แต่ถึงแม้จะไม่ใช่จ้าวมหาเทพ คนใหญ่คนโตเช่นนี้ก็ไม่ใช่หลัวซิว ณ บัดนี้สามารถรุกรานได้เช่นกัน แดนยิ่งสูง ระดับความยากในการข้ามขั้นประลองก็ยิ่งมาก ตอนนี้เขาสามารถต่อสู้กับมกุฎเทพขั้นปฐมภูมิได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ แต่ถ้าหากได้ปะทะกับมกุฎเทพช่วงกลางเป็นต้นไป ก็จะสู้ไม่ไหวอย่างแน่นอน
เหยียบย่ำลงบนวิถียุทธ์จวบจนปัจจุบัน หลัวซิวเข้าใจดีมาก ๆ ว่าทันทีที่ศิษย์สำคัญของกองกำลังใหญ่ส่วนมากถูกสังหาร กองกำลังที่อยู่เบื้องหลังคนดังกล่าวสามารถทราบข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับฆาตกร ยิ่งเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ วิธีการจัดการก็จะยิ่งปราดเปรื่องมากเท่านั้น
เพราะฉะนั้นหลัวซิวจึงเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ตั้งนานแล้ว หลังจากสังหารเซียวเฟยไป สิ่งแรกที่เขาทำก็คือเปลี่ยนแปลงลักษณะรูปร่างและออร่าของตน
รูปร่างลักษณะที่เขาใช้ ณ บัดนี้คือร่างกลวัฏสงสารที่หนึ่ง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเย่ห้าวหรานได้หายเข้าไปในกลีบเมฆแล้ว และผู้ที่เข้ามาแทนที่จะกลายเป็นหลี่ยู่
วิธีการอย่างร่างกลวัฏสงสารมีความเร้นลับของวัฏสงสารแฝงซ่อนอยู่ หากทำเช่นนี้แล้วยังถูกหอยอดอัมพรจับตัวตนของตนเองได้ละก็ เช่นนั้นหลัวซิวก็คงทำได้เพียงยอมรับว่าตัวเองโชคไม่ดีแล้วล่ะ
เซียวเฟยเพิ่งตายไป ก็เริ่มมีการเตรียมการภายในเมืองดาราจันทราแล้ว ไม่ได้มีเพียงคนใหญ่คนโตของหอยอดอัมพรเท่านั้นที่มาเยือนสถานที่แห่งนี้ กองกำลังต่าง ๆ ทั้งหลายก็ต่างพากันออกปฏิบัติการสืบสวนเช่นกัน
ศิษย์ใจกลางถูกสังหาร นี่เป็นการยั่วยุความเกรียงไกรของหอยอดอัมพรที่เป็นสำนักจักรพรรดิ เรื่องราวที่ดูเหมือนเรียบง่าย แต่ในความเป็นจริงกลับมีความขัดแย้งและความไม่ถูกกันระหว่างเหล่ากองกำลังใหญ่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง
หลัวซิวไม่มีกะจิตกะใจที่จะไปสนใจเรื่องราวเหล่านี้ หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง เขาก็เดินเตร่ไปถึงหน้าประตูหอโอสถเสวียนคง
“ก๊อก! ก๊อก!”
