มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1843
“เจ้าคือหลิวเซี่ยหานหรอกหรือ? จับกุมตัวพ่อแม่ญาติพี่น้องของศิษย์ข้าไป และใช้เหตุนี้มาข่มขู่เขา?”
สายตาของจีเสวียนคงร่วงลงบนตัวหลิวเซี่ยหาน แม้นั่นจะเป็นเพียงสายตาเดียวเท่านั้น ทว่ากลับสามารถทำให้หลิวเซี่ยหานสัมผัสได้ถึงวิกฤตการณ์แห่งความตาย ราวกับเมื่อได้เผชิญหน้ากับชายชราผู้ลึกลับน่ากลัวท่านนี้ ฝ่ายตรงข้ามแค่ใช้จิตนึกคิด เพียงสายตาเดียวก็สามารถทำให้นางตายคาที่ภายในชั่วพริบตาเดียวแล้ว
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”หัวสมองของหลิวเซี่ยหานโล่งเปล่าไปหมด นางนึกอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าหลัวซิวจะสามารถเชิญผู้แข็งแกร่งที่น่ากลัวเช่นนี้มาได้อย่างนั้นหรือ
“ท่านผู้อาวุโส ที่แห่งนี้คือสำนักเขาของสำนักเซียนเทียนหยุนเรา”ฝืนข่มความหวาดผวาในใจลงไป หลิวเซี่ยหานกลั้นใจพูด
ในฐานะที่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับจ้าวมหาเทพขั้นสุดยอด ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นเฒ่าประหลาดระดับจ้าวมหาเทพ เมื่อเผชิญหน้ากับกองกำลังที่ยิ่งใหญ่อย่างสำนักเซียนเทียนหยุนแล้วก็ทำได้เพียงก้มหน้าลง
ในมุมมองของหลิวเซี่ยหาน นางรู้สึกว่านอกเสียจากฝ่ายตรงข้ามอยากต่อกรกับสำนักเซียนเทียนหยุนอย่างไม่ตายไม่พัก มิเช่นนั้นเขาต้องไม่กล้าลงมือต่อตนเองที่เป็นเจ้าสำนักน้อยแน่นอน
แม้ในอนาคตใช่ว่าเจ้าสำนักน้อยจะได้กลายเป็นเจ้าสำนักของสำนักเซียนอย่างแน่นอน แต่ทว่าเจ้าสำนักน้อยกลับเป็นตัวแทนภาพลักษณ์หน้าตาของสำนักเซียน และเป็นบุคคลผู้อัจฉริยะในเด็กรุ่นใหม่
“หากผู้ที่พูดคำพูดดังกล่าวคือเฒ่าประหลาดเทียนหยุน หากข้ามีความสุขก็อาจจะไว้หน้าเขาบ้าง แต่เจ้าเป็นเพียงผู้น้อยคนหนึ่ง ซึ่งยังไม่มีสิทธิ์มาเอ่ยปากพูดต่อหน้าข้า”
จีเสวียนคงง้างมือขึ้นแล้วกำมือทีหนึ่ง พลังดูดกลืนพลังหนึ่งก็แผ่คลุมตัวหลิวเซี่ยหานเอาไว้ เห็นเพียงผลการฝึกตนทั้งร่างกายของนางถูกผนึกกดอัดแล้ว ไม่มีแรงในการต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ถูกจีเสวียนคงดูดจับมาโดยตรง
“เวิง!”
ทันใดนั้นเอง ราวกับภูเขาหยุนเซียนที่สูงตระหง่านสวยงามสั่นเทิ้มไปชั่วขณะ ก่อนจะมีออร่าอันมากมายมหาศาลที่เหมือนดั่งสมัยดึกดำบรรพ์ค่อย ๆ แผ่กระจายออกมา
เห็นเพียง ณ ส่วนลึกของสำนักเขาของสำนักเซียนเทียนหยุน มีไอลอยขึ้นจากแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านกลุ่มเมฆ มีเงาร่างของคนคนหนึ่งที่อยู่ในชุดคลุมยาวเขียว ราศีบนตัวดุจเทพเดินออกมาจากแสงอาทิตย์ เท้าเหยียบเมฆมงคลแล้วล่องลอยตรงมา
เงาร่างชุดคลุมยาวเขียวดังกล่าว ผมขาวโพลนสีหน้าตาเสมือนเด็ก เหมือนดั่งผู้อาวุโสกลับคืนเป็นหนุ่มสาว มีแสงเปล่งปลั่งอยู่ทั่วร่าง ทำให้คนมองเห็นรู้สึกลึกซึ้งมากจนมิอาจคาดเดาได้
“อาจารย์ออกจากการปิดขังแล้วหรือ?”
