าเป็นไม้เซียนเพียงหนึ่งเดียวไม่มีสองในฟ้าดินยุคดึกดำบรรพ์ และเมื่อผ่านพ้นกาลเวลาที่ยาวนานมาอย่างไม่รู้จบแล้ว ไม้เซียนยอดอัมพรที่เป็นเอกเลิศลบธรณีไม่มีสองนี้กำเนิดตัวปัญญาทิพย์ และกลายเป็นอสูรนี้ ก็คือมหาจักรพรรดิยุทธ์ยอดอัมพรผู้บุกเบิกมหาโลกาที่มีประวัติยาวนานดั่งแม่น้ำใบนี้นั่นเอง!
ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันมีมหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งหมดสามพันกับอีกหนึ่งคน ภายในนี้รวมไปถึงผู้ที่กำเนิดจากเผ่าพันธุ์มารและเผ่าปีศาจ ในยุคสมัยที่เก่าแก่กว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์ยอดอัมพร มหาจักรพรรดิยุทธ์เผ่าพันธุ์มารก็คือบรรพบุรุษจักรพรรดิอสูร หรือผู้ที่คิดค้นริเริ่มวิชาบรรพเทพโลหิตนั่นเอง
วรยุทธ์พลังอมตะในการฝึกตนของเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน นอกเหนือจากวรยุทธ์บางส่วนที่พิเศษแล้ว ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถฝึกได้โดยทั่วไป ยกตัวอย่างเช่นเผ่าพันธุ์มารและเผ่าปีศาจสามารถฝึกวรยุทธ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็สามารถฝึกวรยุทธ์ของเผ่าพันธุ์มารและเผ่าปีศาจได้เช่นกัน
หลังจากผ่านกาลเวลาที่ยาวนานอย่างไม่รู้จบ การถ่ายทอดสืบสานที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ยอดอัมพรทิ้งไว้ล้วนถูกเผ่าพันธุ์มนุษย์สืบทอดต่อแล้ว
ภายในเสี้ยววินาทีที่สั้น ๆ ก็มีข่าวคราวบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับมหาจักรพรรดิยุทธ์ยอดอัมพรผุดขึ้นมาในหัวหลัวซิว
“เจ้าจองหองมาก ๆ เลยนี่”
เซียวเฟยจ้องเขม็งหลัวซิว ไม่มีท่าทีที่จะปกปิดจิตสังหารที่ร้อนระอุเลย ราวกับกระบี่ที่สูงเทียมฟ้าแทงทะลุสวรรค์ ตัดสับอนัตตา
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในศิษย์ใจกลางของหอยอดอัมพร เซียวเฟยเป็นคนที่จองหองถือดีคนหนึ่งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จึงไม่สามารถปล่อยให้ผู้อื่นจองหองกว่าตน หรือแม้กระทั่งหักหน้าตัวเองต่อหน้าสาธารณชน
“การจองหองมีราคาที่ต้องจ่าย มึงอยากเหยียบย่ำกูเพื่อมีชื่อเสียงโด่งดังในฟ้าดินผืนนี้ ช่างไม่รู้จักความเป็นความตายสิ้นดี”
อนัตตาสั่นสะเทือน กระบี่ยาวเล่มหนึ่งที่เหมือนมีรูปและไร้รูปปรากฏ ก่อนจะถูกเซียวเฟยค่อย ๆ ยื่นมือออกมาคว้าไว้
เวิง!
ณ วินาทีนี้ พลังออร่าบนตัวเซียวเฟยพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง มีดาราสีเขียวหลายดวงปรากฏบริเวณรอบ ๆ ไม้เซียนยอดอัมพรที่อยู่ด้านหลังเขา
ดาราสีเขียวเหล่านี้โคจรอยู่รอบไม้เซียนยอดอัมพร และนี่ก็คือปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่กลายมาจากวิถียุทธ์ของตัวเซียวเฟยนั่นเอง