สามารถพูดได้อย่างไม่ลังเลใจเลยว่าในบรรดาศิษย์ใจกลางทุกรุ่น การที่มีคนคนหนึ่งฝึกตนจนบรรลุถึงแดนจ้าวมหาเทพได้ในอนาคตนั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ แล้ว
ประวัติของหอยอดอัมพรสืบทอดต่อกันมานับร้อยล้านปี แต่จำนวนผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพก็มีเพียงสิบกว่าท่านเท่านั้น
แต่ทว่าในเมื่อเป็นศิษย์ใจกลางของหอยอดอัมพร เช่นนั้นก็จะตายเสียเปล่าไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องสืบสวนสาเหตุการตายให้ชัดเจน
ผู้อาวุโสเฝ้าหอผู้นั้นนำม้วนหยกที่แตกสลายแล้วของเซียวเฟยขึ้นมา โคจรด้วยเคล็ดวิชาพิเศษ ซึ่งสามารถแสดงภาพเหตุการณ์ก่อนเสียชีวิตของเซียวเฟยออกมาได้ แล้วก็ข่าวคราวที่เซียวเฟยถ่ายทอดไว้ในม้วนหยกวิญญาณชีวีผ่านเศษซากวิญญาณ
“ผู้ที่สังหารข้ามีนามว่าซิวหลัว!”
ผู้อาวุโสเฝ้าหอหยิบม้วนหยกขึ้นมา เสียงที่เปี่ยมล้นไปด้วยความโกรธแค้นและไม่ยอมดังก้องอยู่ข้างหู
ถัดจากนั้นหลังจากผู้อาวุโสเฝ้าหอร่ายเคล็ดวิชาแล้ว ภาพเหตุการณ์หนึ่งก็ถูกแสดงออกมา ซึ่งเป็นช่วงที่เซียวเฟยประมือกับหลัวซิวตั้งแต่ต้นจนจบนั่นเอง
……
สภาพจิตใจของหงเฟยยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว หลังจากที่กลับมาจากงานประมูลดาราจันทรานางก็กลับมาถึงที่พัก สำนักเซียนเทียนหยุนก็มีกิจการของตัวเองอยู่ภายในเมืองแห่งนี้เช่นกัน
อยู่ภายในห้องพักของตนเอง นางเขม็งมองลูกแก้วลูกหนึ่งที่อยู่บนมือด้วยแววตาที่สับสน ภายในลูกแก้วมีเปลวไฟสีทองผนึกอยู่หนึ่งดวง
ไม่รู้เพราะเหตุใด ราวกับเงาร่างของชายหนุ่มผู้มีนามว่าซิวหลัวนั่นได้ประทับอยู่ในสมองของตัวเองแล้ว สลัดอย่างไรก็สลัดไม่ออก
“คุณหนู เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ!”
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก ก่อนจะมีคนใช้สาวคนหนึ่งบุกเข้ามาอย่างร้อนรน
“ท่านชายเซียวตายแล้วเจ้าค่ะ!”
“ว่าอย่างไรนะ?”
หงเฟยดึงสติกลับมา เมื่อได้ยินข่าวคราวดังกล่าว นางจึงรู้สึกตะลึงเล็กน้อย ทว่าความรู้สึกในใจกลับมีไม่มากนัก
นางไม่มีความรู้สึกใด ๆ ต่อเซียวเฟย แต่ทว่าเนื่องจากการจัดแจงของอาจารย์ ดังนั้นทั้งสองถึงได้หมั้นกัน
หากเซียวเฟยนั่นตายไปแล้ว ตัวเองก็ควรจะมีความสุขต่างหาก แม้จะลืมความทรงจำทุกอย่างในอดีตไปหมดแล้ว แต่นางก็ไม่อยากเป็นเพื่อนผู้ยุทธ์กับคนที่ตนไม่ชอบจากหัวใจจริง
“เขาตายได้อย่างไร?”หงเฟยถามในเชิงสัญลักษณ์คำหนึ่ง
“ได้ยินมาว่าถูกผู้ที่มีนามว่าซิวหลัวสังหารเจ้าค่ะ”คนใช้สาวมองหน้าหงเฟยรอบหนึ่งพลางตอบกลับ นางเข้าใจดีว่าคุณหนูทราบอยู่ว่าซิวหลัวคือผู้ใด
“เขาเองหรือ?”
หงเฟยขมวดคิ้วลงเล็กน้อย เหตุใดชายหนุ่มที่มอบอัคคีเทพเพลิงดาราให้ตนถึงต้องสังหารเซียวเฟย?
นึกย้อนกลับไปถึงแววตาที่ซิวหลัวจ้องมองตนเองเมื่อตอนนั้น มีความรู้สึกที่สับสนผุดขึ้นในใจหงเฟยอีกครั้ง หรือว่าความทรงจำที่ตัวเองสูญเสียไปมีความเกี่ยวข้องกับผู้ที่มีนามว่าซิวหลัวนั่น?
นางอยากไปหาอาจารย์เทพธิดาเซี่ยหานเพื่อถามทุกอย่างให้ชัดเจน แต่อาจารย์บอกกับตัวเองว่านางเติบโตอยู่ในสำนักเซียนเทียนหยุนตั้งแต่เล็กแล้ว
นับตั้งแต่เมื่อนั้น หงเฟยก็ทราบแล้วว่าอาจารย์โกหก เนื่องจากนางสามารถสัมผัสได้ว่าตัวเองสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลาหนึ่งไป
แต่ทว่านางมีความรู้สึกที่ระแวดระวังต่ออาจารย์ของตน รวมไปถึงทุกคนในสำนักเซียนเทียนหยุนโดยสัญชาตญาณ เนื่องจากนางอยากตามหาคำตอบ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับอดีตของตนเองกันแน่ แล้วเหตุใดตนเองถึงสูญเสียความทรงจำเหล่านั้นไป?
และในเวลานี้เอง ก็มีเงาร่างร่างหนึ่งเดินเข้ามาภายในห้องพักอีกคน คนดังกล่าวคือสตรีที่อยู่ในชุดสีแดงเหมือนนาง ดูแล้วไม่งามเมืองล่มจนอกสั่นขวัญหายอย่างหงเฟย ทว่ากลับมีกลิ่นอายของสตรีที่สุกหงอมแล้ว
“กราบคารวะเจ้าสำนักน้อยเจ้าค่ะ”คนใช้สาวรีบคุกเข่าทำความเคารพ
“กราบคารวะอาจารย์เจ้าค่ะ”หงเฟยก็เดินขึ้นไปทำความเคารพเช่นกัน
สตรีชุดแดงที่ปรากฏ ณ วินาทีนี้ก็คือหลิวเซี่ยหาน นางเป็นผู้ขจัดความทรงจำในอดีตของเหยียนเยว่เอ๋อร์เองกับมือ ให้นางใส่ชุดสีแดงเหมือนตน จากนั้นค่อยบอกกับนางว่านางโตอยู่ในสำนักเซียนเทียนหยุนตั้งแต่เด็ก และเป็นลูกศิษย์ของนาง