ภายในสำนักเซียนเทียนหยุน เจ้าสำนักเซียนรวมไปถึงผู้อาวุโสจำนวนมากก็ต่างตื่นตกใจเช่นกัน เงาดำร่างหนึ่งลอยออกไปจากสำนักเขา
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
เจ้าสำนักเซียนขมวดคิ้ว วินาทีนี้เขาถึงจะสังเกตเห็นว่าหลิวเซี่ยหานถูกแขกที่ไม่ได้รับเชิญสามคนจับกุมตัวอยู่หน้าสำนักเขาด้านล่างภูเขาหยุนเซียน
ก่อนหน้านี้หลิวเซี่ยหานระดมศิษย์นับร้อยไปรวมตัวกันที่หน้าสำนักเขา เจ้าสำนักเซียนไม่ได้ใส่ใจต่อเรื่องนี้แต่อย่างใด ทว่าวินาทีนี้กลับรู้สึกว่าเรื่องราวยิ่งอยู่ยิ่งแปลกประหลาด โดยเฉพาะชายชราชุดคลุมยาวขาวที่จับกุมตัวหลิวเซี่ยหานเอาไว้ ภายใต้กระแสสัมผัสตัวสำนึก ถึงกับทำให้จิตใจของเขาที่มีผลการฝึกตนเป็นจ้าวมหาเทพขั้น 9 ผู้สง่าผ่าเผยเกิดความหวาดกลัว
วินาทีนี้เจ้าสำนักเซียนจักยังไม่เข้าใจอีกได้อย่างไร การที่อาจารย์ของตนออกจากการปิดขังนั้น ต้องเกี่ยวข้องกับชายชราชุดคลุมยาวขาวนั่นแน่นอน
“ผู้เพื่อนยุทธ์เสวียนคง ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะ”อาจารย์ชุดคลุมยาวเขียวที่ผมขาวโพลน สีหน้าเสมือนเด็กเหยียบเมฆมงคลมาถึงที่นี่ สายตามองเขม็งไปทางจีเสวียนคง
แม้จะเป็นการทักทายที่เกรงอกเกรงใจมาก ๆ บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มเช่นกัน แต่จิตใจของอาจารย์ชุดคลุมยาวเขียวกลับสงสัยมาก ๆ เหตุใดจีเสวียนคงนี่ถึงวิ่งมาสำนักเขาของสำนักเซียนเทียนหยุนโดยไร้เหตุผลที่มาเช่นนี้ อีกทั้งยังจับกุมตัวศิษย์ที่เป็นผู้น้อยคนหนึ่งด้วยตนเอง?
จีเสวียนคงใช้มือลูบหนวดเคราที่ขาวหงอกพลางอมยิ้ม “เฒ่าประหลาดเทียนหยุน เจ้าและกับไม่ได้พบหน้ากันมาห้าล้านปีแล้ว”
ห้าล้านปี?!
เมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสอง ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็ตกตะลึงหนักมาก และมุมปากของหลัวซิวที่ยืนอยู่ข้างกายจีเสวียนคงยิ่งชักกระตุก ตั้งแต่ที่เขากำเนิดจวบจนบัดนี้เวลาก็เพิ่งจะผ่านไปสองร้อยกว่าปีเท่านั้น
ห้าล้านปีนั้นมีความหมายโดยรวมว่าอย่างไร? อายุไขของผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพช่วงกลางคนหนึ่งมากสุดก็แค่ห้าล้านปีเท่านั้น แต่เมื่ออยู่ในปากของจีเสวียนคงและเฒ่าประหลาดเทียนหยุนแล้ว ราวกับว่าห้าล้านปีมันเรียบง่ายเหมือนการดีดนิ้วทีหนึ่ง