เขายื่นมือออกไปเคาะประตู จากนั้นผู้ที่เดินมาเปิดประตูให้เขาก็ยังคงเป็นสาวน้อยชุดม่วงที่งดงามน่ารักคนนั้นอีกเช่นเคย
หอโอสถแห่งนี้คือกิจการของอาจารย์จีเสวียนคง บริเวณรอบ ๆ มีค่ายกลจัดวางอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นหลังจากที่หลัวซิวเดินเข้าไปภายในแล้ว รูปร่างลักษณะของเขาก็ปรวนแปรกะทันหัน กลายเป็นลักษณะของเย่ห้าวหราน
“คือเจ้าเองหรือ?”เมื่อสาวน้อยชุดม่วงเห็นกิริยาท่าทางของเขา บนใบหน้าที่เรียวบางและงดงามก็มีความตะลึงปรากฏเล็กน้อย
ในฐานะที่เป็นหลานสาวของอาจารย์จีเสวียนคง คอยเพ็ญตนอยู่ข้างกายคุณปู่มาตลอดทั้งปี นางก็ถือเป็นคนที่มีประสบการณ์และความรู้สึกกว้างขวางอยู่ ศักยภาพโดดเด่น แต่ทว่าเมื่อครู่นี้นางกลับดูไม่ออกเลยว่าคนที่อยู่ตรงหน้าปลอมตัวและแปลงโฉม
ยิ่งกว่านั้นคือความรู้สึกที่ชายหนุ่มตรงหน้ามอบให้เธอ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างลักษณะในเมื่อครู่นี้ หรือรูปร่างลักษณะ ณ วินาทีนี้ ก็เหมือนเป็นคนละคนกันเลย
ได้รับผลกระทบจากประสบการณ์เมื่อชาติปางก่อน สันดานเดิมของร่างกลวัฏสงสารทั้งสองร่างของหลัวซิวก็แตกต่างกันอยู่ หลี่ยู่เป็นคนสง่าผ่าเผยกรอบความคิดอิสระ ส่วนเย่ห้าวหรานนั้นเป็นคนสุขุมเรียบนิ่ง
แน่นอนอยู่แล้วว่าสันดานเดิมเหล่านี้ไม่สามารถควบคุมสันดานเดิมของตัวหลัวซิวเองได้ เนื่องจากทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนควบคุมโดยร่างแท้ของเขามาโดยตลอด
“บททดสอบของการกราบไหว้ครู แซ่เย่ได้ทำสำเร็จแล้ว”
ในระหว่างที่พูดคุยเฮฮา หลัวซิวตามหาที่นั่งในชั้นแรกของหอโอสถอย่างเรื่อยเปื่อยที่หนึ่งนั่งลง ก่อนจะชูมือแล้วสะบัดมือทีหนึ่ง สิ่งของที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้ามาโดยตลอดก็กลิ้งออกมาจากแหวนเก็บของ
ไม่มีภาพเหตุการณ์ที่เลือดสดหลั่งไหล หลัวซิวต้องจัดการทุกอย่างก่อนล่วงหน้าอยู่แล้ว มิเช่นนั้นละก็หากเก็บไว้ในแหวนเก็บของ แม้แต่เขาเองยังรู้สึกขยะแขยง
“เจ้าเป็นคนฆ่าเซียวเฟยหรือ?”
สาวน้อยชุดม่วงไม่จำเป็นต้องใช้ตามอง ใช้เพียงตัวสำนึกก็ทราบแล้วว่าสิ่งที่ห่อหุ้มอยู่ภายในคือศีรษะชิ้นหนึ่ง เมื่อโยงเข้ากับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในเมืองดาราจันทรา ก็ต้องทราบเป็นธรรมดาอยู่แล้วว่าเจ้าของศีรษะดังกล่าวเป็นผู้ใด
แม้จะไม่ได้ติดต่อสัมพันธ์กับโลกภายนอกอยู่บ่อยครั้ง แต่สำหรับศักยภาพของเหล่าศิษย์ใจกลางของหอยอดอัมพรนั้น สาวน้อยชุดม่วงก็พอเข้าใจอยู่บ้าง
ผลการฝึกตนของเซียวเฟยนี่คือกึ่งมกุฎเทพ เนื่องจากวรยุทธ์ที่ฝึกคือวรยุทธ์ระดับมหาจักรพรรดิ ศักยภาพของเขาจึงเทียบทัดมกุฎเทพขั้นปฐมภูมิโดยสิ้นเชิง
ศักยภาพเช่นนี้ที่อยู่ในหมู่คนรุ่นใหม่ยังไม่ถือว่าไร้เทียมทาน แต่ถ้าหากบอกว่าจะสังหารเขาละก็ กลับไม่มีคนรุ่นใหม่คนใดกล้าบอกว่าตนสามารถสังหารเขาโดยตรงได้